Avatar The Way of Water การกลับมาของภาพยนตร์ทำเงินสูงสุดตลอดกาลของโลก กำกับภาพยนตร์โดยเจมส์ คาเมรอน ซึ่งในภาคนี้เป็นการกลับมาหลังจากทิ้งห่างภาคแรกไปกว่า 13 ปี ซึ่งผู้กำกับได้เสิร์ฟความอลังการเต็มอิ่มตลอดระยะเวลากว่า 3 ชั่วโมง 12 นาที ทั้งงานภาพ งานเสียง การแสดงและการออกแบบทุกองค์ประกอบจนเกือบเรียกได้ว่านี่ไม่ใช่แค่ภาพยนตร์ธรรมดา แต่เป็นงานศิลปะภาพยนตร์ชิ้นเอกของโลกอีกเรื่องก็ว่าได้
Avatar The Way of Water เล่าเรื่องสานต่อจากภาคแรกแบบไม่รีรอ ไม่ทบทวนความทรงจำมากมาย เหตุการณ์หลังจากที่เจค ตัดสินใจอยู่ในร่างอวตารตลอดไปร่วมกับ เนติรี พวกเขามีลูกและสร้างครอบครัว นำพาชนเผ่าโอมาติกาย่า ให้อยู่อย่างมีความสุขในพงไพร แต่แล้วหายนะก็กลับมาเมื่อมนุษย์ได้เริ่มรุกรานแพนดอร่าอีกครั้งและการกลับมาของผู้พันคนเก่าในร่างใหม่ ที่รอบนี้เขาจะต้องมาสะสางแค้นที่เจคและเนติรีเคยก่อไว้ ทั้งสองต้องหนีภัยอันตรายไปสู่ดินแดนใหม่ และเริ่มสร้างชีวิตใหม่ เรียนรู้ในสิ่งที่พวกเขาไม่คุ้นเคย
ในส่วนของงานภาพ Avatar The Way of Water พาเราไปชมความงดงามของแพนดอร่าทั้งในส่วนของป่าที่เราคุ้นเคยจากภาคแรก ความเขียวขจี เรืองแสง สัตว์ป่า สิ่งมีชีวิตทั้งบนฟ้าและบนบก การอยู่ร่วมกันอย่างเกื้อกูลและสมดุล แต่กลับถูกทำลายด้วยน้ำมือของมนุษย์จนย่อยยับแหลกสลายในพริบตา ตัดภาพความเขียวขจี สู่ ดินแดนใหม่ที่เต็มไปด้วยโทนสีฟ้า ความใสของน้ำทะเล และสีสันของสิ่งมีชีวิตใต้น้ำ ปะการัง และเหล่าปลาน้อยใหญ่ ไม่เพียงแต่งานภาพ เจมส์ คาเมรอน ยังลงรายละเอียดลึกไปถึงว่าชาวนาวีที่อาศัยในต่างที่ต่างถิ่นจะมีความแตกต่างกันอย่างไร ทั้งลักษณะของกายภาพ เครื่องนุ่งห่ม ที่อยู่อาศัย ภาษาและการดำรงชีวิต เหมือนเราได้ทัวร์สำรวจแพนดอร่าเลยทีเดียว งานภาพไม่น่าเชื่อว่าที่เห็นจะเป็นงาน CGI เพราะมันเนียนเหมือนจริงมาก ฉากใต้น้ำในระบบ 3D จะทำให้เราเหมือนนั่งอยู่หน้าตู้กระจกอควาเรียมขนาดยักษ์ที่มีปลาว่ายวนผ่านหน้าเราไป
ในส่วนของเนื้อเรื่อง Avatar The Way of Water มีการแบ่งพาร์ทการเล่าเรื่องที่สมดุลกันเป็นอย่างมาก หยิบประเด็นของสายสัมพันธ์ครอบครัว การรักสิ่งแวดล้อม การล่า ความสนุกสนานของวัยหนุ่มสาว สงคราม และการสูญเสีย มาเล่าครบทุกอารมณ์ภายในระยะเวลากว่า 3 ชั่วโมง ในช่วงแรกคนดูจะเพลิดเพลินกับการได้สำรวจสิ่งมหัศจรรย์ต่างๆทั้งที่คุ้นเคยมาแล้วในภาคแรก และ ความสวยงามในโลกใต้น้ำ ในขณะที่ปริศนามากมายก็เริ่มเกิดขึ้นกับตัวละครและเราไม่อาจจะคาดเดาได้ว่าเป็นไปในทิศทางไหน ฉากมหาสงครามที่ยิ่งใหญ่และลุ้นเอาใจช่วยไม่แพ้ภาคแรก ครั้งนี้เราจะได้เห็นกองทัพมนุษย์ที่แกร่งขึ้น มีลูกเล่นของเทคโนโลยีมากขึ้น ในขณะที่ชาวนาวีก็มีสัตว์พาหนะเท่ๆออกมาให้เราได้หลงใหลพวกมัน
การกลับมาของ Avatar The Way of Water เป็นการพิสูจน์อย่างหนึ่งว่า ภาพยนตร์สเกลระดับนี้คู่ควรกับการดูในโรงภาพยนตร์เท่านั้น ไม่เหมาะกับการดูผ่านจอโทรทัศน์หรือรอให้ลงสตรีมมิ่งเพราะงานภาพที่เห็นชัดๆบนจอยักษ์และเสียงที่จะพาเราหลุดเข้าไปในบรรยากาศ ถูกขับเน้นส่งให้งานคุณภาพของเจมส์ คาเมรอน ทำงานออกมาได้อย่างมีประสิทธิภาพและจะทำให้เราในฐานะคนดูต้องตกอยู่ในมนต์เสน่ห์ของพระเจ้าแห่งโลกภาพยนตร์คนนี้อีกครั้ง