1,340
03 ก.ย. 2021
ธิงเกอร์ อัจฉริยะผู้กุมกุญแจสำคัญ
ในภารกิจเสี่ยงตายของทีม The Suicide Squad
นักวิทยาศาสตร์อัจฉริยะ ธิงเกอร์ หัวล้านและมีชิ้นส่วนเครื่องจักรยื่นออกมา เขาทุ่มเทกับการทดลองทางวิทยาศาสตร์อย่างเต็มที่ แม้ว่าอาจจะมีผลกระทบต่อมนุษย์ก็ตาม เขาซ่อนโปรเจ็กต์ลับสุดยอดไว้นานหลายปี แต่ไม่ว่าเขาจะใส่ใจทุ่มเทขนาดไหน บางครั้งผลงานของเขาก็ออกมาแย่อยู่ดี
แต่ไม่ใช่สำหรับคาพัลดี้ที่สนุกสนานกับบทบาทและการได้ร่วมงานในเรื่องนี้ “มันเหมือนรวมทุกอย่างที่น่าสนใจเอาไว้ด้วยกัน ทั้งทีมนักแสดงที่เก่งเหลือเชื่อ เรื่องราวที่น่าทึ่ง และผมได้เป็นอัจฉริยะในห้องแล็บแห่งความชั่วร้าย... มันยากจะปฏิเสธได้เลย”
นักแสดงค้นหารายละเอียดอย่างถี่ถ้วนเพื่อการเข้าถึงตัวละครให้ได้มากที่สุด “ผมอ่านหนังสือการ์ตูน Suicide Squad ทุกเล่มเพื่อเก็บประเด็นสำคัญ ธิงเกอร์หรือ Gaius Grieves เป็นตัวละครที่ลึกลับสำหรับผม ทันทีที่ได้รับการเสนอบทนี้ผมหาข้อมู,ทันที คุณอาจนึกภาพตัวเองหาข้อมูลในร้านหนังสือการ์ตูนเก่าๆ แต่ไม่ใช่เลย เราจะนั่งอยู่นโลกอินเตอร์เน็ตและดูว่ามีใครโพสต์รูปเก่าๆ ของธิงเกอร์เอาไว้มั้ย ผมเจอข้อมูลเยอะมาก เขาปรากฏในหนังสือการ์ตูนต่างๆ หลายเล่มเลย โดยที่ไม่ได้อยู่ในจักรวาลเดียวกันด้วยซ้ำ แต่เขาไม่เคยเป็นตัวร้ายที่โดดเด่น ไม่เคยเป็นเหมือนซูเปอร์แมนหรือแบทแมน แต่ตอนนี้ถึงเวลาแล้วล่ะ…”
“ปีเตอร์ คาพาลดีเก่งมากครับ” ซาฟรานกล่าว “พวกเราเป็นแฟนของปีเตอร์จากเรื่อง ‘Doctor Who’ และผลงาน ‘The Thick of It’ ที่เสียดสีรัฐบาลได้อย่างสนุกสนาน เขามักจะรับบทเป็นคนที่มีจุดอ่อนเรื่องการพูด แต่ก็ตลกดีครับ ทุกคนตื่นเต้นที่เขามาร่วมงานในเรื่องด้วย”
เนื่องจากกะโหลกของธิงเกอร์คือส่วนสำคัญที่เป็นจุดเด่นของตัวละคร ผู้สร้างภาพยนตร์ไม่อยากให้เขาแต่งตัวดูรกตา มาคอฟสกี้เล่าว่า “ธิงเกอร์มีความน่าสนใจมากค่ะเพราะเราเล่นอะไรได้หลายอย่าง ตอนที่คุยกับปีเตอร์เราเกิดไอเดียเรื่องเสื้อผ้าแปลกๆ และเสื้อผ้าที่ดูธรรมดามาก เจมส์คิดว่าทุกอย่างที่อยู่บนหัวเขาก็แปลกมากพอแล้ว เราไม่อยากใส่อะไรเพิ่มไปอีก เราอิงจากหนังสือการ์ตูนช่วงหนึ่งที่เขาจะสวมชุดจั๊มพ์สูทในเรือนจำ พอมาถึงอีกช่วงหนึ่งในหนังเราให้เขาสวมชุดจั๊มพ์สูทสีฟ้าเข้ม มีเสื้อโค้ทที่สวมในห้องแล็บเพื่อสื่อถึงความเคารพ แต่พอเราได้อ่านบทจะพบว่าเขาเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่มีอะไรอยู่ในหัวเขาโดยบังเอิญ เราเลยจัดเสื้อผ้าที่ดูสมจริงให้เขา”
สำหรับฉากนอกห้องแล็บ เธอให้คาพัลดีสวมชุดสูทสีเข้มทับเสื้อเชิ้ตที่มีลวดลายสะท้อนถึงชีวิตที่อยู่บนเกาะ
แม้เรื่องเสื้อผ้าจะสรุปได้รวดเร็ว แต่นักแสดงต้องใช้เวลาแต่งหน้าและจัดผมนานถึง 2 ชั่วโมงครึ่ง เพื่อให้ทีมงานติดพวกเครื่องจักรที่เด่นสะดุดออกมา การผลิตชิ้นส่วนต่างๆ เริ่มจากช่วงหัวของคาพาลดี จากนั้นส่งจากลอนดอนไปยัง Legacy Effects ในแคลิฟอร์เนีย เพื่อปั้นและขึ้นรูปทำการทดสอบช่วงแรก เมื่อถึงช่วงการถ่ายทำคาพาลดีจะได้แปลงโฉม
ขั้นตอนนั้นเริ่มจากการสวมหมวโฟมยางและติดกาว ต่อมาติดหมวกไฟเบอร์กลาสเพิ่ม โดยต้องมีการเดินสายไฟด้านใน ใช้แบตเตอรี่ขนาดเล็กเป็นตัวสร้างประจุไฟ และสุดท้ายคือการนำหมวกไปวาดลวดลายด้วยมือ
“ในบางช่วงเหมือนสมองเขามีพลังเพิ่มจากวิธีที่ผิดธรรมชาติ เราจะเห็นได้จากหลอดไฟบนหัวของเขา” คาพาลดีกล่าว “สำหรับผมแล้วเหมือนพวกมันออกมาจากด้านหลังเครื่องขยายเสียงของ Beatles สมัยก่อนเลย”
สำหรับแฟนหนังเมเจอร์ ห้ามพลาดกับบัตรดูหนังสุดคุ้ม M PASS ที่จะทำให้คุณคุ้มเต็มอิ่มกับการดูหนังตลอดทั้งปี เตรียมไปมันส์กับกองทัพหนังดังมากมาย สมัครง่ายๆเพียงแค่คลิก ที่นี่
