HIGHLIGHT CONTENT

จากชีวิตที่น่าหลงใหลสู่จอเงิน กับ Napoleon ผลงานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตของ ริดลีย์ สก็อตต์

  • 568
  • 26 ต.ค. 2023

จากชีวิตที่น่าหลงใหลสู่จอเงิน กับ Napoleon

ผลงานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตของ ริดลีย์ สก็อตต์

 

 

ชีวิตที่น่าหลงใหล

 

ชีวิตที่น่าหลงใหลของนโปเลียน โบนาปาร์ต หนึ่งในผู้นำทางทหารที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล ได้กระตุ้นให้เกิดทั้งเสียงวิพากษ์วิจารณ์และเสียงชื่นชมจากนักวิชาการ นักการเมืองและผู้อยู่ใต้บังคับบัญชาของตัวเขาเอง การทะยานสู่อำนาจและการทัพที่โหดเหี้ยมและเต็มไปด้วยกลยุทธของเขามีชื่อเสียงระบือไกลและส่งอิทธิพลต่อคนรุ่นหลังๆ ตามมา ตั้งแต่วินสตัน เชอร์ชิล ไปจนถึงฟรีดิช นีทเชอ

นโปเลียนเป็นผู้ที่ไร้ปรานีในสงคราม ทรราชย์ในประเทศของเขา แต่ก็เป็นผู้ปลดปล่อยผู้สร้างตัวจากความไม่มีอะไรเลยและเป็นหนึ่งในบุคคลแรกๆ ในประวัติศาสตร์ที่แสดงให้เห็นว่า พรสรรค์ความเป็นผู้นำนั้นอาจเกิดขึ้นได้จากทุกชนชั้น ความสำเร็จของเขาในสมรภูมิได้ก้าวสู่ระดับตำนานไปแล้ว ความปราดเปรื่องด้านกลยุทธและความอำมหิตอันเลื่องชื่อของเขาขจรขจายไปไกลถึงขั้นที่โลกต้องอาศัยกองกำลังยุโรปเจ็ดฝ่ายรวมตัวกันถึงจะกำราบเขาลงได้ แต่นอกสนามรบ ความคลั่งไคล้ที่เขามีต่อ โจเซฟิน หญิงคนรัก ภรรยาของเขา จักรพรรดินีของเขา เป็นสิ่งที่กำหนดชีวิตของเขาได้มากพอกับการรบครั้งใดๆ ก็ตาม

สำหรับผู้กำกับผู้ได้รับการเสนอชื่อชิงอคาเดมี อวอร์ด ริดลีย์ สก็อต (Gladiator, Thelma and Louise, Black Hawk Down) เรื่องราวนั้น - การผงาดขึ้นสู่อำนาจอย่างรุ่งโรจน์ของอัจฉริยะทางการทหาร โอกาสในการแสดงให้เห็นถึงแง่มุมสองด้านและสภาพจิตใจของเขาในสเกลที่ยิ่งใหญ่ในแบบที่ผู้กำกับน้อยคนนักจะพยายามได้ - เป็นสิ่งที่เขาต้องการจะนำสู่จอเงินมาหลายปีแล้ว “ผมชื่นชอบดรามาอิงประวัติศาสตร์ เพราะประวัติศาสตร์เป็นเรื่องน่าสนใจเหลือเกินครับ” เขากล่าว “ประวัติศาสตร์เกี่ยวกับนโปเลียนเป็นจุดเริ่มต้นของประวัติศาสตร์สมัยใหม่ เขาเปลี่ยนแปลงโลกใบนี้ และเขียนหนังสือการปกครองขึ้นมาใหม่ครับ”

 

 

แต่ยิ่งไปกว่านั้น นโปเลียนยังเป็นตัวละครที่น่าหลงใหลสำหรับภาพยนตร์ด้วยเพราะเขาก็เหมือนพวกเราหลายๆ คนที่เป็นนักโทษผู้ถูกจองจำจากหัวใจและอารมณ์ของตัวเอง “นอกเหนือจากการที่เขาเป็นนักกลยุทธที่เหลือเชื่อ และเป็นนักการเมืองที่น่าอัศจรรย์ มีสัญชาตญาณเฉียบคม และไร้ปรานี...ผมรู้สึกทึ่งกับการที่ผู้ชายแบบนี้ ผู้แม้จะอยู่ระหว่างการบุกยึดมอสโคว์ ก็ยังสามารถหมกมุ่นอยู่กับสิ่งที่ภรรยาของเขาทำในกรุงปารีสได้น่ะครับ”

