รีวิวฉบับไม่สปอยล์!! Pirates 5 เซอร์วิสแฟนหนังโจรสลัดแบบจัดเต็ม ปลุกตำนานฟื้นคืนชีพ (A)

 

Review: Pirates 5 เสน่ห์ที่ไม่เคยจางหายของโจรสลัด สดใหม่ อลังการ รับรองว่าหายคิดถึง!

 

 

เป็นเวลากว่า 6 ปีแล้วตั้งแต่ Pirates of the Caribbean: On Stranger Tides (ภาคที่ 4) ได้ออกมาเล่าตำนานที่ไม่ได้เชื่อมต่อจากไตรภาคแรกมากนัก จนมาในภาคล่าสุดนี้ Pirates of the Caribbean: Salazar’s Revenge ได้หันใบเรือโต้ลมกลับมาสานต่อตำนานจากภาคที่สามที่ทิ้งค้างคาเอาไว้ ท่ามกลางการผจญภัยที่แสนตื่นเต้น ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้นำเอากลิ่นอายเก่าๆที่แฟนโจรสลัดเคยหลงใหลให้หวนกลับมา ในขณะเดียวกันตัวละครหลักจากไตรภาคแรกก็มาให้เห็นหน้ากันจนครบครัน เรียกได้ว่าเป็นงานคืนสู่เหย้าชาวโจรสลัดก็ไม่ผิดนัก

 

 

เรื่องราวในภาคนี้จะเริ่มต้นที่จุดหลักของเรื่อง นั่นคือ เฮนรี่ เทอร์เนอร์ ลูกชายของวิล เทอร์เนอร์ ซึ่งกลายเป็นกัปตันวิล ผู้ถูกคำสาปของเรือฟลายอิ้ง ดัทช์แมนให้กลายเป็นกัปตันเรือที่สามารถขึ้นบกได้เพียง 1 ครั้งในรอบสิบปี เฮนรี่พยายามหาวิธีทางเพื่อให้ได้อยู่กับพ่อของเขาตั้งแต่เด็ก ทำให้เขากลายเป็นคนที่รอบรู้เกี่ยวกับตำนานมากมายแห่งท้องทะเล และรู้ว่าทางเดียวที่จะช่วยให้พ่อของเขาพ้นคำสาปได้นั้นอยู่ที่การครอบครองอาวุธที่มีอำนาจเหนือมหาสุมทรทั้งมวล ‘ตรีศูลแห่งโพเซดอน’ แต่เขาเพียงคนเดียวไม่อาจจะเดินทางไปได้โดยลำพัง เฮนรี่จึงออกตามหาตำนานแห่งโจรสลัดเพื่อหวังให้พาเขาไปสู่จุดหมายปลายทาง ซึ่งตำนานคนนั้นคือ ‘กัปตันแจ็ค สแปร์โรว์’ นี่คือจุดเริ่มต้นของเรื่องราวบทใหม่ที่กำลังถูกเล่าขาน

 

แม้ว่าบทภาพยนตร์จะมีช่องโหว่ และดูไปไม่สุดในบางทิศทาง แต่ความบันเทิงในรูปแบบของโจรสลัดที่เราคุ้นเคย ซึ่งอัดแน่นมาตลอด 2 ชั่วโมงนี้ก็เรียกได้ว่าทำให้เราหายคิดถึงกันไปเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นความกวนปนเจ้าเล่ห์ของกัปตันแจ็ค สแปร์โรว์ ที่ยังคงเส้นคงวาในการแย่งซีนทุกคนได้เช่นเคย แถมกัปตันแจ็คในวัยหนุ่มน้อยนี่ก็หล่อเหลาและกวนได้มีเสน่ห์สุดๆ เชื่อเลยว่าสาวๆหลายคนจะต้องหลงเขาคนนี้อย่างแน่นอน 

 

 

