เริ่มต้นปีมาด้วยภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่เรื่องแรกอย่าง Glass ที่เป็นผลงานภาพยนตร์ภาคที่ 3 ของไตรภาคที่เริ่มต้นจาก Unbreakable เมื่อ 18 ปีที่แล้ว ก่อนจะต่อเนื่องมาด้วย Split และล่าสุดกับภาพยนตร์เรื่องนี้ ที่นำเอา 3 คนที่มีความสามารถพิเศษเหนือมนุษย์มาห้ำหั่นกัน พร้อมกับตั้งคำถามว่าพวกเขามีพลังพิเศษจริง ๆ หรือเป็นแค่โรคหลงผิดทางจิตเท่านั้น การผูกโยงเรื่องราวกว่า 18 ปีไม่ใช่เรื่องง่าย หลายคนอาจจะสงสัยว่าระยะเวลาที่ห่างกันยาวนานขนาดนี้ ในภาคจบอย่าง Glass จะเป็นสิ่งที่เพิ่งคิดขึ้นมาใหม่เพื่อขายหนัง หรือเป็นสิ่งที่ถูกวางแผนมาตั้งแต่เริ่มต้น
ผู้กำกับเอ็ม ไนท์ ชยามาลาน ได้ให้สัมภาษณ์กับ Entertainment Weekly ในประเด็นดังกล่าวเอาไว้ว่า...
“ครับ ผมคิดถึงมันมาตลอดเหมือนกับเป็นวงโอเปร่าเล็ก ๆ ตั้งแต่ตอนที่ผมเริ่มสร้าง Unbreakable ผมคิดว่ามันเป็นอะไรที่สอดคล้องกันดีมากถ้าทุกอย่างมันจะจบลงกรีดร้อง และมันมีความหมายมาก มันมีความหมายมากกว่าทุกอย่างเลย อย่างที่พวกคุณพอจะรู้ผมเป็นแฟนตัวยงของ One Flew Over the Cuckoo’s Nest ต้นฉบับของภาพยนตร์เรื่องนั้นทำให้ผมทึ่งทุกครั้งที่ได้ดู และความคิดที่ว่าการเดินทางของตัวละครหลักจะถูกเติมเต็มด้วยตัวละครตัวอื่น ๆ มันเป็นไอเดียที่ทรงพลังมาก ๆ”
แน่นอนว่า Glass เป็นภาพยนตร์ที่อาจจะไม่ได้ถูกอกถูกใจใครหลายต่อหลายคน แต่ต้องยอมรับว่านี่เป็นอีกหนึ่งภาพยนตร์ที่ตั้งคำถามกับความเป็นซูเปอร์ฮีโร่ได้เป็นอย่างดี ในยุคที่มีภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่ในตลาดภาพยนตร์อย่างมากมาย อีกทั้งยังสามารถชวนให้ตั้งคำถามถึงตัวตนและชีวิตของมนุษย์ได้อย่างน่าสนใจ ใครที่ยังไม่ได้ชมภาพยนตร์เรื่องนี้อย่าลืมไปพิสูจน์ด้วยตาของตัวเองกับ Glass วันนี้ที่ Major Cineplex
Source: Screen Rant