หากจะพูดว่าปี 2019 เป็นปีแห่งบทสรุปของโลกภาพยนตร์ก็คงจะไม่ผิดนัก เพราะภาพยนตร์หรือซีรีส์ที่อยู่ยงมายาวนาน เก็บเกี่ยวความนิยมมาเป็นระยะเวลาเกือบ หรือมากกว่า 10 ปี ได้เดินทางมาถึงบทสรุป ในทางโทรทัศน์ก็คงจะไม่ใช่เรื่องอื่นใดนอกจากมหาศึกชิงบัลลังก์ Game of Thrones ส่วนในโลกภาพยนตร์เอง เราก็ได้ชมกันไปแล้วกับมหากาพย์ที่ใช้เวลาเดินเรื่องราวผ่านภาพยนตร์มากกว่า 20 เรื่องกับ Avengers: Endgame แต่ในปีนี้เฟรนไชส์ภาพยนตร์ที่เดินทางมาสู่บทสรุปยังมีอีก 1 เรื่อง นั่นคือ X-Men: Dark Phoenix
ในขณะที่ Games of Thrones เดินทางผ่านเรื่องราวมา 8 ซีซั่น และ Avengers กับการเดินทางอีก 11 ปี เฟรนไชส์ X-Men อยู่คู่กับโลกภาพยนตร์มาตั้งแต่ภาพยนตร์ภาคแรกเข้าฉายก็รวมเวลากว่า 19 ปีแล้ว ผู้กำกับ Simon Kinberg ได้เปรียบเทียบความรู้สึกของเขาที่มีต่อภาพยนตร์เรื่องนี้เอาไว้ว่า...
“ผมตั้งใจทำให้หนังเรื่องนี้เป็นบทสรุปการเล่าเรื่องราวกว่า 20 ปี การมีอยู่ของ X-Men ถูกรวบรวมมาเพื่อสิ่งนี้ และมันเป็นการได้เห็นครอบครัวกลับมารวมตัวกันอีกครั้ง และหนังเรื่องนี้คือหนังที่ท้าทายความเป็นครอบครัว และเรียกน้ำตาของพวกเขาในทางใหม่ ๆ ผมจินตนาการบทสรุปไม่ใช่แค่ของสตูดิโอ แต่มันเป็นเหมือนบทสรุปของวัฏจักรของเรื่องราว X-Men ด้วย...
...แน่นอนละว่าพวกเขาจะสร้างหนังเรื่อง X-Men ต่อไปในอนาคต แต่การเดินทางของทีมนักแสดงชุดนี้ ผมรู้สึกว่ามันถึงเวลาแล้วที่เราจะทำในแบบที่ Game of Thrones ทำ หรือ Endgame ทำ ผมเห็นพวกเขาพยายามค้นหาทิศทางใหม่ ๆ และการพยายามเดินทางไปสู่บทสรุปที่สวยงาม”
แน่นอนว่าบทสรุปของ Game of Thrones และ Avengers: Endgame ได้พาผู้ชมไปสู่จุดสิ้นสุดของเรื่องราวที่ชวนให้คิดต่อไปว่าเรื่องราวของตัวละครที่ยังเหลืออยู่จะดำเนินต่อไปอย่างไรในอนาคต มารอดูกันว่า X-Men: Dark Phoenix จะสามารถพาเรื่องราวของพวกเขาไปสู่บทสรุปอย่างไร เพื่อปิดตำนานเหล่ามนุษย์กลายพันธุ์ที่อยู่ภายใต้การดูแลของ 20th Century Fox ชมพร้อมกันในโรงภาพยนตร์ 6 มิถุนายนนี้
Source: Cinema Blend