HIGHLIGHT CONTENT

สาวๆ ก็สู้คน! บทหนังกับการจินตนาการใหม่แบบทันสมัยใน Black Christmas

  • 1,430
  • 18 ธ.ค. 2019

 

Advance Ticket

 

การจินตนาการใหม่แบบทันสมัย สาวๆ ก็สู้คน

            คุณอาจจะนับจำนวนภาพยนตร์สยองขวัญจากสตูดิโอที่กำกับโดยผู้หญิงได้ด้วยมือเพียงข้างเดียวหรือสองข้าง แล้วถ้าเป็นภาพยนตร์สยองขวัญคลาสสิกที่ถูกตีความใหม่เกี่ยวกับผู้หญิง ที่กำกับโดยผู้หญิงและเขียนบทโดยผู้หญิงสองคนล่ะ นั่นอาจจะเป็นเรื่องที่คู่ควรกับการถูกเขียนลงหนังสือประวัติศาสตร์ก็เป็นได้ Black Christmas ผสมผสานองค์ประกอบเหล่านั้นจนไม่เพียงแต่มันจะกลายเป็นภาพยนตร์เชือดสยองที่ลุ้นระทึก รุนแรงและน่าสะพรึงกลัวเท่านั้น แต่มันยังเป็นภาพยนตร์ที่มีกลิ่นไอความอันตราย ที่ถูกขับเคลื่อนภายใต้มุมมองของผู้หญิงสมัยใหม่อีกด้วย

 

            ผู้อำนวยการสร้างเบน คอสโกรฟ แฟนของภาพยนตร์คัลท์ยอดนิยมปี 1974 เรื่อง Black Christmas ซึ่งนำแสดงโดยโอลิเวีย ฮัสซีย์และมาร์ก็อท คิดเดอร์ ได้ซื้อสิทธิภาพยนตร์เรื่องนี้และเริ่มกระบวนการพัฒนาในการตีความมันใหม่สำหรับผู้ชมศตวรรษที่ 21 “ระหว่างยุค 70s หนังหลายเรื่องที่มีทัศนคติและการนำเสนอเกี่ยวกับผู้หญิงที่ถอยหลังเข้าคลอง โดยเฉพาะผู้หญิงในรั้วมหาวิทยาลัย” คอสโกรฟกล่าว “Black Christmas เป็นข้อยกเว้น มันนำเสนอประเด็นต่างๆ เช่นการทำแท้งและสิทธิสตรี ซึ่งไม่ใช่ประเด็นที่ถูกพูดถึงในหนังเรื่องอื่นๆ ณ ตอนนั้น ผมคิดอยู่เสมอว่ามันน่าจะมีไอเดียดีๆ ที่จะตีความมันใหม่ในแบบร่วมสมัยได้ ซึ่งก็น่าจะเป็นอะไรที่แหวกแนวในการพูดคุยกันทางวัฒนธรรมและสังคมพวกนี้ หลังจากรู้ว่าสิทธิของหนังเรื่องนี้ยังไม่มีคนจับจองและเราก็คว้ามันมาได้แล้ว ผมก็คิดว่ามันสมเหตุสมผลที่เราจะร่วมมือกับคนที่เป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องหนังแนวนี้น่ะครับ” เขารู้ดีว่าบริษัทโปรดักชันที่เพอร์เฟ็กต์สำหรับงานนี้คือที่ไหน “ไม่มีใครที่เป็นปรมาจารย์ของแนวหนังสยองขวัญยิ่งไปกว่าเจสัน บลัมอีกด้วยแล้วครับ” เขากล่าว

 

            เช่นเดียวกับคอสโกรฟ ตัวบลัมเองก็มองเห็นศักยภาพในการตีความ Black Christmas ใหม่เช่นกัน “ผมคิดว่ามันน่าจะเป็นหนังสยองขวัญเยี่ยมๆ สำหรับเดือนธันวาคม ปี 2019 ครับ” บลัมกล่าว

 

Black Christmas

 

