ผู้กำกับ เอ็ม. ไนท์ ชยามาลาน เปิดเผยว่าเขาพอแล้วกับการสร้างภาพยนตร์ภาคต่อ

ผู้กำกับ เอ็ม. ไนท์ ชยามาลาน เปิดเผยว่าเขาพอแล้วกับการสร้างภาพยนตร์ภาคต่อ

 

 

หลังจากโด่งดังอย่างสุด ๆ กับภาพยนตร์สัมผัสสยอง The Sixth Sense (1999) ผู้กำกับ เอ็ม. ไนท์ ชยามาลาน ก็ได้สร้างชื่อเสียงของตนเองขึ้นมาในฐานะผู้กำกับที่มีแนวทางการกำกับที่แปลกและมีเอกลักษณ์ชัดเจนมากที่สุดคนหนึ่งในฮอลลีวูด ภาพยนตร์เรื่องต่อ ๆ มาของเขาอย่าง Signs (2002) และ The Happening (2008) ยิ่งผลักดันให้แนวทางอันเป็นเอกลักษณ์ของเขาโดดเด่นขึ้นไปอีก โดยเฉพาะการหักมุมในองค์ที่สามที่มักจะเกิดขึ้นในภาพยนตร์ของเขา นอกเหนือไปจากการทำภาพยนตร์ The Last Airbender (2010) ที่ต่อยอดมาจากแอนิเมชั่นในชื่อ Avatar: The Last Airbender ผู้กำกับเชื้อสายอินเดียนก็ยังคงยึดติดอยู่กับแนวทางในการสร้างภาพยนตร์เขย่าขวัญในแบบออริจินัล

ซึ่งทุกอย่างก็เปลี่ยนไปเมื่อภาพยนตร์สยองขวัญเชิงจิตวิทยาที่นำแสดงโดย เจมส์ แม็กอะวอย ที่มีชื่อว่า Split (2016) เข้าฉาย โดยในช่วงท้ายของภาพยนตร์เรื่องนี้ ก็ได้มีตัวละครของนักแสดงมาประสบการณ์ บรูซ วิลลิส ที่มีชื่อว่า เดวิด ดันน์ ผู้เป็นตัวละครนำจากภาพยนตร์เรื่อง Unbreakable (2000) ปรากฏตัวออกมาเป็นระยะเวลาสั้น ๆ โดยการปรากฏตัวในครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่ เอ็ม. ไนท์ เชื่อมโยงเรื่องราวในภาพยนตร์สองเรื่องของเขาเข้าด้วยกัน ก่อนที่จะเปิดตัวภาพยนตร์เรื่อง Glass (2019) ที่เป็นการนำเอาโลกของ Unbreakable และ Split มาไว้ด้วยกัน

ระหว่างการให้สัมภาษณ์กับ ComicBook.com ในงานฉายรอบปฐมทัศน์โลกของภาพยนตร์เรื่องใหม่ของเขาอย่าง Knock at the Cabin ชยามาลาน ได้ออกมาพูดถึงว่า เขาได้ทิ้งวันเวลาของการทำภาพยนตร์ภาคต่อไว้ข้างหลังแล้ว ทั้งที่เกี่ยวกับเฟรนไชส์ Unbreakable และจักรวาลของภาพยนตร์เดี่ยวเรื่องอื่น ๆ ที่เขาเคยทำมา

“ผมคิดว่าผมคงไม่ทำ [ภาพยนตร์ภาคต่อ]” ชยามาลาน พูด

“เดิมทีแล้ว Unbreakable มันไม่ควรจะเป็นภาพยนตร์ไตรภาค นั่นคือแนวทางที้ผมคิดเกี่ยวกับมัน เป็นเรื่องราวที่มีความยาว แต่ถ้าหากยาวกว่านั้น คงไม่ใช่แล้ว”

ชยามาลาน ยังเสริมอีกด้วยว่า ที่มันเป็นแบบนี้ก็เพราะว่า เขามองเห็นคุณค่าในการบอกเล่าเรื่องราวใหม่ ๆ มากกว่าการย้อนกลับไปยังเรื่องราวเก่า ๆ

“ผมเพลิดเพลินไปกับอะไรที่มันออริจนัลมากเกินไป ผมมีความคิดหลาย ๆ อย่างที่อยากจะเล่า” เขาพูดต่อ

“มันแค่รู้สึกเศร้าที่ต้องย้อนกลับไป ผมอยากที่จะท้าทายและเริ่มต้นใหม่จากศูนย์กับพวกคุณทุกครั้งไป แล้วก็บอกว่า ‘นี่คือความคิดใหม่พร้อมกับรสชาติใหม่’”

ส่วนภาพยนตร์เรื่องล่าสุดของเขาอย่าง Knock at the Cabin นั้นดัดแปลงมาจากนวนิยายของ พอล จี. เทร็มป์เลย์ ที่มีชื่อว่า The Cabin at the End of the World โดย ชยามาลาน เขียนบทภาพยนตร์วันสิ้นโลกเรื่องนี้ด้วยตนเอง

Knock at the Cabin หรือ เสียงเคาะที่กระท่อม เข้าฉายในโรงภาพยนตร์แล้ววันนี้

 

 สำหรับแฟนหนังเมเจอร์ ห้ามพลาดกับบัตรดูหนังสุดคุ้ม M PASS ที่จะทำให้คุณคุ้มเต็มอิ่มกับการดูหนังตลอดทั้งปี เตรียมไปมันส์กับกองทัพหนังดังมากมาย สมัครง่ายๆเพียงแค่คลิก ที่นี่ 

ขอบคุณข้อมูลจาก ComicBook