ผู้อำนวยการสร้างมาร์ค ฮัฟแฟม ผู้ทำงานในโปรเจ็กต์มากมายของสก็อตตลอดหลายปีที่ผ่านมา รวมถึง House of Gucci, The Martian และ Prometheus กล่าวว่า Napoleon เป็นภาพยนตร์ที่ต้องอาศัยวิสัยทัศน์ การยืนหยัด ทักษะและประสบการณ์ของริดลีย์ สก็อต และมีผู้กำกับเพียงไม่กี่คนที่หาญกล้าพอที่จะสร้างภาพยนตร์แบบนี้ “หนังเรื่องนี้มีสเกลยิ่งใหญ่ที่ผมคิดว่าคุณคงจะเห็นในอนาคตไม่บ่อยนักหรอกครับ” เขากล่าว “มีผู้กำกับเพียงไม่กี่คนในโลกใบนี้ที่มีความรู้และประสบการณ์ที่จะสร้างหนังแบบนี้ และถ่ายทำด้วยกล้องจริงๆ ให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ครับ” 

แล้วใครจะโทษพวกเขาได้ล่ะ? เพราะนโปเลียนขึ้นชื่อว่าเป็นหัวข้อที่สร้างความหวาดหวั่นให้กับผู้กำกับที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์หลายๆ คน โดยเฉพาะสแตนลีย์ คูบริค ผู้ซึ่งภาพยนตร์เกี่ยวกับนโปเลียนไม่เคยสำเร็จเป็นรูปเป็นร่างเลย ผู้อำนวยการสร้างเควิน วอลช์มองเห็นความปรารถนาที่จะสานต่อจากสิ่งที่คูบริคทิ้งเอาไว้ในตัวของสก็อต “คูบริคเป็นหนึ่งในฮีโรของริดลีย์” เขากล่าว “คูบริคพยายามจะสร้าง Napoleon แต่มันไม่เคยเกิดขึ้นเลย ดังนั้น ตอนที่ผมถามริดลีย์เมื่อหลายปีก่อนว่า ‘หนังแบบไหนที่คุณยังไม่สามารถสร้างได้‘ คำตอบของเขาก็คือ ‘Napoleon’ น่ะครับ”

 

 

ความหลงใหลที่สก็อตมีต่อผู้นำคนนี้และยุคสมัยดังกล่าวเริ่มต้นตั้งแต่จุดเริ่มต้นของเขาในฐานะผู้กำกับภาพยนตร์ The Duellists ภาพยนตร์เรื่องแรกของเขา มีเรื่องราวเกิดขึ้นในยุคนโปเลียน เขากล่าวว่า นั่นเป็นภาพยนตร์ที่เขาได้เห็นด้วยตัวเองว่าทำไมผู้ชมถึงตอบสนองกับเรื่องราวอิงประวัติศาสตร์และอย่างไร “ประวัติศาสตร์เป็นเรื่องน่าสนใจเพราะเราไม่ได้เรียนรู้จากข้อผิดพลาดทั้งหมดของเรา” เขากล่าว สก็อตกล่าวว่า ในแง่นั้น ภาพยนตร์อิงประวัติศาสตร์ได้ครอบคลุมเหตุการณ์สองร้อยปีในอดีต ที่กลั่นกรองผ่านมุมมองของศิลปิน และกลายเป็นสิ่งที่สอดคล้องกับปัจจุบัน

และในฐานะผู้กำกับ สก็อตรู้จากประสบการณ์ของตัวเองว่า เขามีความรับผิดชอบต่อทั้งประวัติศาสตร์และศิลปะ เขาได้สร้างภาพประทับของบุคคลในแบบที่ทำให้พวกเขาโลดแล่นมีชีวิตขึ้นมาต่อหน้าผู้ชม “ประมาณหนึ่งปีหลังจากที่ผมสร้าง Gladiator ผมก็ได้รับจดหมายจากอาจารย์อาวุโสคนหนึ่งที่มหาวิทยาลัยดังแห่งหนึ่ง” สก็อตกล่าว “เขาบอกว่า ‘ผมอยากขอบคุณคุณที่ทำให้อาณาจักรโรมันมีชีวิตขึ้นมา’ มันทำให้นักศึกษาของเขากระตือรือร้นกับหัวข้อนั้นครับ” สก็อตเปรียบเทียบการสร้างภาพยนตร์อิงประวัติศาสตร์กกับ “สมการทางคณิตศาสตร์ ว่าสิ่งนี้อาจเกิดขึ้นหรือสิ่งนั้นอาจเกิดขึ้นได้ มันมาจากการค้นคว้าข้อมูลและคุณก็ตัดสินใจครับ”

