HIGHLIGHT CONTENT

เปิดจุดกำเนิด SPECTRE องค์กรร้ายระดับตำนานของหนังสายลับเจมส์ บอนด์

  • 19,482
  • 04 ต.ค. 2021

SPECTRE ... องค์กรร้ายในเจมส์ บอนด์

 

แปลและเรียบเรียงโดย Aye, Ms. You.
ขอบคุณข้อมูลจาก สมาชิกเว็บไซต์พันทิปคุณ Alecaster, Jamesbond.wikia.com

 

  

 

กำเนิดองค์กรร้ายสุดเยือกเย็น SPECTRE

SPECTRE ย่อมาจาก Special Executive for Counter-Intelligence, Terrorism, Revenge and Extortion เป็นองค์กรก่อการร้ายข้ามชาติที่ถูกแต่งขึ้นจากปลายปากกาของ เอียน เฟลมมิ่ง, เควิน แม็คคลอรี่ และ แจ็ค วิตติ้งแฮม โดยปรากฏตัวเป็นครั้งแรก ใน Thunderball นวนิยายเรื่องที่ 8 ของชุด เจมส์ บอนด์ ที่ตีพิมพ์เมื่อปี 1961 ว่าด้วยปฏิบัติการ Omega ของ SPECTRE ในการจู่โจมเข้ายึดเครื่องบิน Villiers Vindicator พร้อมเข้าควบคุมหัวรบนิวเคลียร์อีก 2 ลูกเพื่อเรียกค่าไถ่จำนวน 100 ล้านปอนด์จาก NATO และนิยายเรื่องนี้ยังเป็นการเผยโฉมหน้าบอสใหญ่แห่ง SPECTRE อย่าง เอิร์น สตาฟโร โบลเฟลด์ (Ernst Stavro Blofeld) ศัตรูตัวฉกาจตลอดกาลของ เจมส์ บอนด์ ด้วย

SPECTRE และภารกิจร้ายขององค์กรถูก เจมส์ บอนด์ กล่าวถึงเพียงเล็กน้อยในนวนิยายเรื่อง The Spy Who Loved Me ซึ่งตีพิมพ์เมื่อเมษายน ปี 1962 ก่อนจะกลับมาผงาดบนหน้ากระดาษอย่างสมภาคภูมิอีกครั้งใน On Her Majesty’s Secret Service นวนิยายเล่มที่ 10 พร้อมกับย้ายถิ่นฐานไปทำงานวิจัยลับที่ Piz Gloria บนยอดเขา Schilthorn ในสวิตเซอร์แลนด์ และปฏิบัติการลับนำหญิงสาวชาวอังกฤษและไอริชที่เป็นโรคภูมิแพ้ประเภทต่างๆมาจับล้างสมอง พร้อมเปลี่ยนให้เป็นอาวุธชีวภาพเตรียมทำลายระบบเศรษฐกิจด้านอาหารของโลกนั่นเอง

ปิดท้ายด้วยการผงาดเป็นครั้งสุดท้ายบนหน้ากระดาษกับนวนิยายเรื่อง You Only Live Twice ซึ่งตีพิมพ์เมื่อมีนาคม 1964 สานต่อเรื่องราว 8 เดือนให้หลังจากเหตุการณ์ใน  On Her Majesty’s Secret Service โดย SPECTRE ได้ย้ายแหล่งกบดานไปยังปราสาทแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น ซึ่งภายในปราสาทนั้นเต็มไปด้วยสวนพืชมีพิษที่ได้รับการขนานนามว่า Garden of Death แต่สุดท้าย เจมส์ บอนด์ ก็ตามไปกำจัดได้ตามสไตล์ในที่สุด ซึ่งนิยายเล่มนี้ถือเป็นบทสรุปปิดฉากตำนานองค์กรร้าย SPECTRE และนวนิยายทั้ง 3 เล่มที่อุดมด้วยปฏิบัติการสุดโหดของ SPECTRE ที่กล่าวไปข้างต้นนั้น ก็กลายเป็นที่รู้จักกันในนาม Blofeld Trilogy โดยตั้งตามชื่อของบอสใหญ่ SPECTRE นั่นเอง

 

 

 

