HIGHLIGHT CONTENT

รวมรีวิวโจ๊กเกอร์ ไม่ได้อ้างอิงคอมิกของDC อีกหนังขุดลึกถึงจิตใจตัวตลกที่น่าสงสาร

  • 6,136
  • 02 ก.ย. 2019

 

 

รวมความเห็นนักวิจารณ์ Joker

ดำมืด สะท้อนสังคม และวาคีนคู่ควรแก่ออสการ์

 

                Joker ถือเป็นหนึ่งในโปรเจ็คต์ภาพยนตร์ปลายปีที่ใครหลายคนรอคอย กับครั้งแรกในการหยิบเรื่องราวของเจ้าชายอาชญากรรม วายร้ายคู่ปรับตลอดกาลของแบทแมนมาเล่าเรื่องราวเบื้องลึกถึงต้นกำเนิดของเขา โดยในภาพยนตร์เรื่องนี้ได้ ทอดด์ ฟิลลิปส์ มารับหน้าที่กำกับภาพยนตร์ และได้วาคีน ฟีนิกซ์มาแสดงเป็น อาเธอร์ เฟล็ก หรือ โจ๊กเกอร์

                อย่างหนึ่งที่ควรรู้ก่อนเลยก็คือ ภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่ได้อิงเนื้อเรื่องตามคอมิกใด ๆ ทั้งสิ้นของ DC เพียงแค่หยิบเอาวัตถุดิบมาปรุงใหม่เท่านั้น ซึ่งล่าสุดภาพยนตร์เรื่องนี้ได้ก็ฉายในงาน Venice Film Festival เปิดโอกาสให้ผู้ชมกลุ่มแรกที่เป็นเหล่านักวิจารณ์ได้เข้าชม และข้างล่างนี้คือความคิดเห็นของพวกเขา อ่านได้ไม่มีสปอยล์

 

 

David Rooney จาก The Hollywood Reporter

                นี่คือหนังของวาคีน ฟีนิกซ์ พฤติกรรมของเขาในเรื่องเต็มไปด้วยความวิกลจริต สลับกับความน่าสงสาร แล้วเปลี่ยนเป็นความน่ากลัวที่ทำเอาเราหัวเราะไม่ออก นี่ไม่ใช่การดิสเครดิตจินตนาการของคนเขียนบท, ผู้กำกับ หรือทีมงานคนอื่น ๆ นะครับ แต่วาคีน ฟีนิกซ์คือส่วนสำคัญที่ทำให้ Joker เป็นกลายเป็นหนังที่ชวนให้ดูแล้วกระสับกระส่ายที่สุดเรื่องหนึ่งในบรรดาภาพยนตร์จากคอมิกส์ในฮอลลีวู้ด

 

Owen Gleiberman จาก Variety

วาคีน ฟีนิกซ์ แสดงออกมาได้อย่างน่าอัศจรรย์ เปลี่ยนจากคนทั่วไปที่มีปัญหาทางจิต กลายเป็นตัวตลกนักฆ่าได้ในลักษณะคล้าย Taxi Driver รูปแบบใหม่ในสไตล์ของทอดด์ ฟิลลิปส์ นี่คือหนังจากคอมิกส์ที่สามารถขึ้นหิ้งได้เลย และมันเผยแพร่สิ่งที่เกิดขึ้นจริง ๆ บนโลกทุกวันนี้

 