สก็อตกล่าวว่าเขาถูกดึงดูดเข้าหาแนวคิดของการสำรวจสภาพจิตใจของตัวละครนโปเลียนตามที่เขาเป็นด้วยการถ่ายทำภาพที่น่าตื่นตาตื่นใจของสงครามครั้งยิ่งใหญ่ของเขา “ผมคิดว่าหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้คนยังหลงใหลในตัวนโปเลียนเพราะเขาซับซ้อนเหลือเกินครับ” เขากล่าว “ไม่มีวิธีง่ายๆ ที่จะให้คำนิยามชีวิตเขาได้เลย คุณสามารถอ่านชีวประวัติของเขาเพื่อเรียนรู้ถึงสิ่งที่เกิดขึ้น แต่สิ่งที่ทำให้ผมสนใจในฐานะคนทำหนังคือตัวตนของเขา ที่อยู่นอกเหนือจากประวัติศาสตร์และล้วงลึกเข้าไปในจิตใจของเขาน่ะครับ”

“ริดลีย์ใช้สิทธิในการสร้างสรรค์บางอย่าง แต่ก็มักอยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริงครับ” วอลช์กล่าว “เราทำการค้นคว้าข้อมูลมากมายร่วมกับนักประวัติศาสตร์และมือเขียนบทของเรา ผู้คนที่ดำดิ่งลงไปในประวัติศาสตร์เพื่อทำให้แน่ใจว่ามันจะสมจริงน่ะครับ”

 

 

ในการสร้างสเกลที่ยิ่งใหญ่ของภาพยนตร์เรื่องนี้ สก็อตได้กลับไปร่วมงานกับเพื่อนร่วมงานในอดีตของเขาบางคน ผู้เคยร่วมงานกับเขามาหลายครั้งแล้วในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ผู้ออกแบบงานสร้างอาร์เธอร์ แม็กซ์ (ผู้ได้รับการเสนอชื่อชิงออสการ์จากผลงานของเขาใน Gladiator และ The Martian), ผู้ออกแบบเครื่องแต่งกาย แจนตี้ เยทส์ (ผู้ได้รับรางวัลออสการ์จากผลงานของเธอใน Gladiator), ผู้กำกับภาพดาเรียส โวลสกี้ (All the Money in the World, Alien: Covenant) และผู้ประสานงานฝ่ายสเปเชียล เอฟเฟ็กต์ เจ้าของสองรางวัลออสการ์ นีล คอร์บูลด์ (Gladiator และภาพยนตร์อีกห้าเรื่องของสก็อต) ทุกคนล้วนกลับมาเพื่อช่วยทำให้ภาพฝันของริดลีย์กลายเป็นจริง

คุณอาจจะคิดว่า สก็อตสามารถดึงดูดศิลปินระดับแนวหน้าเหล่านี้ได้ด้วยความปรารถนาของพวกเขาที่จะร่วมงานกับผู้กำกับคนเก่ง แต่สก็อตยืนกรานว่า มันเกิดขึ้นทั้งสองทาง “องค์ประกอบทั้งหมดนี้สำคัญอย่างเหลือเชื่อ” เขากล่าว “ผมซึ้งใจมากที่คนเก่งๆ ที่มากพรสวรรค์เหล่านี้ ดูเหมือนจะยังอยากร่วมงานกับผมอยู่ ตอนที่ผมรู้ว่าแผนกเหล่านี้อยู่ภายใต้การดูแลของคนที่มีความสามารถขนาดนั้น ผมก็จะมีประสิทธิภาพมากขึ้นครับ”

“ริดลีย์เตรียมพร้อมอย่างเหลือเชื่อ” ฮัฟแฟมกล่าว “เขาเขียนสตอรีบอร์ดหนังทุกเรื่องของเขาด้วยตัวเอง ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบอย่างใหญ่หลวงสำหรับทุกแผนก เขารู้ดีว่าผลสำเร็จจะออกมาเป็นยังไง และเขาก็ตัดต่อหนังเรื่องนี้ไปด้วยระหว่างการถ่ายทำครับ”

“ริดลีย์ถ่ายทำหนังในหัวของเขา” วอลช์กล่าว “คุณจะได้เห็นเขาวางแผนและสร้างสรรค์งาน ในทุกช่วงเวลาพัก นี่ไม่ใช่งานสำหรับเขา แต่มันเป็นการสร้างสรรค์งานศิลปะครับ”

