A Wrinkle in Time นิทานฟิสิกส์ของดิสนีย์ เอาชนะความกลัวด้วยตัวตน!!

A Wrinkle in Time นิทานฟิสิกส์ของดิสนีย์
เอาชนะความกลัวด้วยตัวตน!!

 

 

โลกภาพยนตร์ของดิสนีย์...คือเพื่อนและความไว้ใจของครอบครัว มักจะสอดแทรกเรื่องราวของความกล้าหาญ ความรัก ความอบอุ่น รวมถึงความดีงามของชีวิตไว้เสมอ นั่นทำให้หนังของดิสนีย์ไม่มีพิษภัยและเข้าถึงทุกคนในครอบครัวได้เป็นอย่างดี สำหรับผลงานล่าสุด A Wrinkle in Time  ย่นเวลาทะลุมิติ สร้างจากหนังสือชื่อเดียวกัน เป็นอีกหนึ่งผลงานหนังที่ดิสนีย์นำเสนอความเป็นวิทยาศาสตร์ ฟิสิกส์และกฎจักรวาล ผนวกเข้ากับความดีงาม ความชั่วร้ายและความหวาดกลัว ผสมออกมาเป็นนิทานสอนใจให้กับเด็กและผู้ใหญ่

 

 

A Wrinkle in Time  เป็นเรื่องราวของเม็ก เด็กหญิงที่ต้องปิดกั้นตัวเองจากความฉลาดและความเป็นเด็กดี เธอกลายเป็นเด็กเกเร หลังจากที่พ่อผู้เป็นนักวิทยาศาสตร์หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย แต่เม็กยังมีความหวังว่าที่ใดที่หนึ่งในจักรวาลนี้ พ่อของเขาจะยังมีชีวิตอยู่  เหตุการณ์ประหลาดเริ่มต้นขึ้นเมื่อ ชาร์ล วอลเลซ น้องชายสุดอัจฉริยะของเม็ก ได้พาเธอให้รู้จักกับคุณนายทั้ง 3 ผู้นำพาพวกเธอไขความลับของเวลา ข้ามมิติไปสู่ดาวอื่นในจักรวาลเพื่อตามหาพ่อ การผจญภัยจึงเริ่มต้นขึ้น

 

 

A Wrinkle in Time มีความอิงกับหลักทฤษฎีของฟิสิกส์และกฎจักรวาล ว่าด้วยการเดินทางข้ามเวลา ทำให้ผู้ที่สนใจในเรื่องนี้หรือชอบหนังแนววิทยาศาสตร์อาจจะชื่นชอบแนวคิดในหนังซึ่งให้ความรู้สึกเหมือนตอนที่เราได้สัมผัสกับ tomorrowland หนังดิสนีย์ไซไฟที่ออกฉายในปี 2015 แต่สำหรับเรื่องนี้มีความเด็ก แฟนตาซี และดูง่ายกว่า แม้จะมีความเป็นวิทยาศาสตร์ แต่อารมณ์ของหนังไม่ได้ยากเลยสักนิด กลับพาเราเหมือนเดินท่องไปในมิวเซี่ยมที่ตื่นตาตื่นใจ

A Wrinkle in Time เป็นหนังที่เหมาะสำหรับทุกคนในครอบครัว นอกจากเนื้อเรื่องที่เราเก็บเอาไว้สอนลูกสอนหลานได้แล้ว ยังมีภาพความเป็นแฟนตาซี เวทมนตร์เหนือจินตนาการรับรองได้ว่า เรื่องราวแบบนี้ใครๆก็ต้องชอบแน่ๆ ในหลายฉากของเรื่องยังแทรกเพลงประกอบเข้าไปอีก เรียกได้ว่า ภาพสวย เพลงเพราะตลอดทั้งเรื่อง

 

 

ผ่านการแสดงของ สตอร์ม รีด  นักแสดงเด็กที่มารับบทเม็ก ประกบคู่กับหนุ่มน้อยนัยตาสีฟ้าที่ทำให้สาวทั้งโลกหลงรัก เลวี่ มิลเลอร์ ที่เขาปรากฎบนจอฉากไหนคนดูก็พร้อมละลายไปกับออร่าความหล่อ ความน่ารักของ เดริค แมคเคบ ที่จะทำให้เราได้เห็นความเป็นเด็กแต่มันสมองเป็นผู้ใหญ่ ร่วมด้วยการแสดงของ 3 ตัวแม่ โอปราห์ วินฟรีย์ นักแสดงผู้ถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ 2 ครั้ง ในบท คุณนายวิช, รีส วิเธอร์สปูน นักแสดงรางวัลออสการ์ ในบท คุณนายวอทซิท, มินดี้ คาร์ลิ่ง นักแสดงผู้ถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลเอ็มมี่ ในบท คุณนายฮู เทพธิดาผู้มาเนรมิตความมหัศจรรย์ของจักรวาลและห้วงเวลา

 

 

 A Wrinkle in Time ยังสอดแทรกคำสอนใจไว้ตลอดทั้งเรื่อง ให้เราได้ขบคิด สิ่งหนึ่งที่เป็นแกนหลักคือแสงสว่างและความมืด ซึ่งเป็นตัวแทนของความดีและความชั่ว เมื่อใดที่จิตใจของเรามีแสงสว่าง เราก็จะเป็นสุข แต่ถ้าหากปล่อยให้ความมืดที่เป็นความชั่วเกาะกินในใจมันจะยิ่งลุกลามไปเรื่อยๆ

 

 

ความมืดมิดนี้ไม่ได้หมายถึงเพียงความชั่วอย่างเดียวแต่ยังรวมถึงอารมณ์ด้านลบ ความหวาดกลัว ความโกรธ ความเกลียด การตัดสินคนอื่น การทำร้ายผู้อื่นด้วยกำลังและวาจาด้วย สิ่งเหล่านี้ยิ่งมีบนโลกมากเท่าไหร่ก็ยิ่งทำให้ความมืดมิดมีพลังมากขึ้นเท่านั้น   A Wrinkle in Time ยังจับเอาประเด็น Coming of Age มาใส่ในเรื่องให้เด็กๆได้เรียนรู้แบบง่ายๆ การไม่ปิดกั้นตัวเอง เชื่อมั่นในสิ่งที่ตัวเองเป็น ค้นหาข้อเสียของตัวเองแล้วนำมาใช้ให้เป็นประโยชน์ การไม่จมอยู่กับอดีต อยู่กับปัจจุบัน เรียนรู้ที่จะเข้าใจผู้อื่นเสมอ ที่สำคัญคือ จงอย่ากลัวและกล้าหาญ นั่นคือสิ่งที่หนังของดิสนีย์พร่ำบอกเรามาเสมอ