Raya and the last dragon ผลงานแอนิเมชั่นเรื่องล่าสุดของดิสนีย์ที่นำเรื่องราวความเชื่อ ตำนานมังกร พญานาค และวัฒนธรรมของเอเซียอุษาคเนย์มาบอกเล่าเป็นการผจญภัยของเจ้าหญิงที่แตกต่างจากแอนิเมชั่นเจ้าหญิงองค์ก่อนๆ เต็มไปด้วยสีสันและความตื่นตาตื่นใจ
เรื่องราวของนครคูมันตราที่ถูกดรูน ปีศาจชั่วร้ายที่สาปทำให้คนกลายเป็นหิน แต่เหล่ามังกรได้ใช้พลังเฮือกสุดท้ายสะกดมันได้สำเร็จ จนในเวลาต่อมา คูมันตราเกิดแตกแยกเป็นเมืองตั้งชื่อตามส่วนต่างๆของมังกร เมืองเขี้ยว เมืองหัวใจมังกร เมืองสันหลังมังกร เมืองหาง เมืองกรงเล็บ ความแตกแยกของเมืองเกิดการแย่งชิงมณีมังกรจนทำให้มันแตกเป็นเสี่ยงๆ ทำให้ดรูนกลับมามีพลังอีกครั้ง ทำให้รายา เจ้าหญิงแห่งเมืองหัวใจมังกร ต้องออกเดินทางตามหามังกรตัวสุดท้ายเพื่อฟื้นคืนคูมันตราให้กลับมาเป็นหนึ่งอีกครั้ง ซึ่งระหว่างทาง รายา ได้พบเพื่อนใหม่ และได้พบกับ ซีซู มังกรสมุทร ที่ได้ให้บทเรียนแก่รายา ให้เชื่อใจ ไว้ใจคนอื่นมากยิ่งขึ้น
Raya and the last dragon เป็นแอนิเมชั่นเจ้าหญิงดิสนีย์ ที่ไม่ร้องเพลง ไม่มีเจ้าชาย ไม่มีความหวานโรแมนติก เต็มไปด้วยแข็งแกร่ง สนุกสนาน แอ็คชั่น ผสมความน่ารัก งานออกแบบคาแรคเตอร์น่ารักมากๆ และใช้ชื่อตัวละครส่วนใหญ่เป็นชื่อไทย เรื่องราวดูสนุกเข้าใจง่าย เป็นการผจญภัยไปตามเมืองต่างๆที่นำเอาวัฒนธรรมอาเซียนมาใส่ไว้ได้อย่างลงตัว ทั้งอาหาร เสื้อผ้า เครื่องประดับ ผลไม้ สถาปัตยกรรม ความอุดมสมบูรณ์ของป่าไม้ นาข้าว และแม่น้ำ ทุกอย่างถูกหยิบจับมาร่วมกันเป็นหนึ่งอย่างไม่มีแบ่งแยก เหมือนดิสนีย์ได้ประกาศก้องศักดาความเป็นอาเซียนให้ชาวโลกได้รับรู้ ซึ่งแน่นอนว่า คนไทยก็จะจับต้องความเป็นไทยที่ดิสนีย์ใส่เข้าไปในเรื่องแบบเต็มอิ่มเลยทีเดียว
ในส่วนของพากย์ภาษาไทย ที่ได้ ญาญ่า อุรัสยา มาพากย์เสียงเป็นตัวละคร รายา ถือว่าทำหน้าที่ได้สมบูรณ์แบบเสียงพากย์เป็นมืออาชีพและเข้ากับตัวละครมาก มีความอ่อนหวาน เข้มแข็ง เสียงไม่โดดเกินไปและเข้ากับตัวละครอื่นได้ดีมากด้วย Raya and the last dragon นอกจากจะเป็นเรื่องราวของการผจญภัย แต่ยังให้บทเรียนแง่คิดในเรื่องของการมองโลกในแง่ดี เชื่อใจ ไว้ใจกันและกันจะนำสันติสุขกลับมาสู่โลกอีกครั้ง