นอกเหนือจากการได้ร่วมงานกับหัวหน้าแผนกหลายคนของเขาอีกครั้ง ภาพยนตร์เรื่องนี้ยังเป็นการกลับมาพบกันอีกครั้งระหว่างสก็อตและวาคิน ฟินิกซ์ ผู้ก่อนหน้านี้เคยรับบท คอมโมดัส ใน Gladiator สำหรับริดลีย์ การได้เห็นการแสดงที่ทำให้วาคินได้รับอคาเดมี อวอร์ดใน Joker เป็นสิ่งที่ทำให้เขานึกถึงการร่วมมือกันของพวกเขาใน Gladiator และรู้ว่าเขาจะเพอร์เฟ็กต์สำหรับบทนี้ “ผมได้เห็นเขาและทุกอย่างก็พรั่งพรูกลับมา ว่าเราทำงานกันใน Gladiator ยังไงและเขาเดินทางอย่างไรกับตัวละครตัวนั้นและผมก็คิดว่า ‘ให้ตายเถอะ นั่นนโปเลียนนี่’ น่ะครับ”

ฟินิกซ์กล่าวว่าด้วยความที่การเตรียมพร้อมของสก็อตเต็มไปด้วยความประณีต มันก็เลยทำให้นักแสดงของเขามีอิสระในการสำรวจบทบาทของตัวเองในกองถ่าย “สิ่งที่ผมชื่นชอบคือการที่ไม่ได้มีทุกอย่างที่สรุปเบ็ดเสร็จแล้วอยู่ในความคิดผมมาก่อน เพราะผมอยากจะมีความเป็นไปได้หลายๆ อย่างให้ได้เล่นด้วยครับ” เขาอธิบาย “ริดลีย์ไม่เพียงแต่ยินยอมให้เกิดกระบวนการนั้นเท่านั้น แต่เขายังสนับสนุนมันด้วย เขาอยากให้คุณเคลื่อนตัวอย่างเป็นอิสระเหมือนอย่างที่ตัวละครจะทำน่ะครับ”

เมื่อได้ฟินิกซ์มาแล้ว สิ่งจำเป็นคือการหานักแสดงหญิงที่เหมาะกับความดื้อรั้นและความทะเยอทะยานของโจเซฟิน สำหรับสก็อต การคัดเลือกนักแสดงเป็นผลมาจาก “สัญชาตญาณ” เขากล่าว “ถ้าคุณคิดอยู่ว่าบทนี้ต้องได้คนที่ตัวสูง ผมสีเข้ม แล้วพอคนที่ตัวเตี้ยและมีผมสีบลอนด์เดินเข้ามาในห้อง คุณก็จะคิดว่า ‘อ้อ น่าสนใจดีนี่’ น่ะครับ คุณจะต้องเปิดกว้าง วาเนสซา [เคอร์บี้] รับบทนี้ด้วยความมั่นใจและความเย้ายวน แต่สิ่งที่ยอดเยี่ยมคืออารมณ์ขันของเธอ เธอมีอารมณ์ขันยอดเยี่ยมและมีสัญชาตญาณตามธรรมชาติในเรื่องของจังหวะ ที่ทำให้เธอแตกต่างและทำให้เธอเป็นนักแสดงที่โดดเด่นและน่าสนใจสำหรับการประกบคู่กับวาคินครับ”

เคมีระหว่างนักแสดงจะก่อให้เกิดความตึงเครียดและความสัมพันธ์ในแบบที่สำหรับสก็อตแล้ว ไม่เพียงแต่จะเนรมิตชีวิตให้กับตัวละครเท่านั้น แต่ยังช่วยเสริมมิติอารมณ์แปรปรวนให้กับนโปเลียนในขณะที่เขาเคลื่อนทัพที่ยิ่งใหญ่ของเขาไปสู่การเป็นเจ้าแห่งยุโรป เหล่านักแสดงจะถ่ายทอดความเร่าร้อนลงสู่ความสัมพันธ์ที่วุ่นวายและไม่ธรรมดาดังที่ปรากฏในหน้ากระดาษของบทภาพยนตร์โดยเดวิด สการ์พา เผยให้เห็นถึงปีศาจภายในจิตใจของนโปเลียนและแง่มุมประวัติศาสตร์ที่เราไม่เคยเห็น

 

 

