HIGHLIGHT CONTENT

นางพญาอินทรีสยายปีก! Wonder Woman 1984 เทียบชัดๆถอดต้นฉบับคอมิกส์ DC มาแค่ไหน?

  • 6,447
  • 09 ธ.ค. 2019

 

 

แม่จัดเต็ม! ตัวอย่างแรก Wonder Woman 1984

กั๊กไว้นาน มาคราวนี้แม่บอกอะไรบ้าง??

 

                หลังจากปล่อยให้รอคอยมาเนิ่นนาน ในที่สุด Wonder Woman 1984 ก็ปล่อยตัวอย่างแรกให้เราได้ชมกันแบบเต็ม ๆ งานนี้ต้องขอบอกเลยว่าคุ้มค่าสมแก่การรอคอย ไม่ว่าจะเป็นดนตรีประกอบตัวอย่างที่มีความดิสโก้เข้ากับยุคสมัยภายในเรื่อง แต่ก็ไม่ได้ดูเชยล้าจากสมัยปัจจุบัน หรือจะเป็นเนื้อเรื่องที่เต็มเปี่ยมไปด้วยปริศนาน่าค้นหา และความอลังการของวันเดอร์วูแมนที่ กัล กาโดต์ก็ยังคงทรงพลังเช่นเคย แถมด้วยความสามารถใหม่ ๆ ที่เหนือล้ำกว่าทุกซูเปอร์ฮีโร่ที่ผ่านมา หลังจากที่กั๊กกันเอาไว้นาน มาดูกันว่าเราได้เห็นอะไรจากตัวอย่างแรกนี้บ้าง

 

ความสัมพันธ์ระหว่างไดอาน่าและชีตาร์ (คู่ปรับภายในเรื่อง)

                ใครที่ติดตามข่าวคราวของ Wonder Woman 1984 มาอย่างต่อเนื่องคงจะทราบกันดีกว่า คู่ปรับของไดอานาในเรื่องนี้คือ ชีตาร์ หญิงสาวผู้ถูกคำสาปให้กลายเป็นครึ่งมนุษย์ครึ่งเสือชีตาร์ ซึ่งเธอคนนั้นในตอนที่เป็นมนุษย์มีชื่อว่า บาร์บารา มิเนอร์วา นักสัตววิทยาโบราณ จากที่เราเห็นในตัวอย่างนี้เธอดูเหมือนจะเป็นเพื่อนสนิทคนหนึ่งของไดอาน่าเลยทีเดียว ทั้งคู่พูดคุยปรึกษากันเรื่องความรัก แต่อะไรที่ทำให้ทั้งคู่ต้องหันมาห้ำหั่นกันเองนั้นยังคงเป็นปริศนา

 

แม็กซ์เวล ลอร์ด ผู้ทรงอิทธิพลแห่งโลกยุคใหม่

                ประเด็นสำคัญของภาคต่อเรื่องนี้คือการก้าวเข้าสู่ยุคเปลี่ยนผ่านของโลก และแม็กซ์เวล ลอร์ดคือผู้กุมอำนาจสำคัญในสื่อโทรทัศน์ หรืออาจจะมากมายกว่านั้น โดยในฉบับคอมิกส์นั้นแม็กซ์เวลถือได้ว่าเป็นเหมือนกับ เล็กซ์ ลูเธอร์ของซูเปอร์แมนเลยทีเดียว และจากข้อมูลที่ลือกันมาก่อนหน้านี้ว่า แม็กซ์เวล คือคนที่อยู่เบื้องหลังการกลับมาชีวิตอีกครั้งของสตีฟ เทรเวอร์ แต่เขาจะใช้วิธีไหน? แล้วเขาเป็นแค่มนุษย์ธรรมดา หรือเป็นเทพที่จำแลงกายมากันแน่?

