เจาะความสยองขั้นสุดของโรงงานยะสันเทียะ โลเคชั่นสุดหลอนใน ร่างทรง

หนึ่งในโลเคชันสำคัญที่สร้างความเขย่าขวัญให้ ‘ร่างทรง’ ภาพยนตร์สั่นประสาทเรื่องล่าสุดจาก ‘ผกก. โต้ง - บรรจง ปิสัญธนะกูล’และโปรดิวเซอร์ชื่อดัง ‘นา ฮง-จิน’ต้องยกให้บรรยากาศสุดหลอนใน ’โรงงานยะสันเทียะ’ เบื้องหลังการเฟ้นหาโลเคชันสุดเฮี้ยนที่ช่วยขับพลังความขลังให้หนังเรื่องนี้ มีที่มาที่ไปอย่างไรบ้าง โดย ‘พี่เชี่ยว - เชี่ยวเวช ดนตรี’ เผยว่า

กว่าจะได้โลเคชัน ‘โรงงานยะสันเทียะ’ นี้มาพี่เชี่ยวเกริ่นว่า ผกก.โต้ง - บรรจง มี Reference ชัดเจนว่าอยากได้โรงงานขนาดเล็กแบบกิจการในครอบครัว และจำเป็นต้องมีฟังก์ชันกับเนื้อเรื่องในฉากทำพิธีกรรม “เราตีความบรรยากาศตัวสถานที่จากบท ซึ่ง ผกก.โต้ง ขยายความให้ทีมโลเคชันทราบเพิ่มเติมว่า โรงงานนี้มีความเก่ายังไง โดนไฟไหม้มาหนักขนาดไหน ภาพที่แกอธิบายช่วยให้เราเห็นภาพชัดขึ้นว่าคราบไฟไหม้ที่เกิดขึ้นในโรงงานทำให้มันเกิดความรู้สึกอึดอัด น่ากลัว”

“เอาจริงๆ ตอนที่ผมได้รับบรีฟนี้มาจากผู้กำกับสิ่งแรกที่ผุดขึ้นมาเลยคือ จะหาได้จริงไหมเนี่ย เพราะมันค่อนข้างมีความเฉพาะตัวสูงมากๆ ก็ถือว่าเป็นบรีฟที่ค่อนข้างหนักใจเลยทีเดียวครับ” “ย้อนกลับไปตอนก่อนถ่ายทำ เราเคยประสานงานกับโลเคชันที่หนึ่งไว้แล้วสำหรับฉากโรงงานร้าง แต่ด้วยความสะดวกในการทำงานของทีมงาน จึงทำให้ต้องมีการเปลี่ยนสถานที่“

“ดังนั้นผมเลยต้องหาสถานที่ถ่ายทำที่ใหม่ โดยตระเวนไปหลายจังหวัดอยู่เหมือนกัน มีทั้งกรุงเทพ สมุทรสงคราม สมุทรปราการ อยุธยา สระบุรี กาญจนบุรี และนครปฐม รวมๆ แล้วโลเคชันที่ไปดูน่าจะสัก 20-25 ที่เหมือนกันนะครับ เวลาที่ใช้ไปกับการตาม หาโลเคชันนี้ก็กินเวลาไปกว่า 5 เดือนได้นะ เป็นกระบวนการทำงานที่ค่อนข้างดุเดือดอยู่เหมือนกัน เรียกว่าหาจนท้อเลย จนกระทั่งได้มาเจอที่นี่” “เป็นความโชคดีหรือความบังเอิญก็ไม่รู้ ที่โลเคชันนี้ยังไม่เคยถูกใช้ถ่ายทำมาก่อน อีกทั้งมีฟังก์ชันที่น่าสนใจ ให้บรรยากาศอึดอัด ความรู้สึกโดนทิ้งร้าง พอเข้าไปข้างในก็น่าหวาดกลัว ยิ่งนึกก็ยิ่งกดดัน เมื่อคิดถึงความยากตอนไปเสาะหาโลเคชันนี้ และด้วยความที่ฉากพิธีกรรมที่เกิดขึ้นในโรงงานแห่งนี้เป็นฉากไคลแม็กซ์ของเรื่อง ก็เลยยิ่งกดดันมากๆ”

“ตัวโรงงานเราใช้ถ่ายทำทั้งภายนอกและภายในอาคารเลย จบในที่เดียว ซึ่งก็เป็นโลเคชันที่สำคัญทั้งคู่ มันเลยเป็นการทำงานที่มีความพิเศษมากๆ ครับ” “การได้มาร่วมงานกับ ผกก.โต้ง-บรรจงและทีมงานร่างทรงทำให้เราได้เติบโตขึ้น เป็นความท้าทายที่สนุกมาก ถึงแม้ว่าโจทย์จะยาก แต่ก็ทำให้เราได้ก้าวไปอีกขั้นหนึ่ง ยิ่งพอหนังได้ออกฉายในบ้านเรา ได้เห็นคำวิจารณ์ต่างๆ คนพูดถึงงานโลเคชัน ทำให้ได้รู้ว่าคนดูเขาเห็นสิ่งที่เราตั้งใจทำ มันทำให้เรามีกำลังใจ และรู้สึกดีใจมากๆ ที่คนดูสัมผัสสิ่งนี้ และอินไปกับโลเคชันในหนังได้ เพราะปกติแล้วโลเคชันแทบจะเป็นสิ่งที่กลืนไปกับภาพยนตร์ ไม่ค่อยมีใครพูดถึงเท่าไหร่ เมื่อเห็นฟีดแบกแบบนี้ก็ดีใจมากครับ เรารู้สึกว่าเราประสบความสำเร็จกับหน้าที่ของเราแล้ว”