ก่อนหน้านี้ สการ์พาเคยร่วมงานกับสก็อตมาแล้วใน All the Money in the World และทั้งคู่ก็ถกประเด็นกันเกี่ยวกับจังหวะสำคัญในชีวิตของนโปเลียนและเวอร์ชันที่เฉพาะเจาะจงของตัวละครตัวนี้ที่ดึงดูดใจพวกเขา เห็นได้ชัดตั้งแต่การประชุมครั้งแรกๆ ว่าริดลีย์มองภาพยนตร์เรื่องนี้ว่าเป็นภาพยนตร์อีพิคแอ็กชัน และก็เป็นเรื่องราวความรักระหว่างนโปเลียนและโจเซฟินด้วย “นั่นเป็นเรื่องราวที่เฉพาะเจาะจงที่เขาอยากจะสำรวจ ผ่านทางปริซึมเรื่องราวความรักระหว่างโจเซฟินและนโปเลียนน่ะครับ” วอลช์กล่าว “พวกเขามีความสัมพันธ์แบบผลักและดึงจริงๆ พวกเขาหลงใหลในกันและกันและเป็นตัวกระตุ้นอีกฝ่าย และพวกเขาก็จะไม่ใช่คนแบบที่พวกเขาเป็นหากปราศจากกันและกันครับ”

ฮัฟแฟมกล่าวว่า ในทุกแง่มุมชีวิตของนโปเลียน มีทั้งความขัดแย้งและการแบ่งออกเป็นสองด้าน เริ่มต้นด้วยตำนานของเขาในฐานะนายพลและจักรพรรดิ “นโปเลียนทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่สำหรับการเมืองและคนธรรมดาสามัญครับ เขาทำให้ใครก็ตามสามารถกลายเป็นนายพล หรือนักการเมืองได้ แทนที่จะมีเพียงแค่ชนชั้นขุนนาง” เขาตั้งข้อสังเกต “แต่แน่นอนครับ เขาเป็นผู้นำเผด็จการที่มือเปื้อนเลือดด้วย สมดุลนั้นเป็นสิ่งที่เราอยากจะสำรวจระหว่างการสร้างหนังเรื่องนี้”

และในตอนที่สก็อตบอกเล่าเรื่องราวผ่านความสัมพันธ์ระหว่างนโปเลียนกับโจเซฟิน เขาก็ได้เสริมความสองด้านนั้นทับซ้อนลงบนการแบ่งเป็นสองด้านอีกชั้นหนึ่ง “เขาลงเอยด้วยการร้องไห้คร่ำครวญครับ ชายที่เราเห็นว่าเชิดหน้าก้าวสู่บัลลังก์ยุโรป อัจฉริยะด้านกลยุทธ ได้เปลี่ยนกลายเป็นคนตัวเล็กที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ผู้ตกหลุมรักผู้หญิงที่นั่งอยู่บนเบาะนั่งข้างเขาอย่างหัวปักหัวปำและยอมรับว่าหากขาดเธอ เขาก็ไม่เหลืออะไรแล้ว” สก็อตกล่าว “จดหมายที่เขาส่งหาเธอทั้งหยาบคายอย่างน่าขัน มีความเป็นเด็กๆ โรแมนติกจนเลี่ยนและทะลึ่งตึงตันเสียด้วยซ้ำไป เขาหลงเสน่ห์เธอจริงๆ จังๆ และหลังจากที่ทั้งคู่แยกจากกันเป็นครั้งสุดท้าย เธอก็ไม่ได้อ่านจดหมายพวกนั้นด้วยซ้ำ ตอนที่เธอเสียชีวิต จดหมายพวกนั้นอยู่ในลิ้นชักโต๊ะข้างเตียงของเธอครับ”

Napoleon จะเข้าฉายพิเศษในโรงภาพยนตร์ทั่วโลกในวันที่ 22 พฤศจิกายน ปี 2023 ก่อนที่จะแพร่ภาพทั่วโลกทางแอปเปิล ทีวีพลัส

 

สำหรับแฟนหนังเมเจอร์ ห้ามพลาดกับบัตรดูหนังสุดคุ้ม M PASS ที่จะทำให้คุณคุ้มเต็มอิ่มกับการดูหนังตลอดทั้งปี เตรียมไปมันส์กับกองทัพหนังดังมากมาย สมัครง่ายๆเพียงแค่คลิก ที่นี่ 

จักรพรรดินโปเลียน

  • 22 November 2023
  • Adventure / แอ็คชัน / ชีวิต /
  • 158 นาที
15+

ข่าวที่เกี่ยวข้อง