ในส่วนของนักแสดงใหม่อย่าง เฮนรี่ เทอร์เนอร์ (รับบทโดยเบรนตัน ทเวทส์) ก็เรียกได้ว่ากลายมาเป็นตัวตายตัวแทนของวิล เทอร์เนอร์ในแฟรนไชส์นี้ได้น่าสนใจไม่หยอก และอีกหนึ่งตัวละครที่บทบาทของเธอน่าสนใจไม่แพ้ใครก็คือ แครีนา สมิท (รับบทโดยคายา สคอเดลาริโอ) เธอเป็นนักดาราศาสตร์ที่เป็นเสมือนตัวแทนของการเชื่อมโยงวิทยาศาสตร์เข้ากับความแฟนตาซีของเรื่องนี้ ส่วนที่น่าสนใจก็คือหากแฟรนไชส์นี้ได้ไปต่อ บทบาทของเธอในอนาคตจะทำให้แฟรนไชส์นี้ขยายออกไปได้อีกมากแน่นอน และในฉากไคลแม็กซ์ของเรื่องนั้น อดีตของเธอจะทำให้เราเซอร์ไพรส์

 

 

ไม่พูดถึงก็คงไม่ได้อย่างตัวร้ายคนสำคัญในชีวิตของกัปตันแจ็ค สแปร์โรว์ ไม่ว่าจะเป็นกัปตันบาร์บอสซ่า ที่เป็นทั้งมิตรและศัตรูที่ในภาคนี้บทบาทของเขาอาจจะไม่จัดจ้านมากนัก แต่ภาพยนตร์ก็ดูเหมือนจะหาทางลงให้กับนักแสดงคนนี้ได้อย่างสวยงาม พร้อมกับส่งไม้ต่อได้เป็นอย่างดี และสำหรับตัวร้ายหลักอย่างกัปตันอาร์แมนโด ซาลาซาร์ ที่บทบาทของเขาเหมาะสมกับชื่อภาคอย่างชัดเจน เขากลายเป็นผีร้ายผู้สุมแน่นไปด้วยไฟแค้นที่มุ่งเป้าหมายไปที่กัปตันแจ็คอย่างเต็มที่ เขายอมทำทุกวิถีทางเพื่อกำจัดโจรสลัดให้หมดสิ้น โดยมุ่งหวังให้ทะเลกลับมาบริสุทธิ์อีกครั้ง ซึ่งการได้ฮาเวียร์ บาเด็มมารับบทนี้ก็ทำให้ความเป็นกัปตันซาลาซาร์ดูโหดเหี้ยม ดุดัน และตลกร้ายได้ถึงขีดสุด

 

ใครที่เป็นแฟนภาพยนตร์โจรสลัดมาตั้งแต่ภาคแรก การได้ดู Pirates of the Caribbean ภาคล่าสุดนี้คงจะเต็มอิ่ม และหายคิดถึงอย่างแน่นอน เพราะผู้สร้างเซอร์วิสแฟนเก่าๆอย่างเต็มที่ ส่วนผู้ที่อาจจะเพิ่งได้ชมแฟรนไชส์นี้เป็นเรื่องแรก เราขอแนะนำให้ดู Pirates of the Caribbean ภาคที่ 1 – 3 เป็นอย่างน้อยเพื่ออรรถรสในเนื้อเรื่องที่สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น แต่สำหรับงานภาพนั้นหายห่วงได้เลย เพราะงานสเปเชียลเอฟเฟกต์ยังคงอลังการเช่นเคย ความสมจริงยิ่งขับให้การผจญภัยนี้ยิ่งใหญ่มากขึ้นไปอีก หลายฉากเหมาะสมสำหรับการดูในระบบ 3 มิติ 

 

 

Pirates of the Caribbean: Salazar’s Revenge คือภาพยนตร์ที่ปลุกให้แฟรนไชส์นี้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง กลิ่นอายและเสน่ห์ที่เราคิดถึงจะกลับมาอย่างครบถ้วน ภาพยนตร์เรื่องนี้ยังคงเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นและไม่ซ้ำกับภาพยนตร์เรื่องอื่นเช่นเคย ไปร่วมสัมผัสความเต็มอิ่มของการกลับมาครั้งยิ่งใหญ่ของเรือโจรสลัดลำนี้ กางใบเรือแล้วหันหางเสือมุ่งหน้าสู่โรงภาพยนตร์ได้แล้วเหล่าลูกเรือโจรสลัด!