 

ยุคสมัยใหม่การซ่อนตัวก็ยิ่งลำบาก

                ในช่วงปี 1984 นับเป็นช่วงแรก ๆ ของการตรวจตราความปลอดภัยของประชาชนด้วยการติดตั้งกล้องวงจรปิด นี่อาจเป็นข้อดีของคนทั่วไป แต่สำหรับคนที่ต้องการปิดบังตัวตนอย่างไดอาน่าแล้วนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่เธอจะปรากฎตัวในฐานะของ Wonder Woman ดังนั้นเราจึงได้เห็นเธอทำลายกล้องวงจรปิดด้วยรัดเกล้าประจำตัวของเธอเอง ถือเป็นอีกหนึ่งไอเท็มสำคัญของวันเดอร์วูเมนที่ยังไม่ได้ใช้ในภาคก่อน

 

“จินตนาการถึงความสมหวังที่คุณสามารถครอบครองทุกสิ่งที่ใจคุณปรารถนา”

                  ประโยคนี้เป็นของแม็กซ์เวล ลอร์ดที่พูดเอาไว้ในตัวอย่างภาพยนตร์ และดูเหมือนว่าจะเป็นกุญแจสำคัญของเนื้อเรื่องเลยทีเดียว เพราะมันสามารถสะท้อนได้ถึงการกลับมาของสตีฟ เทรเวอร์ ที่ไม่แน่ว่าไดอาน่าอาจจะไปทำข้อตกลงอะไรบางอย่างกับแม็กซ์เวลเอาไว้ หรืออาจหมายถึงตัวละครบาร์บาร่า มิเนอร์วา หรือชีตาร์ ที่ดูเหมือนว่าภายในใจลึก ๆ ของเธอจะซ่อนความปรารถนาอะไรบางอย่างเอาไว้เช่นกัน และแม็กซ์เวล ลอร์ดคือคนที่ทำให้มันกลายเป็นจริง ซึ่งในตัวอย่างนี้เราก็ได้ยินเขาพูดต่อไปว่า “ถึงเวลาที่คุณต้องตอบแทนแล้ว”

 

แสงปริศนาที่ฉายลงบนแม็กซ์เวล ลอร์ด

                ในตัวอย่างนี้มีอยู่หนึ่งฉากที่เราได้เห็นแม็กซ์เวล ลอร์ด ที่รับบทโดย เปโดร ปาสคาล ยืนอยู่ใต้แสงสว่างสีฟ้าที่อาบไปทั่วร่างของเขา มีแฟนหนังคาดการณ์ว่านั่นคืออุปกรณ์ที่ชื่อว่า Brother Eye ซึ่งในฉบับคอมิกส์เป็นดาวเทียมขนาดยักษ์ที่สร้างขึ้นมาโดยแบทแมน เป็นดาวเทียมที่ทำให้ผู้ครอบครองสามารถสอดส่องตรวจตราได้ทุกสิ่งบนโลก และด้วยเทคโนโลยีที่แม็กซ์เวล ลอร์ดครอบครอง ทำให้ดาวเทียมนี้สามารถปล่อยอุปกรณ์ที่ชื่อ OMACs หรือ the One Man Army Corps. ที่มีลักษณะเป็นนาโนบ็อตที่สามารถเปลี่ยนมนุษย์ธรรมดาให้กลายเป็นนักรบทรงพลังที่สามารถต่อสู้ตัวต่อตัวกับซูเปอร์แมนได้ หากยึดตามข้อมูลนี้ ดูเหมือนว่าวันเดอร์วูแมนจะต้องเผชิญหน้ากับศัตรูที่ร้ายกาจเสียยิ่งกว่าเอเรสในภาคแรกเสียแล้ว

 

