ภาพ พระเมรุมาศ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี จาก Thai Royal Cremation Ceremony
พระเมรุมาศ สถานที่ใช้ประกอบพระราชพิธีถวายพระเพลิง พระบรมศพ ภายในมีพระเมรุทอง โดยจะมีการจัดสร้างเป็นสถาปัตยกรรมชั่วคราวที่ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง ถือเป็นงานสร้างครั้งประวัติศาสตร์เพราะต้องอาศัยผู้ชำนาญด้านศิลปกรรม สถาปัตยกรรม ประวัติศาสตร์และศาสนา โดย พระเมรุมาศนั้นมีแนวคิดมาจากคติความเชื่อแบบพราหมณ์ เรื่อง เขาพระสุเมรุ อันเป็นความเชื่อที่ว่า พระมหากษัตริย์เป็นสมมติเทพ ที่เสด็จฯลงมายังโลก เมื่อสวรรคตก็มีการส่งเสด็จฯ กลับเขาพระสุเมรุตามเดิม
พระเมรุมาศ เปรียบเหมือน เขาพระสุเมรุ ใจกลางหลักจักรวาล ตั้งอยู่เหนือน้ำ ๘๔,๐๐๐ โยชน์ มีภูเขารองรับ ๓ ลูก โดยส่วนฐานคือ ตรีกูฏ (สามเส้าหรือสามยอด) มีภูเขาล้อมรอบ ๗ ทิว เรียกว่า สัตตบริภัณฑคีรี คือ ทิวเขา ยุคนธร กรวิก อิสินธร สุทัศ เนมินธร วินตกและอัสกัณ มีเทวดาจตุมหาราชิก และบริวารสถิตอยู่ ซึ่งทิวเขาเหล่านั้นก็คือ อาคารประกอบ ได้แก่ประดุจโบสถ์ วิหาร มีระเบียงล้อมรอบ ซึ่งเรียกว่าทับเกษตร หรือที่พัก บนยอดเขาพระสุเมรุ คือสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ซึ่งยอดบนสูงสุดของพระเมรุมาศ จะมีการจารึกพระปรมาภิไธย/พระนามาภิไธย และเศวตฉัตร
ในรัชสมัยของรัชกาลที่ ๙ มีการจัดสร้างพระเมรุมาศและพระเมรุ ทั้งหมด ๔ ครั้ง ได้แก่
• พระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินีในรัชกาลที่ ๗ ในปี ๒๕๒๗ ใช้การยึดแบบพระเมรุมาศถวายพระเพลิงพระบรมศพสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนี พระพันปีหลวง
• พระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ในปี ๒๕๓๘ เริ่มมีการนำวัสดุเรซิ่นมาใช้ในการก่อสร้างพระเมรุมาศ ตามที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้พระราชทานพระวินิจฉัยเพื่อลดปริมาณไม้และความรวดเร็วในการก่อสร้าง
• งานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ในปี พ.ศ. ๒๕๕๑ จัดสร้างพระเมรุ โดยในครั้งนั้นมีการติดตั้งลิฟต์เพื่อความสะดวกในการเสด็จฯ
• งานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี ในปี ๒๕๕๔ ใช้การยึดแบบงานสร้างเดียวกับพระพี่นางฯ
ทั้งนี้สำหรับ งานพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัฐบาลได้สั่งการให้กระทรวงวัฒนธรรม เตรียมการเกี่ยวกับการสร้างพระเมรุโดยขอพระราชวินิจฉัยจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี