เผย 10 Easter Eggs ที่คุณอาจพลาดในหนัง Joker (พาร์ท1)

เผย 10 Easter Eggs ที่คุณอาจพลาดในหนัง Joker (พาร์ท 1)

คำเตือน: บทความนี้มีเนื้อหาที่เป็นการสปอยล์หนัง Joker

ในที่สุดก็เข้าฉายแล้วกับหนัง Joker เวอร์ชั่นใหม่ล่าสุด ที่ได้รับกระแสตอบรับจากแฟนๆอย่างถาโถมว่าเป็นหนังที่ดาร์คที่สุด แลหดหู่ที่สุดเรื่องหนึ่งของ DC. แต่ถึงแม้ว่าหนังเรื่องนี้จะได้รับการยืนยันจากทางผู้สร้างแล้วว่า มันจะไม่เหมือนกับเวอร์ชั่นใดๆมาก่อน แต่ทางผู้สร้างก็ได้ใส่ฉากลับหรือตัวละครลับ หรือที่เราเรียกว่า Easter Eggs เล็กๆน้อยๆเอาไว้ภายในหนังด้วย และนี่คือ 10 Easter Eggs ลับที่คุณอาจพลาดไปในหนัง Joker

1.แรงบันดาลใจหลักของหนัง Joker

เราต่างก็รู้กันดีว่าหนัง Joker ได้รับแรงบันดาลใจมากจากหนังขึ้นหิ้งยุคก่อนของผู้กำกับ Martin Scorsese มากกว่าหนังสือการ์ตูน DC เสียอีก. ว่ากันว่าหนังเรื่อง The King of Comedy ในปี 1982 ของผู้กำกับ Martin Scorsese คือแรงบันดาลใจหลักๆของหนัง Joker. The King of Comedy นำแสดงโดย Robert De Niro ผู้รับบทเป็น Rupert Pupkin ชายวิกลจริตที่เป็นนักแสดงตลกผู้ล้มเหลว แต่เขาก็เป็นชายผู้เทิดทูนรายการตลกที่ประสบความสำเร็จของ Jerry Langford (รับบทโดย Jerry Lewis) ซึ่งมันก็เหมือนกับเรื่องราวในหนัง Joker ที่ Joaquin Phoenix รับบทเป็น อาเธอร์ ชายวิกลจริตที่เป็นนักแสดงตลกผู้ล้มเหลว แต่เขาก็เป็นชายผู้เทิดทูนรายการตลกที่ประสบความสำเร็จของ Murray Franklin และเดาซิว่าใครรับบทเป็นตัวละคร Murray… ชายผู้รับบทนี้คือ Robert De Niro นั่นเอง!

2.แกพูดกับฉันเหรอ?

อีกหนึ่งแรกบันดาลใจหลักของหนัง Joker คือ Taxi Driver ของผู้กำกับ Scorsese ที่ภายในหนัง นักแสดงอย่าง De Niro ที่รับบทเป็นตัวละคร Travis Bikle ก็เป็นชายวิกลจริตเหมือนกัน และมันจะมีฉากหนึ่งที่เป็นฉากโด่งดังของหนึ่งเรื่องนี้ ที่จะเป็นฉากของ ตัวละคร Travis Bikle กำลังซักซ้อมการใช้ปืนข่มขู่คนหน้ากระจกภายในอพาร์ทเม้นของตัวเอง ด้วยบทพูดขึ้นชื่อที่เป็นที่โด่งดังไปทั่วโลกอย่าง “You talkin’to me?” (แกพูดกับฉันเหรอ?)