Stephanie Zacharek จาก TIME

                หนังเรื่องนี้มันกระเทาะทุกอย่างออกมาอย่างแรงเลย มันถูกเติมเต็มเข้ามาด้วยปรัชญาอันแสนจอมปลอม Joker ดำมืดในทางที่เหมือนกับวัยรุ่นที่โง่เขลา แต่หนังเรื่องนี้พยายามให้เรามองภาพไปถึงเรื่องการเมือง และภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม ...สิ่งที่อาเธอร์ทำคือ ความโกลาหลและความเป็นอนาธิปไตย แต่หนังเรื่องนี้ทำให้เห็นเหมือนกับว่าเขากำลังจะเริ่มการปฏิวัติ การปฎิวัติที่คนรวยถูกโค่นล้ม คนจนจะได้ทุกสิ่งทุกอย่างที่พวกเขาต้องการ แล้วมีชายผู้เศร้าสร้อยคนหนึ่งที่ไม่สามารถไปออกเดทได้กลายเป็นฮีโร่นักฆ่า นี่มันเป็นตลกป่วย ๆ ที่มีอยู่สักที่บนโลกใบนี้ น่าโชคร้ายที่มันก็เกิดขึ้นกับเราด้วย

 

 

Alonso Duralde จาก The Wrap

                การเมืองใน Joker นั้นมันค่อนข้างน่าคุ้นเคย ทุกเฉดของเรื่องราวในไอเดียของพวกเขานำไปสู่บทสนทนาที่จะอธิบายว่าจริง ๆ แล้ว Joker คืออะไรกันแน่? ซึ่งจริง ๆ แล้วมันก็ไม่ได้มีอะไรมากมายเลย หนังเรื่องนี้จะกระตุ้นให้บางคนสามารถบอกได้ว่านี่เป็นหนังอาร์ตเรื่องแรกที่มีเนื้อเรื่องจาก DC แสดงให้เห็นถึงความพยายามเล่าเรื่องในมุมใหม่ ๆ ซึ่งนั่นก็เป็นความเสี่ยงด้วย Joker คือหนังที่แดกดันบรรดาลัทธิคอมิกส์อย่างร้ายกาจได้ระดับสูงสุด ควบรวมเอาทุกสิ่งทุกอย่างเอาไว้ด้วยกันแต่ก็ทิ้งความกลวงให้เห็นว่ามันสามารถดีได้กว่านี้ เป็นหนังที่ชาญฉลาดได้กว่านี้

 

 Jessica Kiang จาก The Playlist

                ท่ามกลางความรุนแรง ความโกลาหลและเสียงหัวเราะที่มาจากจิตใจอันดำมืดที่สุดของ Joker มันมีกลิ่นอายของความพิลึกพิลั่น เปรียบเหมือนจีนี่ผมเขียวถูกปล่อยออกมาจากตะเกียง และไม่ว่ามันจะสร้างหายนะเอาไว้หรือไม่ พวกเราก็ไม่มีสิทธิที่จะทำให้มันกลับลงไปได้

                ในช่วงให้สัมภาษณ์กับสื่อหลังจากฉายรอบพิเศษที่ Venice ทอดด์ ฟิลลิปส์ได้บอกว่าหนังเรื่องนี้จะเป็นเหมือนกระจกสะท้อนสังคม พวกเขาไม่ได้จะสร้างแม่แบบขึ้นมา แต่เราก็ไม่อาจปฏิเสธพลังที่เกิดขึ้นจากภาพยนตร์ได้ ตอนนี้พวกเราก็ได้แต่หวังว่าเขาจะคิดถูก เพราะในโลกที่แสนจะไม่สนุกสนานนี้ พวกเราก็ติดอยู่ในโลกที่มีภาพสะท้อนของ Joker ด้วยเช่นกัน ฉันไม่แน่ใจเลยว่าเราจะสามารถเอาตัวรอดกันได้ในโลกแบบนั้น

 

David Ehrlich จาก IndieWire

                Joker ของ ทอดด์ ฟิลลิปส์คือผลงานอันกล้าหาญที่สุดอย่างไร้ข้อกังขาของบรรดาหนังซูเปอร์ฮีโร่ในโรงภาพยนตร์ตั้งแต่ The Dark Knight เรื่องราวดั้งเดิมที่เชื่อได้เลยว่ามันจะกลายเป็นที่จดจำ ในฐานะหนังของยุคศตวรรษที่ 21 นอกจากนี้มันยังเป็นเหมือนการระดมผลของความคิดด้านลบที่มีต่อตัวเอง และยังคล้ายคลึงกับเรื่องราวต้นกำเนิดใน Taxi Driver และ The King of Comedy ที่ มาร์ติน สกอร์เซซี่ ควรจะได้รับเครดิตในฐานะ Executive Producer