            การค้นหาตัวผู้กำกับไม่ได้ใช้เวลานานเลย เพราะโซเฟีย ทาคัล ตัวเลือกแรกของผู้อำนวยการสร้าง ตอบตกลงอย่างรวดเร็ว “โซเฟีย ทาคัลเป็นคนแรกที่เราทาบทามให้มากำกับหนังเรื่องนี้” บลัมกล่าว “เธอเขียนบทและกำกับเอพิโซดของ Into the Dark สำหรับบลัมเฮาส์ ซึ่งออกมาน่าประทับใจมากๆ ผมก็เลยรู้ว่าเธอจะเหมาะกับหนังเรื่องนี้” หลังจากหาข้อมูลเกี่ยวกับงานของทาคัล คอสโกรฟก็สนับสนุนการตัดสินใจครั้งนี้เต็มที่ “เรารู้สึกว่าเป็นเรื่องสำคัญที่จะให้ผู้หญิงมาเขียนบทและกำกับหนังเรื่องนี้” คอสโกรฟกล่าว “หลังจากที่บลัมเฮาส์เสนอชื่อโซเฟียขึ้นมา ผมก็ไปดูหนังของเธอและคิดว่าเธอเก่งมาก เราก็เลยขอให้เธอมาร่วมงานด้วยครับ”

 

            นอกจากนั้น บลัมยังได้นำอดัม เฮนดริคส์มารับหน้าที่อำนวยการสร้างและเกร็ก กิลรีธและแซ็ค ล็อค หุ้นส่วนของเขาที่ดิไวด์/คอนเคอร์ มารับหน้าที่ผู้ควบคุมงานสร้างด้วย ทั้งสามคนได้พบกับบลัมผ่านทางครีเอทีฟ โปรดิวซิง แล็บในงานเทศกาลภาพยนตร์ซันแดนซ์ “เจสันเป็นครูของเราจากโปรดิวซิง แล็บครับ” เฮนดริคส์กล่าว “เขาเป็นผู้มีพระคุณที่ช่วยเราเริ่มต้นกับหนังหลายๆ เรื่องนับจากนั้น Black Christmas เป็นหนังบลัมเฮาส์และยูนิเวอร์แซลอย่างเป็นทางการเรื่องแรกที่เขาชวนเรามาร่วมงานด้วย” ตอนที่ทุกคนมาอยู่รวมกันในห้องเดียวกัน เฮนดริคส์ก็นึกถึงการได้พบกับทาคัลเมื่อหลายปีก่อนหน้านี้ “ผมเคยพบกับโซเฟียเมื่อหลายปีก่อนระหว่างการเดินทางไปซันแดนซ์” เฮนดริคส์กล่าว “เราไม่รู้จักกันแต่เรามีเพื่อนร่วมกันหลายคน เราก็เลยได้ขับรถไปงานเทศกาลหนังครั้งนั้นด้วยกัน เราเริ่มต้นขับรถกันตอนสามทุ่มและเราก็ขับรถกันทั้งคืน พอเราได้นั่งอยู่ในห้องด้วยกันก่อนที่เราจะเริ่มต้นถ่ายทำหนังเรื่องนี้ เราก็นึกถึงการเดินทางครั้งนั้นและเริ่มรำลึกถึงความหลังทันทีเลยครับ”

 

            ทาคัล ผู้มีผลงานเรื่องแรกคือ Green ในปี 2011 และได้กำกับ Always Shine ในปี 2016 รู้สึกตื่นเต้นที่ได้ร่วมงานในโปรเจ็กต์ที่เธอสามารถสร้างมุมมองใหม่ๆ ให้กับภาพยนตร์เชือดสยองคลาสสิกได้ “ฉันเป็นแฟนของ Black Christmas ต้นฉบับค่ะ” ทาคัลกล่าว “มันล้ำสมัยในแง่ของการนำเสนอประเด็นเกี่ยวกับสิทธิสตรี ฉันอยากจะสร้างหนังที่ให้ความรู้สึกร่วมสมัยคล้ายๆ กันในเรื่องมุมมองเกี่ยวกับประเด็นของผู้หญิงในปัจจุบัน หนังเชือดสยองหลายเรื่องเขียนบทและกำกับโดยผู้ชาย ฉันคิดว่าคุณจะสามารถรู้สึกได้ถึงความแตกต่างในหนังเรื่องนี้และความจริงที่ว่ามันกำกับโดยผู้หญิงในแง่ที่ว่า เรื่องราวนี้คืออะไร มันถูกบอกเล่าอย่างไรและตัวละครผู้หญิงมีความเฉพาะเจาะจงขนาดไหนน่ะค่ะ”

 

Black Christmas

 

