Get Out หนังเขย่าขวัญ หนังจิต หรือหนังอะไร?
ทำไมคนดูในอเมริกาสะพรึงกันทั้งโรง!!
เมื่อคนดูส่วนใหญ่ได้ยินชื่อจอร์แดน พีเล พวกเขาจะนึกถึงครึ่งหนึ่งของคู่นักแสดงใน Key and Peele และดารานำจากเรื่อง Keanu พีเลเป็นนักแสดงที่เป็นที่รู้จักจากงานเขียนบทแนวตลก แต่เขาก็เป็นแฟนหนังแนวสยองขวัญมายาวนาน และเชื่อว่าความน่ากลัวและความตลกมาจากบ่อเกิดของแรงบันดาลใจเดียวกัน และทั้งสองสิ่งนั้นตั้งอยู่บนพื้นฐานของความต้องการที่จะสำรวจความไร้สาระในความเป็นมนุษย์ของเรา เขาชอบความจริงที่ว่าเรารับมือกับปัญหาและความกลัวผ่านทางการระบายความรู้สึกข้างใน จากการหัวเราะ หรือยอมให้ตัวเองรู้สึกกลัว พูดง่ายๆคือ ถ้าเราสามารถเอาชนะความรู้สึกได้ เราจะสามารถก้าวผ่านประสบการณ์นั้นได้
จากการที่เขาคุ้นเคยกับการเจาะลึกหาความไร้สาระจากความจริง เมื่อเริ่มเขียนบทหนัง พีเลวางโครงเรื่องที่มีความสมดุลกันของส่วนที่เป็นความสยองขวญ และการวิจารณ์สังคม ผลลัพธ์ที่ได้คือ Get Out หนังเขย่าขวัญที่ผสมผสานอารมณ์ขัน, การเสียดสี และ ความสยองขวัญ และไม่กลัวที่จะเล่นงานสถานการณ์ปัจจุบันของความสัมพันธ์ต่างสีผิวในอเมริกาแบบซึ่งหน้า
“ไอเดียของหนังมาจากการที่ผมอยากทำบางอย่างให้กับหนังแนวเขย่าขวัญและสยองขวัญ ที่ไม่เหมือนใครสำหรับความคิดเห็นของผม ความจริงที่ว่าหนังไปที่เรื่องสีผิว มันก็ไปที่ขอบเขตงานแนวที่ผมได้ทำบ่อย คือแนวตลก นี่คือหนังที่สะท้อนความกลัวจริงๆของผม และประเด็นที่ผมเคยเจอมาก่อน”
พีเลสร้างตัวละครเอกชื่อคริส หนุ่มอเมริกันผิวสีที่ทำงานเป็นช่างภาพและศิลปินอยู่นิวยอร์ก เขาพัฒนาความสัมพันธ์กับแฟนสาวที่เป็นคนผิวขาวไปอีกขั้นหนึ่ง ด้วยการไปเยี่ยมพ่อแม่แฟนในช่วงสุดสัปดาห์ ทันทีที่คริสไปถึงบ้านของครอบครัวแฟนทางตอนเหนือของรัฐ เขาก็เริ่มสงสัยว่าทุกอย่างไม่ได้เป็นอย่างที่มันดูเหมือนจะเป็น เมื่อเขาพบว่ามีคนผิวสีจำนวนหนึ่งหายตัวไปในเขตชานเมืองนั้น ความสงสัยของเขาก็เปิดเผยออกมา ว่ามันเป็นยิ่งกว่าความหวาดระแวงไปเองโดยไม่มีเหตุผล สิ่งที่เริ่มต้นเหมือนเป็นการไปพักผ่อนสุดสัปดาห์ธรรมดา กลับพลิกผันและเดินไปสู่บทสรุปที่บ้า, น่าขนลุก, เขย่าขวัญ, น่าสะพรึงกลัว นอกจากนั้น ยังสนุกด้วย
พีเลยอมรับว่าเขาสนุกกับการเล่นกับความคาดหวังของคนดู เรื่องสิ่งที่อาจเกิดขึ้น และพลิกบทสรุปที่คาดเดาล่วงหน้าไว้แบบกลับหัวกลับหาง “ส่วนที่สำคัญส่วนหนึ่งของเรื่องราวใน Get Out คือหญิงสาวผิวขาวพาหนุ่มผิวดำไปบ้าน และเธอไม่ได้คิดซับซ้อนเรื่องผลยุ่งยากทางสังคมที่จะตามมา เธอสันนิษฐานว่าครอบครัวของเธอจะไม่มีปัญหาอะไรกับเรื่องนี้ ก็เป็นอย่างที่เธอคิดไว้ แต่มีนัยหลายอย่างที่เราเริ่มเห็นสิ่งที่น่ากลัวกว่านั้น”
ช่วงเวลาของความไม่ชอบมาพากลที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ที่ทำให้คริสสงสัยมากขึ้นเรื่อยๆ ค่อยๆถูกเปิดเผยออกมา ไม่ว่าจะเป็นความสงสัยเกี่ยวกับพฤติกรรมแปลกๆของคนทำงานบ้านของครอบครัวอาร์มิเทจ หรือความรู้สึกเหมือนเขาก้าวเข้าไปอยู่อีกโลกหนึ่งระหว่างการฉลองประจำปีของครอบครัวเพื่อรำลึกการจากไปของปู่ คริสรู้ว่าเขาไม่ใช่คนที่กำลังจะเป็นบ้า “เคล็ดลับคือการทำให้แน่ใจว่าไม่มีเรื่องบ้ามากๆเรื่องอะไรเกิดขึ้นรวดเร็ว จนเราไม่เชื่อว่าตัวละครจะอยู่ในสถานการณ์นี้ ปัจจัยที่เริ่มเตือนคริสคือการได้เจอกับคนทำงานในบ้าน และพบว่าทั้งคู่มีบางอย่างผิดปกติ พวกเขาไม่เหมือนใครที่เขาเคยเจอมาก่อน”
หนังเรื่อง Get Out ทักทายคนดูด้วยสิ่งกระตุ้นที่มากกว่าความบันเทิงธรรมดา “หนังเรื่องนี้มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับหลายอย่าง มันบอกเล่าเกี่ยวกับวิธีที่อเมริการับมือกับเรื่องสีผิว และความคิดที่ว่าการเหยียดผิวเป็นสิ่งที่ชั่วร้าย เป็นปีศาจของอเมริกา มันยังเกี่ยวกับความคิดของการไม่สนใจ และความคิดที่ว่า ถ้าเรายอมให้ตัวเองทำแบบนั้น มนุษย์อาจจะยืนดูเฉย ในขณะที่ความโหดร้ายเกิดขึ้น” เขารู้สึกว่าสำคัญมากที่จะเจาะลึกลงไปในหนังแนวนี้ และถกกันในเรื่องที่ว่าเชื้อชาติจะมีผลกระทบต่อความสยองขวัญอย่างไร “มันเป็นส่วนสำคัญของการพูดคุยกันครั้งนี้”