ทบทวนความจำกันก่อนไปเยือนอีกครั้ง ลืมกันไปแล้วหรือยังว่าแพนโดร่าและสิ่งมีชีวิตบนดาวเป็นอย่างไร?

เจมส์ คาเมรอน เคยได้ให้นิยามของดาวแพนโดร่าผ่านการสัมภาษณ์ไว้ว่า “มันเหมือนสวนอีเดนที่เต็มไปด้วยเขี้ยวเล็บ”

ดาวแพนโดร่า หรือที่ชาวนาวีเรียกกันในชื่อ “ลูกหลานของเอวา” เป็นดวงดาวที่สามารถตั้งถิ่นฐานอยู่อาศัยได้ มีลักษณะคล้ายโลก แต่แตกต่างกันที่แพนโดร่าเป็นดวงจันทร์ดวงที่ 5 ของดาวเคราะห์แก๊สที่มีชื่อว่า “Polyphemus” ซึ่งอยู่ในระบบดาว Alpha Centauri ซึ่งเป็นระบบดาวที่อยู่ใกล้กับระบบสุริยะของมนุษย์มากที่สุด

ดววจันทร์แพนโดร่าถูกค้บพบโดยกล้องโทรทรรศน์ในช่วงเวลาประมาณปี 2050 ถึง 2077 โดยแพนโดร่าที่เต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตนี้ถือเป็นหนึ่งในสิ่งที่น่าสนใจมากที่สุดสิ่งหนึ่งที่มนุษยชาติเคยพบเจอในรอบหลายร้อยปี พวกสำนักข่าวต่าง ๆ ก็มักจะนำเสนอวิดีโอเกี่ยวกับธรรมชาติบนแพนโดร่า รวมไปถึงสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ ทั้งพืชและสัตว์

สำหรับมนุษย์โลกนั้น ดาวแพนโดร่านั้นลึกลับ, มีความเก่าแก่ และน่าหวาดกลัว โดยการส่องกล้องมองดูจากวงโคจรรอบดาว ก็สามารถมองเห็นเห็นพืชพรรณต่าง ๆ บนดาวที่ชี้ชัดได้ว่าดวงจันทร์ดวงนี้เต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิต หนึ่งในสิ่งมีชีวิตบนดาวแพนโดร่า คือ Direhorse สิ่งมีชีวิตผิวหนังสีเทาที่สามารถเรืองแสงได้ที่มีรูปร่างคล้ายม้าที่มีหกขา ซึ่งเป็นสิ่งมีชีวิตที่ชาวนาวีจะใช้ขี่เมื่อทำการออกล่า และอีกชนิดหนึ่งคือ Mountain Banshee ที่ชาวนาวีจะทำใช้ขี่หากจะทำการล่าจากบนฟ้า แต่สัตว์นักล่าเหล่านี้ก็อาจจะตกเป็นเหยื่อของ Great Leonopteryx ได้อีกทอดหนึ่ง ซึ่งเจ้าสิ่งมีชีวิตชนิดนี้ก็คือสัตว์ปีกขนาดใหญ่ที่ตัวเอกอย่าง Jake Sully เป็นผู้ขี่ในตอนท้ายของภาพยนตร์ภาคแรก ส่วนในพื้นที่เบื้องล่างก็จะมีสัตว์นักล่าสุดแสนจะอันตรายครอบครองอยู่ อย่างเช่นฝูง Viperwolves หรือเจ้าสัตว์หนังหนาอย่าง Hammerhead Titanotheres และสิ่งมีชีวิตที่น่ากลัวอย่างที่สุดอย่าง Thanator

ส่วนพืชบนดาวแพนโดร่านั้น นอกเหนือไปจากการที่มีสีสันหลากหลายแล้วนั้น ก็มีรูปร่างลักษณะคล้ายกับพืชบนโลกอยู่พอสมควร แต่เนื่องจากความแตกต่างของแรงดึงดูด รูปทรงของพืชพรรณพวกนี้ก็เลยออกจะค่อนข้างแปลกตาสำหรับมนุษย์ แถมสัดส่วนยังใหญ่กว่าพืชบนโลกมากเนื่องจากแรงดึงดูดที่ตำ่กว่าโลกของดาวแพนโดร่าไม่ได้ดึงรั้งการเติบโตของพืชเหล่านี้ไว้ และพืชพรรณต่าง ๆ บนดาวแพนโดร่ายังมีการเชื่อมต่อทางไฟฟ้าเคมีระหว่างรากของพวกมัน ซึ่งทำหน้าที่คล้ายเซลล์ประสาท รวมกันแล้วเกิดขึ้นมาเป็นระบบสมองที่คอยกักเก็บความรู้สึก ซึ่งระบบนี้กระจายไปทั่วทั้งดาว โดยเป็นที่เรียกกันในชื่อ “เอวา (Eywa)” ตามคำเรียกของชาวนาวี

แม้ว่าดาวแพนโดร่าจะมีขนาดใหญ่พอ ๆ กับดาวโลก แต่มันก็เป็นเพียงหนึ่งในดวงจันทร์ของดาวเคราะห์แก๊สที่มีดวงจันทร์ดวงอื่นอีกถึง 13 ดวง อย่างไรก็ตามด้วยความที่มีขนาดเล็กกว่าโลก แรงดึงดูดจึงน้อยกว่าโลก ด้วยเหตุเช่นนี้สิ่งมีชีวิตส่วนใหญ่บนดาวแพนโดร่าจึงมีขนาดใหญ่โต และยังมีถึงหกขา เพื่อสร้างพลังงานในการวิ่งบนพื้นให้มากพอที่จะสู้กับแรงต้านอากาศที่มีความดันบรรยากาศสูงกว่าโลก ตามที่ทีมงานของ spaceth.co ได้ให้ข้อมูลไว้

สำหรับใครที่คิดถึงบรรยากาศเหล่านี้ ก็สามารถกลับไปเยือนดาวแพนโดร่าได้อีกครั้งแล้วในตอนนี้ เพราะว่า Avatar: The Way of Water เข้าฉายในโรงภาพยนตร์แล้ววันนี้

 สำหรับแฟนหนังเมเจอร์ ห้ามพลาดกับบัตรดูหนังสุดคุ้ม M PASS ที่จะทำให้คุณคุ้มเต็มอิ่มกับการดูหนังตลอดทั้งปี เตรียมไปมันส์กับกองทัพหนังดังมากมาย สมัครง่ายๆเพียงแค่คลิก ที่นี่ 

ขอบคุณข้อมูลจาก Avatar Fandom
ขอบคุณข้อมูลจาก spaceth.co