            หลังจากตกลงร่วมงานนี้แล้ว ทาคัลก็เรียกเอพริล วูลฟ์ ผู้ที่เธอได้พบเมื่อหลายเดือนก่อนหน้านี้ ให้มาช่วยเธอพัฒนาบทภาพยนตร์เรื่องนี้ “ฉันทาบทามเอพริลให้มาช่วยฉันเขียนบทเพราะเธอชื่นชอบหนังสยองขวัญและฉันคิดว่าเธอน่าจะช่วยทำให้หนังเรื่องนี้แตกต่างจากหนังเชือดสยองทั่วๆ ไปได้น่ะค่ะ” ทาคัลกล่าว “ฉันรู้ว่าเอพริลจะสามารถช่วยฉันรับมือกับโลกสยองขวัญได้เพราะเธอดื่มด่ำกับโลกใบนั้นมากกว่าฉัน” วูลฟ์กล่าวว่าพวกเธอต่างกันต่างนำจุดแข็งของตัวเองมาใช้กับเรื่องราวนี้ “สไตล์การเขียนของฉันโฟกัสไปที่เรื่องสยองขวัญมากๆ ในขณะที่งานเขียนของโซเฟียจะให้ความรู้สึกเหมือนทริลเลอร์จิตวิทยามากกว่า” วูลฟ์กล่าว “สองสไตล์นี้ผสมผสานเข้าด้วยกันในแบบที่น่าสนใจจริงๆ เรื่องราวนี้ถูกปรับเปลี่ยนไปหลายเวอร์ชันก่อนที่เราจะได้ส่วนผสมระหว่างสองสไตล์ที่เพอร์เฟ็กต์น่ะค่ะ”

 

            อีกสิ่งที่พวกเธอเห็นพ้องต้องกันคือเรื่องธีมที่พวกเธออยากจะนำเสนอในภาพยนตร์เรื่องนี้ได้แก่ความเป็นพี่น้อง การให้อำนาจผู้หญิงและไอเดียของการที่ผู้หญิงจะรวมตัวกันเพื่อค้นพบพลัง เสียงและความเข้มแข็งในตัวกันและกัน “ฉันอยากจะสร้างหนังที่ให้ความรู้สึกแบบปัจจุบัน” ทาคัลกล่าว “สำหรับฉัน นั่นหมายถึงการสร้างหนังที่ผู้หญิงจะทำงานร่วมกันและใช้จุดแข็งของตัวเองในการสร้างความแตกต่างแทนที่จะแข่งขันกันเอง ผู้หญิงในหนังเรื่องนี้ตระหนักได้ว่าพวกเธอจะแกร่งขึ้นถ้าร่วมมือกัน และฉันก็คิดว่านั่นทำให้หนังเรื่องนี้แตกต่างจากหนังเชือดสยองหลายเรื่องในอดีตนะคะ”

 

            วูลฟ์กล่าวเห็นพ้องด้วย “ด้วยความที่เราเป็นผู้หญิงที่ใช้ชีวิตอยู่ในโลกใบนี้ระหว่างช่วงเวลาที่ยากลำบาก ฉันกับโซเฟียก็อยากให้ผู้หญิงในเรื่องสะท้อนถึงประสบการณ์ของเราเอง” วูลฟ์กล่าว “เราอยากจะสำรวจธีมเกี่ยวกับประสบการณ์ในมหาวิทยาลัย เราอยากจะสำรวจธีมของการยอมรับและแบบแผนที่ยิ่งใหญ่กว่าของความเกลียดชังผู้หญิงและการกระทำรุนแรงต่อผู้หญิง ความหวังของเราคือการนำเสนอว่าการเป็นผู้หญิงในปัจจุบันนี้เป็นอย่างไร ทั้งแบบตรงตัวและแบบเปรียบเปรยน่ะค่ะ”

 

Black Christmas

 

