The Marksman หนังโร้ดสุดเดือด
กับเบื้องหลังการถ่ายทำแบบอเมริกันขนานแท้!
ในช่วงก่อนการถ่ายทำ โรเบิร์ตได้กลับมาร่วมงานกับช่างฝีมือหลายคนที่เขาเคยร่วมงานด้วยในภาพยนตร์ที่กำกับโดยคลิ้นท์ อีสต์วูด เลียมชักนำ Mark Vanselow ผู้ประสานงานการแสดงผาดโผนผู้คร่ำหวอดมายาวนานมาร่วมออกแบบท่วงท่าลำดับแอ็คชั่น และโรเบิร์ตตั้งใจที่จะจับภาพมุมมองที่ยิ่งใหญ่ของภูมิทัศน์ในอเมริกา นักกำกับภาพ Mark Patten ชาวอังกฤษ ซึ่งฝีมือการถ่ายทำภาพที่มีสไตล์ของเขาช่วยเสริมส่งซีรีส์ Taboo ของ Tom Hardyและภาพยนตร์เรื่อง The Martian ของ Ridley Scott มาร์คกล่าวว่า "โรเบิร์ตได้นำเอาวัฒนธรรมหลากหลายระดับมาใช้ ดังนั้นเราจึงต้องการให้ภาพยนตร์ได้จับภาพความหลากหลายของประเทศนี้"
ในเดือนกันยายน 2019 การถ่ายทำหลักของ The Marksman เริ่มขึ้นในและบริเวณรอบๆเมือง Albuquerque รัฐนิวเม็กซิโก และต่อมาผู้สร้างภาพยนตร์ได้กลับมาตั้งหลักที่คลีฟแลนด์รัฐโอไฮโอให้เป็นฉากของจุดหมายปลายทางที่สามในเนื้อเรื่องคือเมืองชิคาโกรัฐอิลลินอยส์ โรเบิร์ตกล่าวว่า "นี่เป็นภาพยนตร์แนวออกพื้นที่หลายสถานที่ที่ผู้ชมย้ายจากภูมิประเทศที่รกร้างว่างเปล่าแบบตะวันตกเฉียงใต้ไปสู่ดินแดนเขียวชอุ่มของอเมริกา เราอยากให้ผู้ชมรู้สึกจริงๆว่าตัวละครเหล่านี้กำลังอยู่บนการเดินทางในแบบอเมริกัน"
ผู้ผลิตต้องการให้เริ่มถ่ายทำในโอไฮโอ แต่โรเบิร์ตยืนยันที่จะถ่ายทำตามลำดับเวลาคร่าวๆ “ผมมีนักแสดงเด็กน้อยคนนี้ที่ไม่มีประสบการณ์มากนัก ดังนั้นคงเป็นการยากกว่ามากสำหรับผมที่จะให้เจค็อบแสดงอารมณ์ในตอนท้ายเรื่องตั้งแต่เริ่มต้นการถ่ายทำโดยที่เขายังไม่มีโอกาสได้สัมผัสกับเรื่องราวที่ดำเนินไปตามท้องเรื่องมาก่อน" โรเบิร์ตอธิบาย "ดังนั้นเราจึงเลือกที่จะถ่ายทำตามลำดับเวลาให้มากที่สุด"
ในระหว่างการถ่ายทำ 29 วัน โรเบิร์ตค้นพบว่าแนวทางการกำกับที่รวดเร็วของเขาช่วยให้แรงบันดาลใจต่อการแสดงอย่างชีวิตชีวาของเจค็อป นักแสดงหน้าใหม่ “ผมพบว่าเมื่อคุณเคลื่อนที่ไปอย่างรวดเร็ว ทีมนักแสดงและทีมงานจะรู้สึกมีพลังและมีชีวิตชีวา "ถ้าคุณจมลง[โดยการถ่ายทำหลายครั้งเกินไป] ฉากต่างๆจะน่าเบื่อหน่ายและโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับเด็กเล็กอย่างเจคอบ ผมอยากจับภาพการแสดงให้เร็วที่สุดและเลียมก็ชอบทำงานแบบนั้นเช่นกัน พยายามถ่ายให้ได้ภายในเทคแรกหรือเทคที่สอง และไปต่อฉากต่อไป"
ในระหว่างฉากแอ็คชั่นใหญ่ๆใน The Marksman ก็มีฉากการพูดคุยขณะขับรถหลายฉากที่แสดงให้เห็นความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกันขึ้นระหว่างของจิมและมิเกล โรเบิร์ตถ่ายทำฉากพูดคุยโต้ตอบเหล่านั้นภายในรถกระบะจริงขณะที่มันถูกลากจูงข้ามภูมิประเทศทะเลทราย ผลลัพธ์ข้างเคียงอย่างหนึ่งคือ เลียมและเจคอบใช้เวลาส่วนใหญ่ในการพัฒนาสายสัมพันธ์กันนอกกล้อง
โรเบิร์ตเล่าว่า "ในขณะที่เราจัดตั้งกล้องและอุปกรณ์ที่อยู่รอบตัวพวกเขาเลียมและเจค็อบจะนั่งอยู่ในรถและพูดคุยกัน และนั่นคือจุดที่ทำให้พวกเขาได้รู้จักกันจริงๆ ผมแอบฟังในบางครั้งและครั้งหนึ่ง เลียมพูดถึงภาพยนตร์ทั้งหมดที่เขาเคยแสดงมาและเจค็อบก็ไม่เคยได้ยินหนังพวกนั้นแม้แต่เรื่องเดียว แต่แล้วเลียมก็พูดถึงสตาร์วอร์สและหน้าของเจค็อบก็สว่างวาบขึ้นมาก่อนจะถามว่า: 'คุณแสดงในสตาร์วอร์สเหรอ'?!"
ในขณะที่การถ่ายทำดำเนินไป เจค็อบก็ให้ความนับถือเลียมอย่างอบอุ่น “มันเยี่ยมมากที่ได้อยู่กับดาราใหญ่คนนี้” เจค็อบกล่าว “เลียมนีสันเป็นเหมือนคุณปู่ของผม” ความสัมพันธ์นอกจอนั้นแปรเป็นการแลกเปลี่ยนบทที่ไม่มีในสคริปต์จำนวนหนึ่ง โรเบิร์ตเล่าว่า "หนึ่งในช่วงเวลาที่ผมชอบที่สุดของภาพยนตร์เรื่องนี้เกิดขึ้นบนรถกระบะที่จิมและมิเกลฟาดฟันกันครั้งแรก นั่นเป็นการแสดงสดโดยสิ้นเชิงและมันก็ดูเป็นธรรมชาติมาก"