 

 

Terri White จาก Empire

                นี่มันเป็นเรื่องเหมือนกับปัญหาสภาพอากาศในทุกวันนี้เลย ที่ถูกมองเป็นเหมือนเรื่องของคนอื่นและเพิกเฉยเสีย Joker ไม่ได้ทำอะไรเลยนอกจากมอบคำตอบที่ง่ายที่สุด และธรรมดาสามัญที่สุดให้กับทุกคน มันโศกเศร้า และโกลาหล หนังจะค่อย ๆ พาคุณไปเรียนรู้ถึงเรื่องราวของคนที่แทบจะไม่มีตัวตน

                คนที่แทบจะไม่เคยถูกมองเห็น จนคุณรู้สึกสงสาร ในท้ายที่สุดแล้วคุณก็ยังจะสงสารอยู่แม้ว่า อาเธอร์ จะก้าวข้ามเส้นแบ่งบางอย่างไปแล้ว  

 

Jim Vejvoda จาก IGN

                หนังเรื่องนี้ได้นำเสนอการแสดงที่น่าตื่นเต้น เต็มไปด้วยความเข้าใจในบทบาท และวาคีน ฟินิกซ์คู่ควรแก่รางวัลออสการ์ โจ๊กเกอร์ประสบความสำเร็จได้โดยที่ไม่ต้องใช้ตัวช่วยอื่นใดจากคอมิกส์ของ DC นี่จะกลายเป็นสิ่งยอดเยี่ยมที่จะเกิดขึ้นในจักรวาลของแบทแมน เป็นเหมือนกับน้ำตาลไอซิ่งบนเค้กให้กับเหล่าบรรดาแฟน ๆ หลังจากดูโจ๊กเกอร์จบคุณอาจจะรู้สึกเหมือนผม คือ ติดค้างและพร้อมจะถกเถียงเกี่ยวกับหนังเรื่องนี้ไปอีกหลายปี

 

Dorian Parks จาก Geeks of Color

                ผมเชื่อว่านี่คือหนึ่งในโปรเจ็คต์ที่ทะเยอทะยานที่สุดของ Warner Bros. มันไปไกลยิ่งกว่าคอมิกส์ที่เป็นพื้นฐานของภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วยซ้ำ ผมเชื่อว่า Joker จะกลายเป็นตัวพลิกเกมของบรรดาหนังจากคอมิกส์ได้เลย ยกตัวอย่างเช่นการเปลี่ยนแปลงแบบที่เกิดขึ้นจาก Deadpool และ Logan ทั้งสองเรื่องกล้าที่จะเสี่ยงในทางที่โหดมากขึ้น, มืดหม่นมากขึ้น และดำดิ่งลงไปในส่วนลึกของจิตใจตัวละครให้มากกว่าเดิม

 

 

                นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้นของความคิดเห็นจากบรรดานักวิจารณ์ที่มาจากสื่อบันเทิงชั้นนำของฝั่งฮอลลีวู้ด โดยเมื่อคิดเป็นคะแนนจากเว็บไซต์ Rotten Tomatoes แล้ว เหล่าบรรดานักวิจารณ์ได้ลงคะแนให้กับ Joker สูงถึง 9.05/10 คะแนน และได้คะแนนความชื่นชอบไป 88% จากนักวิจารณ์ 34 คน ทั้งหมดทั้งมวลเหลือแค่รอให้พวกเราไปพิสูจน์กันในโรงภาพยนตร์ Joker กำหนดฉาย 3 ตุลาคมนี้ ในโรงภาพยนตร์

 

Source: Screen Rant

โจ๊กเกอร์

  • 11 June 2020
  • Adventure / อาชญากรรม / ชีวิต / ระทึกขวัญ /
  • 122 นาที
15+

ข่าวที่เกี่ยวข้อง