หนึ่งในฉากสุดโด่งดังฉากนี้ ก็ถูกใส่เข้ามาเป็นแรงบันดาลในในหนัง Joker เหมือนกัน กับฉากที่ อาเธอร์หยิบปืนออกมาเล่นและซักซ้อมการข่มขู่ในอพาร์ทเม้นของเขาจนปืนลั่นนั่นเอง

3.อัลเฟรด เพนนีเวิร์ท

ในฉากที่ อาเธอร์ มาที่บ้าน เวย์น ระหว่างที่ อาเธอร์ กำลังพูดคุยกับ บรู๊ซ วัยเด็ก มีชายผู้ดูแลบ้านคนหนึ่งได้เข้ามาขัดขวางการสนทนาของทั้งคู่เอาไว้ และถึงแม้ว่าชื่อของชายผู้นี้จะไม่มีการเอ่ยถึงภายในหนัง แต่ในตอนท้ายหลังหนังจบเครดิตก็ได้ยืนยันออกมาว่าเขาคือ อัลเฟรด เพนนีเวิร์ท ชายรับใช้ดูแลตระกูลเวย์นผู้ซื่อสัตย์นั่นเอง และตัวละครตัวนี้รับบทโดย Douglas Hodge ที่เคยฝากผลงานการแสดงมาแล้วใน Black Mirror, Lost in Space และ Red Sparrow

4.บรู๊ซ เวย์น วัยเด็ก

บรู๊ซ เวย์น วัยเด็ก ในเวอร์ชั่นหนัง Joker นี้ รับบทโดย Dante Pereira-Olson นักแสดงเด็กผู้ที่ก่อนหน้านี้เคยรับบทเป็นตัวละครวัยเด็กของตัวละครที่รับบทโดย Joaquin Phoenix ในหนัง You Were Never Really Here เมื่อปี 2017 จึงอาจเป็นไปได้ที่นักแสดงเด็กผู้นี้จะถูกรับรองและชักชวนโดย Phoenix เพราะพวกเขาเคยร่วมงานกันมาก่อน นอกจากฉากการพบเจอกันครั้งแรกระหว่าง บรู๊ซ (อนาคตซูเปอร์ฮีโร่ Batman) และ อาเธอร์ (อนาคตวายร้าย Joker) ที่หน้าบ้านแล้ว ยังมีฉากการสังหารครอบครัว เวย์น ในตรอกข้างโรงหนังที่เป็นการเคารพต้นฉบับเวอร์ชั่น Comics อีกด้วย. เพิ่มเติมอีกนิดหนึ่งคือ ในฉากที่ อาเธอร์ เจอ บรู๊ซ เป็นครั้งแรก บรู๊ซ ได้โรยตัวลงจากบ้านต้นไม้โดยใช้เสา ในฉากนี้แฟนๆหลายคนต่างนึกถึงการโรยตัวลงไปยังถ้ำค้างคาวของ Batman ใน TV Show เมื่อปี 1960

5.Modern Times ของ ชาร์ลี แชปลิน

ในฉากที่ Arthur Fleck แอบปลอมตัวเป็นพนักงานเข้าไปในโรงหนังเพื่อแอบเจอกับ Thomas Wayne ขณะนั้นมีการฉายหนังเรื่อง Modern Times ของ Charlie Chaplin (ชาร์ลี แชปลิน) นักแสดงและผู้กำกับชื่อดังระดับตำนานในอดีตผู้สร้างเสียงหัวเราะให้กับผู้คนมาจนถึงยุคปัจจุบัน และหนังเรื่อง Modern Time นี้ Todd Phillips ก็จงใจเลือกที่จะใส่เข้ามา เพราะว่ามันเป็น 1 ในหนังแรงบันดาลใจในการสร้างหนัง Joker ของเขานั่นเอง

Phillips บอกกับสื่อ IGN ว่า “ผมคิดว่าคุณควรจะดู Modern Times นะ เพราะเราเชื่อว่ามันมีส่วนหนึ่งของ ชาร์ลี แชปลิน ในตัวของ อาเธอร์ ที่ผมคิดว่ามันเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ”

อ่านต่อ Part 2 คลิกที่นี่ : เผย 10 Easter Eggs ที่คุณอาจพลาดในหนัง Joker (พาร์ท 2)