HIGHLIGHT CONTENT

จักรพรรดิและจักรพรรดินี — แง่มุมความสัมพันธ์ที่ไม่เคยมีใครสำรวจมาก่อนของ Napoleon

  • 477
  • 27 ต.ค. 2023

จักรพรรดิและจักรพรรดินี

แง่มุมความสัมพันธ์ที่ไม่เคยมีใครสำรวจมาก่อนของ Napoleon

 

 

จักรพรรดิและจักรพรรดินี


ฟินิกซ์ยอมรับว่า เขาไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับนโปเลียนมากนักก่อนหน้าโปรเจ็กต์นี้ และรู้สึกแปลกใจกับแง่มุมบางอย่างของตัวละครตัวนี้ที่เขาได้ค้นพบ “ผมพบว่าเขาเป็นคนที่ซับซ้อนกว่าที่ผมจินตนาการเอาไว้ตอนแรกมากเลยล่ะครับ โดยเฉพาะความสัมพันธ์ระหว่างเขากับโจเซฟิน” เขากล่าว “ผมพบว่าเขาเป็นคนลึกลับ และความลึกลับนั้นก็เป็นสิ่งที่น่าสนใจที่จะได้สำรวจเสมอครับ”

สำหรับสก็อต การได้กลับมาทำงานกับฟินิกซ์อีกครั้งเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ Gladiator เป็นความน่ายินดีอย่างล้นหลาม “เขาเป็นนักแสดงเพียงคนเดียวที่เราพูดคุยด้วยล่วงหน้าหลายสัปดาห์ แค่คุยกันและถกเถียงกันในออฟฟิศเกี่ยวกับแง่มุมต่างๆ ของตัวละครตัวนี้น่ะครับ ท้ายที่สุด เราก็มีความเข้าใจตรงกัน” สก็อตกล่าว “เขาดีสำหรับผม เพราะเขาทำให้ผมตรงไปตรงมาและผมก็ดีสำหรับเขาเพราะผมคอยดูเขาไม่ให้ออกนอกเส้น เขามีรูปลักษณ์ที่เหมาะสมกับบทนี้ ลักษณะใบหน้าบางอย่างของเขาคล้ายกับนโปเลียนอย่างน่าทึ่งครับ”

“วาคินเป็นนักแสดงที่มีพรสวรรค์เหลือเกินครับ” วอลช์กล่าว “ไม่มีใครเหมือนเขา เขาหายตัวไปทุกครั้งที่เขาก้าวไปอยู่หน้ากล้อง ยิ่งไปกว่านั้น เขายังทำงานหนักมากๆ ด้วย เขาดำดิ่งลงไปสู่สิ่งที่เขากำลังทำลึกมากๆ และตั้งคำถามกับทุกอย่างเพื่อทำให้โครงสร้างโดยรวมของหนังเรื่องนี้ดีขึ้น นอกเหนือจากนั้น เขายังมีอารมณ์ขันยอดเยี่ยมด้วย เขาเป็นคนที่มีประโยชน์อย่างยิ่งต่อหนังเรื่องนี้ครับ”

 

 

สำหรับฮัฟแฟม ความเข้าใจที่ฟินิกซ์มีต่อกระบวนการของสก็อตทำให้เขากลายเป็นตัวละครตัวนี้ได้ง่ายดายขึ้น “ริดลีย์และวาคินชื่นชอบการท้าทายกันและกันเป็นประจำอยู่แล้ว แต่มันเกิดขึ้นด้วยรอยยิ้มเสมอครับ” เขากล่าว “วาคินมีข้อกังวลของตัวเองเกี่ยวกับการรับบทนี้และผมคิดว่าทุกคนก็คงจะมีข้อกังวลเหมือนๆ กันเกี่ยวกับตัวละครตัวนี้ แต่การได้พูดคุยกับริดลีย์ก็ทำให้เขารู้สึกผ่อนคลายกับมันอย่างรวดเร็วและเขาก็วิเศษมากครับ”