ยานล่องหนประจำตัวของ Wonder Woman

                หากแบทแมนมีแบทโมบิลล์แล้ว Wonder Woman เองก็มี Invisible Jet เป็นของตัวเองเช่นกัน หลังจากมีข่าวลือมาก่อนหน้านี้ว่าเราจะได้เห็นมันในภาพยนตร์เรื่องนี้ ซึ่งเหมือนว่าเราจะได้รับการคอนเฟิร์มแล้วจากตัวอย่างที่ปล่อยออกมา เราได้เห็นสตีฟ และไดอาน่า นั่งอยู่บนอากาศยานลำหนึ่งที่มีฉากหลังเป็นพลุไฟตระการตา แต่เธอจะใช้มันแค่เพื่อชมพลุอย่างเดียวหรือไม่ แล้วเธอเอาเวลาที่ไหนไปสร้างมันขึ้นมา นั่นเป็นคำถามที่ต้องไปหาคำตอบในโรงภาพยนตร์

 

ฉากใหม่ในสนามประลองของชาวอเมซอน

                อย่างที่เราทราบกันว่าเมื่อไดอาน่า ตัดสินใจออกจากเกาะเทอร์มิสกีร่า เธอจะไม่สามารถกลับไปได้อีก แต่ในตัวอย่าง Wonder Woman 1984 นี้เราได้เห็นอีกฉากหนึ่งที่เป็นฉากใหม่ของชาวอเมซอน เป็นฉากการฝึกฝนเหล่านักรบของพวกเธอ รวมถึงบรรยากาศโดยรอบที่มีลักษณะเหมือนสนามกีฬาโรมัน ฉากนี้เป็นไปได้ทั้งฉากย้อนอดีตในวัยเด็กของตัวไดอาน่า หรือเป็นฉากในปัจจุบันของชาวอเมซอนกันแน่?

 

Wonder Woman โหนสายฟ้า

                ในตอนจบของ Wonder Woman ภาคที่แล้ว เราได้รู้คำตอบกันว่าเธอคือลูกสาวที่ถูกสร้างขึ้นมาโดย ซุส เทพเจ้าสายฟ้าตามตำนานเทพกรีก นั่นทำให้เธอสามารถครอบครองพลังสายฟ้าได้ และในตัวอย่างนี้ก็ทำให้พลังความสามารถของเธอก้าวล้ำขึ้นไปอีกขั้น ด้วยการที่ไดอาน่าใช้บ่วงบาศก์ของเธอ เคลื่อนที่โหนสายฟ้าไปกลางอากาศ นับเป็นอีกฉากที่แสดงให้เห็นถึงพลังความสามารถซูเปอร์ฮีโร่ของเธอที่อัพเกรดยิ่งกว่าเดิมมาก และแน่นอนว่าเป็นฉาก Iconic ของตัวอย่างนี้เลยทีเดียว

 

ชุดเกราะ Golden Eagle

                สิ่งที่น่าตื่นเต้นที่สุดของตัวอย่างแรกนี้คงหนีไม่พ้น ฉากสุดท้ายที่แสดงให้เห็นชุดเกราะใหม่ของเธอ เป็นชุดเกราะสีทองพร้อมกับปีกขนาดใหญ่ ซึ่งชุดเกราะนี้เป็นชุดเกราะที่มีต้นแบบมาจากฉบับคอมิกส์อย่างชัดเจน ในคอมิกส์นั้นมีชื่อว่าชุดเกราะ Golden Eagle โดยเธอจะใช้ชุดเกราะนี้เฉพาะในช่วงของการเข้าสงครามเท่านั้น และเป็นชุดเกราะที่ถูกสร้างโดยฮิปโปไลต้า แม่ของเธอ

 

                แม้ว่าตัวอย่างแรกของ Wonder Woman 1984 จะแสดงให้เราเห็นฉากใหม่ ๆ อันน่าตื่นตาตื่นใจมากมาย แต่เราแทบจะไม่ได้รู้เนื้อเรื่องของภาพยนตร์เลยว่านี่จะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับอะไรกันแน่ แต่เท่านี้ก็เพียงพอให้เราเฝ้ารอการกลับมาของเธออย่างใจจดใจจ่อ มาตั้งตารอไปด้วยกันกับการกลับมาระเบิดพลังหญิงอีกครั้ง ในวันที่ 4 มิถุนายน ปี 2020

 

Source: Screen Rant