รีวิว deepwater horizon หายนะจากความประมาท
IMAX เหมือนเห็นระเบิดอยู่ตรงหน้า
หนังที่สร้างจากเหตุการณ์จริง ถูกถ่ายทอดหลายเรื่องราวแต่ที่จะดึงสายตาจากคนดูคงหนีไม่พ้นหนังแนวหนีตายที่เราแทบจะไม่เชื่อว่าเหตุการณ์เหล่านี้เคยเกิดขึ้นจริงบนโลกและแทบไม่เชื่อด้วยว่าจะมีคนที่อยู่ในเหตุการณ์รอดตายมาเล่าเรื่องราวจากมุมมองของพวกเขาเพื่อถ่ายทอดเป็นหนังให้เราได้สัมผัสถึงอารมณ์ความรู้สึกจริงๆ deepwater horizon เป็นอีกหนังที่ถ่ายทอดความสมจริงได้อย่างเหมือนว่าเราเข้าไปเป็นหนึ่งในเจ้าหน้าที่บนแท่นขุดเจาะน้ำมันนั้นเลย
เรื่องราวที่สร้างจากเหตุการณ์จริงการระเบิดแท่นขุดเจาะน้ำมันยักษ์นามว่า“ดีปวอเทอร์ ฮอไรซัน” ในอ่าวเม็กซิโก โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อปี 2010 เริ่มด้วยการพาไปรู้จักกับไมค์ วิลเลียม หัวหน้าทีมซ่อมวิศวกรประจำสถานีขุดเจาะน้ำมัน รับบทโดย มาร์ค วอห์ลเบิร์ก ตัวละครหลักของเรื่องที่พาเราไปรู้จักหน่วยทีมต่างๆของแท่นขุดเจาะ ตั้งแต่ศูนย์ควบคุม ทีมเจาะ ทีมบริหาร เผยให้เห็นการทำงานภายในและข้อผิดพลาดที่ทำให้แท่นขุดเจาะน้ำมันแห่งนี้ระเบิดและเปลี่ยนทะเลให้กลายเป็นเปลวเพลิงขนาดใหญ่ลุกท่วมภายในเวลาไม่กี่นาที
การเล่าเรื่อง deepwater horizon เน้นพาคนดูปูพื้นฐานให้รู้จักกับภารกิจการขุดเจาะน้ำมันไปในตัว เหมือนให้ความรู้ในสิ่งที่เราไม่เคยรู้มาก่อนเพื่อทำความเข้าใจ พร้อมกับแทรกอารมณ์ของตัวละครนั้นๆว่ามีความสัมพันธ์ยังไงบ้าง ด้วยความที่หนังเน้นความสมจริงมาก จึงได้สร้างแท่นขุดเจาะน้ำมันขนาดใหญ่มาไว้เพื่อทำการถ่ายทำแบบจริงจังและใช้คอมพิวเตอร์ให้น้อยที่สุด จึงเสมือนว่าเราได้เข้าไปดูการทำงานและโครงสร้างของแท่นขุดเจาะน้ำมันขนาดใหญ่แบบใกล้ชิด ถือว่าเป็นอีกหนังที่สร้างสเกลงานสร้างได้ทัดเทียมของจริงมากที่สุดอีกหนึ่งเรื่อง
ในตอนท้ายช่วงท้ายของเรื่องเราจะได้เห็นการพลุ่งระเบิดแบบที่ชวนให้ทำคนดูอึ้งมาก เอฟเฟ็กต์และเปลวไฟที่โหมสมจริงยากที่จะหนีรอดออกมาได้ทำให้เราที่เป็นคนดูลุ้นไปตามว่าตัวละครเหล่านั้นจะทำยังไงให้รอดบนแท่นขุดเจาะน้ำมันกลางทะเลที่ห่างไกลจากผู้คน การแสดงของ มาร์ค วอห์ลเบิร์ก นำเรื่องราวได้อย่างสมอารมณ์จริงจัง เขาทำให้เราเห็นว่า นี่แหละคือคนที่ทำงานขุดเจาะน้ำมันจริงๆ เขาไม่ได้มีพลังความสามารถทีเ่หนือมนุษย์ แต่มีเพียงสมองและสติเท่านั้นที่จะฝ่ามหันตภัยร้ายนี้ไปได้
สำหรับในระบบ IMAX ใน deepwater horizon เราจะได้เห็นภาพที่คมชัดและสเกลของแท่นขุดเจาะขนาดใหญ่มากแบบเต็มตาสุดๆ ในช่วงแรกๆให้ความรู้สึกว่าเราไปทัวร์ที่นั่นด้วยตัวเอง แต่พอช่วงท้ายก็เหมือนว่าเราต้องร่วมหนีตายไปกับตัวละครเหล่านั้นด้วย แต่ละแรงระเบิดทำให้เก้าอี้สั่นสะเทือนตามไปด้วย ภาพไฟขนาดใหญ่ให้ความรู้สึกร้อนผ่าว คนดูอึ้งไปตามๆกัน
deepwater horizon ปิดท้ายเรื่องราวได้อย่างน่าจดจำว่านี่คือเหตุการณ์อุบัติหายนะทางทะเลครั้งร้ายแรงพอๆกับครั้งเรือไททานิคจมและเป็นบทเรียนในการทำงานให้กับใครหลายๆคนไม่ตั้งอยู่ในความประมาท ถือว่าเป็นหนังสร้างจากหนังเรื่องจริงอีกเรื่องที่นอกจากความระทึกและยังให้คุณค่าไว้เตือนตัวเองอีกด้วย