สิ่งที่ถูกรวมเข้าไปอยู่ในการพูดคุยเหล่านี้คือการตีความนโปเลียนในแบบต่างๆ และสื่อที่พวกเขาเลือกหยิบยกมาใช้ “เราคุยกันบ่อยๆ ว่าเขาอาจจะเป็นใครและอะไร โดยที่วาคินให้ความสำคัญกับลักษณะการเดิน การพูดคุย การนั่งของเขา” สก็อตกล่าว “เราดูภาพเหมือนต่างๆ ซึ่งวิเศษสุด เพราะโดยเนื้อแท้แล้ว พวกมันก็เป็นเหมือนภาพถ่ายของยุคสมัยนั้น พวกมันไม่ค่อยจะดูดีหรอกครับ คุณสามารถจ้องมองไปที่เขาและรู้เลยว่ามีเรื่องของอีโก้เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย”

สก็อตนำอีโก้นั้นมาเทียบกับความหลงใหลที่นโปเลียนมีต่อโจเซฟิน ถึงขนาดที่ใช้คำพูดของโจเซฟินมาสร้างจุดแตกต่างที่ทรงพลังในตอนที่ชีวิตของนโปเลียนปิดฉากลงที่เกาะเซนต์เฮเลนาในแอตแลนติกด้วยซ้ำไป “ในตอนที่นโปเลียนกำลังจะตาย โจเซฟินก็ตายไปแล้ว แต่เธอเป็นคนที่ได้พูดคนสุดท้าย” เขากล่าว “มันเป็นความโรแมนติก แต่สำหรับคนที่คลั่งไคล้ผู้หญิงคนนั้นขนาดนั้น ใครจะรู้ล่ะครับว่าในใจเขาคิดอะไรอยู่” และสก็อตก็ตั้งข้อสังเกตว่า โจเซฟินยังคงอยู่ในใจเขาตราบจนวาระสุดท้าย ชื่อของเธอเป็นคำสุดท้ายที่เขาเปล่งออกมา

 

 

“เธอมีความสามารถในการทำให้เขาหลงใหลครับ” วอลช์กล่าว “เธอมีความงาม แต่ก็มีความอ่อนโยนและความละเอียดอ่อนที่ดึงดูดใจนโปเลียนด้วย วาเนสซาสามารถกะระดับช่วงเวลาเหล่านั้นกับวาคินและดึงเขาเข้ามาได้ครับ”

สำหรับเคอร์บี้ เธอเริ่มดำดิ่งลงไปในตัวละครโจเซฟินด้วยการอ่านและศึกษาให้มากที่สุดเท่าที่เธอจะทำได้ “ฉันไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ฝรั่งเศส จริงๆ แล้ว ฉันค่อนข้างจะแปลกใจทีเดียวที่ตัวเองรู้น้อยมาก” เธอกล่าว “ฉันก็เลยรู้สึกพึงพอใจค่ะ ฉันขังตัวเองและอ่านหนังสือทุกเล่มเกี่ยวกับเธอและเขาเท่าที่จะทำได้ นอกจากนั้น เราก็ได้ไปกันที่ปารีส ไปพิพิธภัณฑ์นโปเลียน ไปที่มัลเมซง ฉันไปที่หลุมศพของโจเซฟินด้วยซ้ำไปค่ะ ฉันจมจ่อมอยู่ในประวัติศาสตร์นั้นและยุคสมัยนั้น และฉันก็รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้เรียนรู้เกี่ยวกับเธอค่ะ”

มันเป็นเกียรติก็จริง แต่ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย การรับบทนี้เป็นอะไรที่ “เจ็บปวดและน่าอึดอัด” เธอบอก เพราะ “นี่เป็นเรื่องราวของผู้หญิงมากมาย ฉันเห็นใจเธอมากเพราะเธอไม่ได้รับอนุญาตให้มีสิทธิมีเสียงแม้ว่าเธอจะมีพลังงานที่เต็มเปี่ยมและแข็งแกร่งอย่างเหลือเชื่อก็ตาม”

 

 