จากนวนิยายสู่การโลดแล่นบนจอเงินของ SPECTRE

นับว่าในโลกภาพยนตร์นั้น SPECTRE เป็นองค์กรลับมหาวายร้ายผู้มีบทบาทเป็น “ขั้วตรงข้าม” กับ เจมส์ บอนด์ อย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะในยุคของ ฌอน คอนเนอรี่ โดยมีการถูกพูดถึงเป็นครั้งแรกใน Dr. No (1962) ภาพยนตร์ เจมส์ บอนด์ เรื่องแรกซึ่งผู้ที่พูดถึงก็คือ ดร.จูเลียส โน หนึ่งในลูกสมุนของ SPECTRE ตัวร้ายของเรื่อง ทำให้หนังเรื่องนี้กลายเป็นตัวเปิดฉากให้ SPECTRE ได้ออกมาแผลงฤทธิ์ร้ายกาจประมือกับ บอนด์ ปูทางสู่ภาคต่อๆมาอย่าง From Russia With Love (1963) ที่มีการเปิดเผยตัวผู้นำองค์กรเป็นครั้งแรก โดยมีโค้ดลับว่า Number 1 พร้อมเผยตัวลูกสมุนจอมโฉดอย่าง โรซ่า เคล็บบ์  อดีตสมาชิกองค์กร SMERSH ผู้ผันตัวเข้าร่วมกับ SPECTRE โดยในภาคนี้ ภารกจิหลักของ SPECTRE ก็คือการชิงเครื่องถอดรหัสเล็คเตอร์มาไว้ในครอบครอง พร้อมล้างแค้นให้กับวายร้ายผู้ภักดีอย่าง ดร.โน นั่นเอง

 

  
  

 

SPECTRE กลับมามีบทบาทอีกครั้งใน Thunderball (1965) หนังลำดับที่ 4 ของชุดเจมส์ บอนด์ โดยปฏิบัติภารกิจร้ายข้ามชาติเหมือนกับในนิยาย นำทีมโดย เอเมลิโอ้ ลาร์โก้ วายร้ายโค้ดเนม Number 2 ต่อกันด้วยหนังลำดับที่ 5 ที่ใช้ชื่อว่า You Only Live Twice (1967 ซึ่งครั้งนี้มีการเผยโฉมหน้าและเปิดตัวจอมมหาวายร้ายหมายเลข 1 นามว่า เอิร์น สตาฟโร โบลเฟลด์ บอสใหญ่แห่ง SPECTRE ผู้มาพร้อมกับแมวเปอร์เซียขนปุยสีขาวข้างกาย โดยมีภารกิจร้ายคือ การยึดกระสวยอวกาศของสหรัฐอเมริกาและโซเวียต เพื่อทำให้ทั้งสองประเทศผิดใจกันและก่อสงครามนั่นเอง

SPECTRE ลี้ภัยไปกบดานตั้งฐานทัพใหม่พร้อมด้วยภารกิจร้ายที่กลับมาทำลาย เจมส์ บอนด์ อีกครั้งใน On Her Majesty’s Secret Service (1969) หนังลำดับที่ 6 ว่าด้วยการสร้างกองทัพนางฟ้าแห่งความตาย ที่จับเอาหญิงสาวทั่วโลกมาทำเป็นอาวุธชีวภาพ พร้อมแพร่ไวรัสทำลายระบบอาหารของโลก และปิดท้ายด้วยฉากจบที่สะเทือนอารมณ์คนดู (และ เจมส์ บอนด์ เวอร์ชั่น จอร์จ ลาเซนบี้) อย่างไม่อาจให้อภัยได้ด้วย และก่อนจะหายไปหน้าไปตลอดกาล SPECTRE ก็มาปรากฏตัวเป็นครั้งสุดท้ายใน Diamonds Are Forever (1971) หนังลำดับที่ 7 ว่าด้วยการล้างแค้นของ เจมส์ บอนด์ พร้อมเผยความลับสุดยอดของ โบลเฟลด์ มหาวายร้ายอันดับหนึ่งและภารกิจการสร้างจานดาวเทียมเลเซอร์ขนาดยักษ์จากเพชรนั่นเอง 

หลังจากนั้นชื่อของ SPECTRE ก็หายไปจากจอเงินแฟรนไชส์ เจมส์ บอนด์ มีเพียง โบลเฟลด์ นายใหญ่แห่ง SPECTRE มาปรากฏตัวเล็กน้อยในฉากแอคชั่นเปิดเรื่องของ For Your Eyes Only (1981) หนังลำดับที่ 12 ซึ่งไม่มีแม้การระบุชื่อในเครดิต เนื่องด้วยปัญหาลิขสิทธิ์นั่นเอง

 
 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง