มาฟังเบื้องหลังการถ่ายทำสุดลํ้าที่ทำให้ Gran Turismo เหมือนกับถูกยกออกมาจากเกมต้นฉบับ

มาฟังเบื้องหลังการถ่ายทำสุดลํ้าที่ทำให้ Gran Turismo

เหมือนกับถูกยกออกมาจากเกมต้นฉบับ

 

 

Gran Turismo หรือ GT แกร่งทะลุไมล์ เป็นภาพยนตร์ที่ดัดแปลงมาจากเกมแข่งรถชื่อดัง ที่มาพร้อมกับฉากการแข่งงขันสุดเร้าใจ ที่ทีมงานเบื้องหลังพยายามที่จะสร้างขึ้นโดยใช้ซีจีไอให้น้อยที่สุด รวมไปถึงยังต้องรักษาความเป็นวิดีโอเกมของมันเอาไว้ให้ได้อีกด้วย ทั้งหมดนี้ถือเป็นความท้าทายครั้งสำคัญของผู้กำกับ นีลล์ บล็อมแคมป์ แต่ก็โชคดีที่เขาได้นักเล่นเกมตัวจริงมาช่วยงานถึงสองคน ทุกอย่างที่เขาต้องการจึงเกิดขึ้นได้

ในการให้สัมภาษณ์กับทางโคลไลเดอร์ อาร์ชี่ มาเด็คเวย์ นักแสดงผู้สวมบทบาทเป็น แจนน์ มาร์เดนโบโร ชายผู้เป็นเบื้องหลังแรงบันดาลใจในภาพยนตร์เรื่องนี้ ได้ออกมาเปิดเผยถึงวิธีการและเทคโนโลยีเบื้องหลังการถ่ายทำเอาไว้ว่า ในบ้างครั้งอาจจะมีจำนวนกล้องที่ถูกใช้ในฉากเดียวมากกว่าสิบตัว

 

“มันเป็นครั้งแรกสำหรับพวกเรา เป็นครั้งแรกของทุกคนในกองถ่ายเลย”

“บางครั้งเราจะใช้ 10 ถึง 11 ตัวในครั้งเดียว จำนวนฟุตเทจที่เราได้มามันเป็นอะไรที่เหลือเชื่อมาก”

 

 

“เดวิด ฮาร์เบอร์ ก็เพิ่งจะเล่าเรื่องในตอนที่เราถ่ายทำด้วยเลนส์มุมกว้างพิเศษ และ เดวิด ก็ถาม นีล ว่า ‘นี่จะเริ่มถ่ายกันรึยัง?’ แล้ว นีล ก็ตอบว่า “โอ้ กำลังถ่ายอยู่เลยเพื่อน เนี่ยกำลังถ่ายอยู่เลย” เขาถ่ายทำด้วยเลนส์ที่ยาวมากและเลนส์ที่ใกล้มาก ๆ ด้วย แต่ก็อยากที่จะรักษาความรู้สึกของระยะห่างเอาไว้ด้วย และกล้องเหล่านี้ก็เหมาะสมมากที่จะถ่ายทอดมันออกมา”

“บางครั้งพวกเขาและเธอก็เหมือนอยู่ห่างออกไปหลายสนามฟุตบอล แต่ก็สามารถที่จะถ่ายออกมาได้ใกล้อย่างน่าเหลือเชื่อและเต็มไปด้วยรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ มันน่าทึ่งมาก เรารู้ว่า ฌาคส์ โจฟเฟร็ท ผู้กำกับภาพยนตร์ของเรา เป็นมือดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้แล้ว มันช่วยมอบโอกาสให้เราได้ทำอะไรมากมาย เนื่องจากกล้องสามารถอยู่ห่างออกไปได้ และคุณก็จะได้รู้สึกถึงฉากรอบตัวได้อย่างเต็มที่”

 

 

อาร์ชี่ มาเด็คเวย์ ยังเสริมต่ออีกด้วยว่า การที่มีกล้องจำนวนมากนี้ ก็ช่วยให้ บล็อมแคมป์ สามารถที่จะมั่นใจได้ว่าทุกรายละเอียดในทุกนาทีจะถูกบันทึกไว้ได้จากทุกมุมมอง ทำให้กลายมาเป็นความสวยงามทางงานภาพของภาพยนตร์ฉบับสมบูรณ์ เช่นเดียวกันกับบางฉากที่แสดงถึงช่วงเวลาในชีวิตของ มาร์เดนโบโร

 

“เรายังรู้อีกด้วยว่าเมื่อเราสามารถถ่ายทำฟุตเทจได้มากขนาดนี้ในครั้งเดียว และมันก็เป็นอะไรที่น่าเหลือเชื่อ คุณถูกจับจ้องจากทุกมุมมอง ไม่ว่าคุณจะหันไปทางไหนมันก็จะมีเลนส์มองดูคุณอยู่ ซึ่งก็หมายความว่าคุณไม่จำเป็นต้องเล่นซํ้าไปซํ้ามาในฉากเล็ก ๆ ฉากเดียว คุณถูกถ่ายแบบ 360 องศา และนั่นมันอัศจรรย์มาก มันเป็นอะไรที่เจ๋งจริง ๆ”

 

 

เช่นเดียวกันกับการทำให้ฉากแข่งรถในภาพยนตร์เรื่องนี้เหมือนกับถูกยกออกมาจากเครื่องเล่นเพลย์สเตชั่น มาร์เดนโบโร ได้ออกมาอธิบายถึงวิธีการที่ผู้กำกับ นีลล์ บล็อมแคมป์ ใช้โดรนหลายตัวเพื่อที่จะทำให้กล้องอยู่นิ่งได้มากที่สุด ด้วยความช่วยเหลือจากมุมมองของนักเล่นเกมที่เคยผ่านการใช้จอยสติ๊กมาตลอดชีวิตแบบเขา เพื่อให้มันออกมาตรงกันมากที่สุด

 

“หลายฉากในหนังเรื่องนี้ใช้โดรนเยอะมาก มันแทบจะเหมือนฉากเปิดของเกม แกรนทูริสโม มันดูมีการเคลื่อนไหว แต่มันไม่ใช่แบบนั้นเลย มันคือชีวิตจริง ฉากเหล่านี้ไม่เคยถูกใช้มาก่อนในหนังช่วงที่ผ่านมา มันไม่มีอะไรหยุดนิ่งเลย และแน่นอนว่าผมมีความสุขมาก ๆ มันถูกถ่ายออกมาอย่างสวยงาม และ นีล ไปจนถึงทีมงานทุกคน ทำงานออกมาได้อย่างมหัศจรรย์มาก โดยส่วนตัวแล้ว ผมชอบฉากในพิทที่ฝนกำลังตก มันดูตึงเครียดมาก มันดูเหมือนจริง และมันดูเหมือนกับสิ่งที่มันควรจะเป็น มันมีอะไรหลายอย่างมากในตัวรายบละเอียด ผมมีความสุขมาก ๆ”

 

 

Gran Turismo หรือ GT แกร่งทะลุไมล์ มีกำหนดเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ในวันที่ 31 สิงหาคม ที่จะถึงนี้

 

สำหรับแฟนหนังเมเจอร์ ห้ามพลาดกับบัตรดูหนังสุดคุ้ม M PASS ที่จะทำให้คุณคุ้มเต็มอิ่มกับการดูหนังตลอดทั้งปี เตรียมไปมันส์กับกองทัพหนังดังมากมาย สมัครง่ายๆเพียงแค่คลิก ที่นี่ 

ขอบคุณข้อมูลจาก Collider