            ภาพยนตร์เรื่องนี้เล่าเรื่องของไรลีย์และเพื่อนๆ ของเธอ ซึ่งเป็นสมาชิกของสโมสรเอ็มเคอีที่ฮอว์ธอร์น คอลเลจ ผู้ตัดสินใจจะอยู่ที่มหาวิทยาลัยระหว่างปิดภาคเรียนช่วงฤดูหนาว ผู้ที่ตระหนักได้อย่างรวดเร็วว่ามีฆาตกรกำลังอาละวาดและพวกเธอจะต้องร่วมมือกันเพื่อต่อสู้เอาชีวิตรอดให้ได้ ตลอดการพัฒนาเรื่องราวนี้ สิ่งสำคัญสำหรับทีมผู้สร้างคือพวกสาวๆ จะต้องถูกนำเสนอในรูปแบบที่เฉพาะเจาะจงมากๆ “หนังมักจะนำเสนอพวกผู้หญิงในสโมสรผู้หญิงว่าร้ายกาจ แต่หนังเรื่องนี้ไม่ได้เป็นแบบนั้น” ทาคัลกล่าว “ผู้หญิงทุกคนในสโมสรนี้เป็นกำลังให้กันและกัน พวกเธอเป็นคนฉลาด ยุ่งอยู่กับการทำกิจกรรม รักสนุกและเป็นตัวแทนของผู้หญิงประเภทต่างๆ แทนที่จะถูกนำเสนอในรูปแบบของภาพล้อเลียนหรือผู้หญิงตามแบบฉบับ ฉันอยากให้เอ็มเคอีให้ความรู้สึกเหมือนมันเต็มไปด้วยผู้หญิงจริงๆ ค่ะ”

 

            ในความเป็นจริงแล้ว นั่นคือจุดประสงค์ดั้งเดิมของสโมสรสตรี “ฉันคิดว่าหลายครั้ง คนลืมไปว่าในตอนที่สโมสรสตรีเริ่มต้นขึ้น มันเป็นสถานที่ที่มีไว้คุ้มครอง” วูลฟ์กล่าว “สมัยนั้น สโมสรสตรีเป็นสถานที่สำหรับความเปลี่ยนแปลงทางสังคมและผู้หญิงผู้ทำให้แน่ใจว่าเสียงของเธอจะถูกรับฟัง ฉันกับโซเฟียคุยกันอยู่นานเกี่ยวกับความจริงที่ว่าเราอยากให้เอ็มเคอีเป็นสถานที่ของความก้าวหน้าทางสังคมน่ะค่ะ”

 

            อีกหนึ่งองค์ประกอบสำคัญที่ทีมผู้สร้างอยากจะนำเสนอคือการที่ผู้หญิงพวกนี้จะไม่เป็นเหยื่อที่ถูกกระทำ เหมือนที่มักปรากฏในภาพยนตร์สยองขวัญ “Black Christmas เป็นเรื่องเกี่ยวกับการเป็นหญิงสาวในสภาพสังคมและการเมืองเกี่ยวกับเรื่องเพศในปี 2019” ทาคัลกล่าว “มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับการที่สาวๆ พวกนี้จะตอบโต้กลับพวกผู้มีอำนาจเพศชายที่พยายามกดขี่พวกเธอเหลือเกิน” คอสโกรฟกล่าวเสริมว่า “หนังเชือดสยองจำนวนมากปฏิบัติต่อตัวละครหญิงเหมือนเป็นวัตถุที่คงอยู่เพื่อถูกฆ่าน่ะครับ” คอสโกรฟกล่าว “เราอยากจะพลิกแนวคิดนั้น แทนที่จะปล่อยให้ตัวเองถูกฆ่าทีละคนๆ ผู้หญิงพวกนี้รวมกลุ่มกันและรวมทรัพยากรของพวกเธอเข้าด้วยกันเพื่อที่พวกเธอจะสามารถต่อสู้ร่วมกันได้ครับ”

 

Black Christmas

 

            ในทางกลับกัน มันก็มีรูปแบบที่เฉพาะเจาะจงคล้ายๆ กันที่ทาคัลอยากจะนำเสนอ เดลต้า คัปปา โอเมก้า สโมสรผู้ชายในเรื่อง เธออยากจะเน้นถึงแนวคิดผู้ชายเป็นใหญ่ที่น่ารังเกียจ แม้แต่ตอนที่คุณคิดว่าคุณกำจัดมันทิ้งไปแล้ว แต่คลื่นอีกลูกของมันก็สามารถซัดสาดคุณอีกครั้งได้ “ดีเคโอเป็นตัวแทนของแนวคิดผู้ชายเป็นใหญ่แบบเก่าและไอเดียคร่ำครึที่ว่าผู้ชายควรจะเป็นยังไงและผู้หญิงควรจะเป็นยังไง” ทาคัลกล่าว “พวกผู้ชายในสโมสรนั้นเป็นพวกเด็กหนุ่มร่ำรวย หัวโบราณ ที่โตมากับความคิดที่ว่าโลกเป็นของพวกเขา พวกเขาไม่เคยสัมผัสถึงผลลัพธ์ของการกระทำของพวกเขาเลย และพวกเขาก็จะยิ่งมีอำนาจมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าพวกเขาจะเคยทำตัวแบบไหนมาก่อนในอดีตก็ตาม”

