เกรต้า เกอร์วิค เผยความกังวลกับการสร้าง Chronicles of Narnia ที่เธอต้องรับผิดชอบต่อจาก Barbie

เกรต้า เกอร์วิค เผยความกังวลกับการสร้าง Chronicles of Narnia

ที่เธอต้องรับผิดชอบต่อจาก Barbie

 

 

หนึ่งในยอดผู้กำกับ เกรต้า เกอร์วิค กำลังเตรียมตัวที่จะเดินหน้าเข้าสู่ดินแดนแห่งภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ หลังจากที่ภาพยนตร์จากวอร์เนอร์บราเธอส์อย่าง Barbie หรือ บาร์บี้ เข้าฉายในโรงภาพยนตร์ เธอก็จะเดินทางต่อจากการผจญภัยของตุ๊กตาไปสู่ตู้เสื้อผ้าของ The Chronicles of Narnia หรือ ตำนานแห่งนาร์เนีย และล่าสุดเธอก็ได้เปิดเผยออกมาแล้วว่า เธอกลัวกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้มาก

เกอร์วิค ถูกวางตัวเอาไว้ให้กำกับภาพยนตร์สองเรื่องของทางเน็ตฟลิกซ์ที่จะดัดแปลงมาจากหนังสือนวนิยายนาร์เนียของ ซี. เอส. ลิวอิส โดยเธอได้ให้สัมภาษณ์กับทางโททอลฟิล์มว่า เธอก็ยังไม่แน่ใจเหมือนกันว่า วิธีการที่เธอใช้กับโลกหิมะของ นาร์เนีย จะเหมือนกันกับวิธีการที่เธอใช้กับ บาร์บี้ หรือไม่

 

“ฉันยังไม่ได้เริ่มทำอะไรกับมันเลย แต่ฉันรู้สึกกลัวมัน ซึ่งก็รู้สึกว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี”

“ฉันคิดว่าเมื่อกลัว มันมักจะเป็นสัญญาณที่ดีตลอด บางทีเมื่อไหร่ก็ตามที่ฉันหยุดที่จะกลัว มันอาจจะรู้สึกประมาณว่า ‘โอเค บางทีฉันอาจจะไม่ต้องทำแบบนี้นะ’ ไม่เลย ฉันหวาดกันมัน มันเป็นอะไรที่พิเศษ และเราก็จะได้เห็นกัน ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน”

 

 

ผู้กำกับชาวอเมริกันยังบอกอีกด้วยยว่า เธอไม่ได้วางแผนที่จะหยุดอยู่ที่เฟรนไชส์ นาร์เนีย เท่านั้น โดยอธิบายเพิ่มเติมว่า เธออยากที่จะทำงานในภาพยนตร์อีกหลากหลายรูปแบบ

 

“ฉันหวังว่าจะได้ทำหนังทุกประเภทในช่วงเวลาที่ฉันมีโอกาสจะได้ทำหนัง ซึ่งมันก็เป็นช่วงเวลาที่ยาวนานแหละ แต่มันก็ยังเป็นช่วงเวลาที่จำกัด ฉันอยากที่จะทำอะไรที่ทั้งใหญ่และเล็ก ทุกสิ่งทุกอย่างในนั้น และการที่ได้มีผืนผ้าใบใหญ่อีกใบมันเป็นอะไรที่น่าตื่นเต้นและก็น่ากลัวด้วย”

 

ถึงแม้จะยังไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับภาพยนตร์ นาร์เนีย ของ เกอร์วิค เปิดเผยออกมามากนัก แต่ก็คาดว่าอาจจะต้องรอคอยอีกสักพักใหญ่กว่าที่จะมีการเริ่มกระบวนการถ่ายทำ เนื่องจากสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างสตูดิโอฮอลลีวูดยักษ์ใหญ่กับ WGA หรือ สมาคมนักเขียนบทภาพยนตร์อเมริกา และ SAG-AFTRA หรือ สมาพันธ์ศิลปินโทรทัศน์และวิทยุอเมริกัน ที่กำลังประท้วงหยุดงานอยู่ในขณะนี้

อย่างไรก็ตาม หาก เกอร์วิค สามารถที่จะสร้างภาพยนตร์ นาร์เนีย ร่วมกับทางเน็ตฟลิกซ์ได้สำเร็จ มันก็จะเป็นการสิ้นสุดการรอคอยอันยาวนานของการกลับมาของเฟรนไชส์นี้ลงไปได้เสียที โดยการดัดแปลงหนังสือชุดทั้งเจ็ดเล่มมาเป็นภาพยนตร์ครั้งแรกก็คือ The Chronicles of Narnia: The Lion, the Witch and the Wardrobe (2005) หรือ อภินิหารตำนานแห่งนาร์เนีย ตอน ราชสีห์ แม่มด กับตู้พิศวง ของทางดิสนีย์ ซึ่งทำรายได้ทั่วโลกไปกว่า $750 ล้านเหรียญ จนทำให้ดิสนีย์ต้องสร้างภาคต่อที่มีชื่อว่า The Chronicles of Narnia: Prince Caspian (2008) หรือ อภินิหารตำนานแห่งนาร์เนีย ตอน เจ้าชายแคสเปี้ยน และอีกสามปีก็ตามาก็มีภาพยนตร์ภาคที่สามอย่าง The Chronicles of Narnia: The Voyage of the Dawn Treader (2010) หรือ อภินิหารตำนานแห่งนาร์เนีย ตอน ผจญภัยโพ้นทะเล ที่เป็นผลงานสร้างของทเวนตีท์เซนจูรีฟ็อกซ์ หลังจากที่มีข้อพิพาทเรื่องทุนสร้างระหว่างดิสนีย์และบริษัทเบื้องหลัง นาร์เนีย อย่าง วอลเดน มีเดีย

 

 

โดยหลังจาก เจ้าชายแคสเปี้ยน แฟนของเฟรนไชส์แฟนตาซีเรื่องนี้ก็เริ่มที่จะเรียกร้องถึงภาพยนตร์ภาคต่อ เพราะว่ายังมีนวนิยาย นาร์เนีย อีกถึงสี่เล่มก็ยังไม่ได้รับการดัดแปลงมาสู่จอภาพยนตร์ ถึงแม้ว่าจะมีการตกลงสร้างภาพยนตร์เวอร์ชั่นที่ดัดแปลงมากจากหนังสือ The Silver Chair หรือ เก้าอี้เงิน จากทางไทรสตาร์เมื่อปี 2017 แต่ทางเน็ตฟลิกซ์ก็ได้เข้าซื้อสิทธิ์ในเฟรนไชส์ในปี 2018 พร้อมกับประกาศว่าจะมีการดัดแปลงมันออกมาทั้งในรูปแบบภาพยนตร์และทีวีซีรีส์

Barbie หรือ บาร์บี้ เข้าฉายในโรงภาพยนตร์แล้ววันนี้

 

สำหรับแฟนหนังเมเจอร์ ห้ามพลาดกับบัตรดูหนังสุดคุ้ม M PASS ที่จะทำให้คุณคุ้มเต็มอิ่มกับการดูหนังตลอดทั้งปี เตรียมไปมันส์กับกองทัพหนังดังมากมาย สมัครง่ายๆเพียงแค่คลิก ที่นี่ 

ขอบคุณข้อมูลจาก Collider