ภาพยนตร์เรื่อง WHAT HAPPENED TO MONDAY พาเราเดินทางสู่อนาคตอันใกล้ ในเวลาที่โลกต้องเผชิญวิกฤตประชากรล้นโลก ซึ่งจำนวนประชากรที่ล้นโลกทำให้เกิดวิกฤตขาดแคลนในหลายด้านทั้งพลังงาน ทรัพยากร อาหาร การทำงาน ทำให้ รัฐบาลในหนังออกออกกฏบุตรหนึ่งคนต่อหนึ่งครอบครัวซึ่งมีบทลงโทษผู้ฝ่าฝืนอย่างเด็ดขาด เหตุการณ์ในหนังเป็นแรงบันดาลใจที่มาจากข้อเท็จจริงที่มีความกังวลอยู่ว่า ในอนาคต ประชากรบนโลกนี้อาจจะต้องแย่งชิงทรัพยากรกัน เราเลยขอพาทุกคนมาดูข้อมูลความเป็นจริงว่า สถานะในอดีตและประเทศไทย เกี่ยวกับนโยบายการควบคุมประชากรเป็นอย่างไร
ในช่วงสมัยของรัฐบาล จอมพล ป. พิบูลสงคราม เป็นช่วงที่ส่งเสริมให้คนไทยมีลูกมาก เคยมีการจัดตั้งองค์กรระดับชาติเพื่อส่งเสริมให้คนแต่งงานกัน เรียกว่า “องค์การส่งเสริมการสมรส” จัดตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ.2485 เพื่อหวังเพิ่มจำนวนประชากรที่ตอนนั้นมีอยู่เพียงแค่ 18 ล้านคน โดยตั้งเป้าไว้ว่าไทยจะมีจำนวนประชากรให้มากถึง 40 ล้านคน ซึ่งวิธีที่จะทำให้คนเกิดขึ้นมามากๆ คือการส่งเสริมการแต่งงาน มีการจัดการประชาสัมพันธ์ทางสื่อ ละคร เพลง เชิญชวนให้คนแต่งงาน ส่งเสริมให้มีลูก 4 คน จนไทยเข้าสู่ยุคเบบี้บูม
หลังจากนั้นในช่วงปี 2513 - 2539 เริ่มมีนโยบายลดอัตราการเพิ่มประชากร ภายใต้แนวคิดลูกมากจะยากจน มีการให้ความรู้เรื่องการวางแผนครอบครัวที่ดี การลดจำนวนบุตร มีการกำหนดยุทธศาสตร์ขนาดครอบครัวที่เหมาะสม การส่งเสริมให้คู่สมรสที่พร้อมจะมีบุตร แม้จะมีจำนวนประชากรในประเทศมากขึ้นในปัจจุบันถึง 65 ล้านคน ซึ่งมากเป็นอันดับที่ 20 ของโลก แต่หากเปรียบเทียบเป็นอัตราจะพบว่าอัตราการเพิ่มขึ้นลดลงเรื่อยๆ โดยมีข้อมูลว่า หากคิดเป็นที่ของประเทศ เป็น 513,115 ตร.กม. ความหนาแน่นของประชากรจะอยู่ที่ 132.1 คน/ตร.กม.
วันนี้ ในโรงภาพยนตร์