 

            นั่นเป็นเรื่องจริงอย่างยิ่งในฮอว์ธอร์น “ฮอว์ธอร์น คอลเลจถูกก่อตั้งให้เป็นโรงเรียนชายล้วนครับ” คอสโกรฟกล่าว “มันมักยึดติดกับความเชื่อว่าผู้หญิงมีตำแหน่งแห่งที่ที่ชัดเจนและจำกัดมากๆ ในความสัมพันธ์ ในโรงเรียนและในสถานที่ทำงาน สโมสรเดลต้า คัปปา โอเมก้าในหนังของเรายังคงยึดติดกับความเชื่อพวกนั้นอย่างเหนียวแน่น โดยที่ไม่พัฒนาไปตามกาลเวลาเลย พวกเขาหงุดหงิดกับการที่ผู้หญิงพวกนี้เรียกร้องให้มีการรับฟังเสียงของพวกเธอน่ะครับ”

 

            เหนือสิ่งอื่นใด ทาคัลมุ่งมั่นกับการสร้างภาพยนตร์ที่จะสร้างความกลัวที่แท้จริงไปพร้อมกับการเอ่ยถึงประเด็นต่างๆ ตามความจริงด้วย “หนังเรื่องนี้ไม่เพียงแต่จะทำให้ผู้ชมกลัวเท่านั้น แต่ยังจะทิ้งบางอย่างให้พวกเขาได้ครุ่นคิดในตอนที่พวกเขาเดินออกจากโรงหนังด้วย” ทาคัลกล่าว “ในยุคปัจจุบัน ดูเหมือนกับว่าโลกนี้จะเปิดกว้างต่อการได้ฟังเรื่องราวโดยผู้หญิง ฉันก็เลยตื่นเต้นที่ได้ยืนอยู่แถวหน้าของเรื่องนั้นค่ะ”

 

Black Christmas

 

พบกับเรื่องสยองขวัญสุดคลาสสิคที่เกิดขึ้นในช่วงวันหยุดคริสต์มาส เมื่อมีนักฆ่าปรากฏตัวขึ้นในมหาวิทยาลัย แม้ว่าช่วงวันหยุด มหาวิทยาลัยฮอว์ธอร์นจะมีความเงียบสงบ แต่กลุ่มเพื่อนสาวชาวหอมูคัปป้าเอปซิลอนซึ่งประกอบด้วย ไรลีย์ สโตน (อิโมเจน พุทส์ จาก Green Room) มาร์ตี้ สาวนักกีฬา (ลิลี่ โดโนฮิว จาก Jane the Virgin) คริส สาวหัวรั้น (อเลส แซนนอน จาก Charmed) เจสซี่ สาวนักกิน (บริททานีย์ โอเกรดี้ จาก Star) ก็ยังคงอยู่ตกแต่งหอพักเตรียมรับปาร์ตี้ในช่วงคริสต์มาส ในช่วงเวลานั้น ก็มีคนโรคจิตที่ชอบแอบสะกดรอยตามเริ่มไล่ฆ่านักศึกษาสาวในสโมสรนักศึกษาทีละคน เมื่อเริ่มมีคนเสียชีวิตมากขึ้น ไรลีย์และเพื่อน ๆ เริ่มสงสัยผู้ชายใกล้ตัว ไม่ว่าจะเป็น เนท แฟนหนุ่มของมาร์ตี้ (ไซม่อน มีด จาก Same But Different: A True New Zealand Love Story) แลนดอน หนุ่มที่มาชอบไรลีย์ (คาเล็บ อีเบอร์ฮาร์ดส์ จาก Mozart in the Jungle) หรือ ศาสตราจารย์ เกลสัน (แครี เอลเวส) ไม่ว่าใครจะเป็นคนฆ่า เขาควรจะรู้ว่าสาว ๆ กลุ่มนี้จะไม่ตกเป็นเหยื่อของเขาอย่างแน่นอน

 

Black Christmas คริสต์มาสเชือดสยอง เข้าฉาย 19 ธันวาคม ในโรงภาพยนตร์

Black Christmas