แมรี่ผู้ชี้ทาง
“The Nun” ถ่ายทำทั่วประเทศโรมาเนีย ในฉากที่ถ่ายทำได้จริงและโดยรอบบูชาเรสต์และทรานซิลวาเนีย ปราสาท 2 แห่งที่มีชื่อเสียงในยุคศตวรรษที่ 14 และป้อมปราการสมัยก่อนที่มีความงดงามที่คลาสสิคชวนหลอน ฉากด้านในบางส่วนสร้างขึ้นในโรงถ่ายที่สตูดิโอ Castel Film ในบูชาเรสต์
สำหรับการช่วยให้หนังได้ภาพแนวโกธิค ฮาร์ดี้ขอความช่วยเหลือจากผู้กำกับภาพ แม็กซิเม่ อเล็กซานเดอร์ และผู้ออกแบบฉาก เจนนิเฟอร์ สเปนซ์ ซึ่งเคยร่วมงานกันมาแล้วในเรื่อง “Annabelle: Creation” พวกเขาขอความช่วยเหลือจากทีมงานที่รวมตัวกันจากสหรัฐฯ ยุโรปและโรมาเนีย
อเล็กซานเดรมีผลงานภาพยนตร์มาแล้ว 8 เรื่องที่โรมาเนีย เขาเล่าว่า “โครินรักษาจินตนาการของเขาไว้ได้เป๊ะ และถ่ายทอดไอเดียออกมาได้ตามบทแต่ละหน้า มันวิเศษมากครับที่ได้สร้างสีสันและรูปร่างให้ภาพวาดขาวดำนั้น”
สเปนซ์เล่าว่า “สิ่งที่ดีที่สุดเกี่ยวกับหนังเรื่องนี้และการเดินทางมาที่โรมาเนียคือการออกแบบปราสาทของจริง เวลาที่เราเดินผ่านทางเดินจะสัมผัสได้ถึงพลังของสิ่งมีชีวิตจากอดีต มันเป็นบรรยากาศที่ดีและมีความหลอนในสถานที่ช่วงกลางคืน” รถม้าลากคือยานพาหนะที่ใช้กันปกติอย่างที่เห็นบ่อยๆ โดยแพะและแกะนำกลับมาใช้ในฉาก รวมถึงค้างคาว การขนศพด้วยเท้า ฝนและกบที่ที่ช่วยสร้างบรรยากาศแบบสมัยก่อนขึ้นมาได้
ขณะที่สถานที่ในชนบทได้เพิ่มบรรยากาศที่ดูไม่สะอาดตา ซึ่งสร้างความท้าทายให้ทีมงานฝ่ายสร้างสรรค์ของฮาร์ดี้ “แม็กซิเม่เป็นตากล้องที่มีพรสวรรค์ด้วยมุมมที่ที่เหลือเชื่อ” ผู้กำกับฯ กล่าว “เขาพร้อมที่จะลงมือทำทุกอย่างและนำเทคโนเครนมาใช้ในสถานที่ลำบากบางแห่ง ซึ่งถือเป็นงานยากสำหรับเจนนิเฟอร์และทีมงานของเธอที่ต้องสร้างและปรับปรุงปราสาท ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านพักของเราที่เบอร์ชาเรสต์ 7 ชั่วโมง เธอถ่ายทอดสภาพแวดล้อมที่งดงามสำหรับภาพยนตร์ได้จริงๆ”
อเล็กซานเดรอธิบายถึงสไตล์ของภาพยนตร์ว่า “มีความเป็นยุค 70 ด้วยหมอกควันและมีความขัดแย้งกันสูงมาก ในหนังแนวนนี้เราเล่นกับแสงเงาได้มากโดยการเน้นแสงจ้าไปที่จุดหนึ่ง จากนั้นสร้างวามมืดให้ได้มากที่สุดเท่าที่เราต้องการ”
แม้ว่าจะมีกลิ่นไอของแนวโกธิค “The Nun” ยังคงมีสไตล์ที่ชัดเจนจากหนัง “Conjuring” ทุกภาค อเล็กซานเดรเล่าว่า “แม้จะก้าวสู่อนาคตหรือย้อนไปอดีตกี่ปีในการเล่าเรื่องราว ก็ยังคงมีสไตล์ตามความเชื่อแบบเจมส์ที่ปรากฎในภาคแรก เหมือนผู้ที่มีความชำนาญมาอย่างยาวนาน และถ่ายทำด้วยกล้องจริงให้ได้มากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ โครินมีวิธีทำงานแบบนั้น”
ความโดดเด่นของเรื่อง “The Nun” มาจากการใช้กล้องในแบบต่างๆ เพื่อใช้ถ่ายทำมุมมองต่างๆ ของตัวละคร อเล็กซานเดรอธิบายว่า “นี่เป็นการเดินทางของคุณพ่อบูร์คและซินเตอร์ไอรีน เธออยู่ในความคิดของซิสเตอร์ไอรีนและจินตนาการของเธอมีความบอบบางกว่า สำหรับฉากของเธอเราใช้กล้อง Steadicam เพราะทำให้ผู้ชมเห็นความแตกต่างว่าอะไรจริงและอะไรไม่จริง เวลาที่เราดูจากมุมมองของคุณพ่อบูร์ค เราจะใช้กล้องแฮนด์เฮลด์เพราะเขาอยู่ในช่วงเวลาที่ตื่นเต้น และทุกอย่างเกิดขึ้นกับเขาจริง”
The Nun วันนี้ ในโรงภาพยนตร์