เคอร์บี้กล่าวว่า พลังงานนั้นอาจจะเป็นสิ่งที่ดึงดูดนโปเลียนให้เข้าหาโจเซฟิน ก่อนที่จะนำหายนะมาสู่ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ในภายหลัง “เธอเป็นแกะดำ เหมือนกับเขานั่นแหละค่ะ” เคอร์บี้กล่าวพลางตั้งข้อสังเกตว่า โจเซฟินโตขึ้นมาบนเกาะมาตินิก ซึ่งห่างไกลจากชนชั้นสูง ที่เธอจะได้เข้าไปเกี่ยวข้องด้วยจากการแต่งงานในภายหลัง เคอร์บี้ตั้งข้อสังเกตว่า ลักษณะการได้รับการเลี้ยงดูมาของเธอทำให้ “เธอไม่มีที่อยู่ในสังคมชนชั้นสูง” แต่ขณะเดียวกัน เธอก็เกือบจะติดตามสามีชนชั้นสูงของเธอสู่คมมีดกิโยตินระหว่างยุคแห่งความน่าสะพรึงกลัวด้วย “วาคินและฉันรู้สึกว่ามันเป็นช่วงที่พวกเขาเพิ่งเข้าใจกันและกัน เธอไม่ใช่คนที่ใครๆ จะอยากแต่งงานด้วย เธอเป็นแม่ม่ายลูกสองและอายุมากกว่าเขาหกปี แต่เธอร่ายมนต์สะกดเขา มีบางสิ่งที่พวกเขามีเหมือนกัน พวกเขาเห็นใจกัน รู้สึกว่าเป็นที่จดจำและพวกเขาก็เข้าใจกันและกันในฐานะคนที่ผิดแผกไปจากพวกค่ะ”

เคอร์บี้พูดถึงโจเซฟินว่าเป็น “ผู้รอดชีวิต” และกล่าวว่าเธอกับสก็อตเจาะลึกลงไปว่าเธอสามารถเอาตัวรอดได้อย่างไร “ฉันกับริดลีย์คุยกันอยู่นานเลยเกี่ยวกับความแตกต่างระหว่างความรู้สึกทางเพศและความเย้ายวน” เธอกล่าว “ฉันคิดว่าบางทีความเย้ายวนตามธรรมชาติของเธออาจเกิดจากการได้รับการเลี้ยงดูของเธอในภูมิอากาศเขตร้อน ความอบอุ่น ดนตรี วัฒนธรรมและสภาพแวดล้อมน่ะค่ะ ช่วงเวลาวัยเด็กของเธอเป็นเรื่องเกี่ยวกับประสาทสัมผัสมากกว่าความรู้ แต่พอเธอแต่งงานกับนโปเลียน แต่เธอก็ต้องปรับตัว ต้องเปลี่ยนแปลงทุกอย่าง เพื่ออยู่รอด เธอต้องกลายเป็นภรรยาที่ดีกว่าเดิม เป็นภรรยาที่เขาต้องการค่ะ”

“วาเนสซาสามารถนำข้อมูลทั้งหมดที่เธอสะสมมาได้ มาถ่ายทอดผ่านแม้กระทั่งการเคลื่อนไหวหรือสีหน้าที่เล็กน้อยที่สุด” สก็อตกล่าว “เธอและวาคินมีความเข้าใจในเรื่องจังหวะตามสัญชาตญาณที่เป็นธรรมชาติมากๆ ครับ”

Napoleon จะเข้าฉายพิเศษในโรงภาพยนตร์ทั่วโลกในวันที่ 22 พฤศจิกายน ปี 2023 ก่อนที่จะแพร่ภาพทั่วโลกทางแอปเปิล ทีวีพลัส

 

สำหรับแฟนหนังเมเจอร์ ห้ามพลาดกับบัตรดูหนังสุดคุ้ม M PASS ที่จะทำให้คุณคุ้มเต็มอิ่มกับการดูหนังตลอดทั้งปี เตรียมไปมันส์กับกองทัพหนังดังมากมาย สมัครง่ายๆเพียงแค่คลิก ที่นี่ 

จักรพรรดินโปเลียน

  • 22 November 2023
  • Adventure / แอ็คชัน / ชีวิต /
  • 158 นาที
15+

ข่าวที่เกี่ยวข้อง