รีวิว เทอมสอง สยองขวัญ สามตำนาน สารพัดความสยอง หลอนจนต้องจิกเบาะ!

รีวิว เทอมสอง สยองขวัญ สามตำนาน สารพัดความสยอง หลอนจนต้องจิกเบาะ!

เทอมสยองสยองขวัญ ภาพยนตร์สยองขวัญเรื่องล่าสุดจากค่ายสหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล ได้เริ่มฉายแล้ว ในวันนี้เราจะได้ชมบรรยากาศในรอบสื่อกัน รวมไปถึงรีวิวภาพยนตร์อย่างคร่าวๆที่มีแต่เนื้อหาของความสนุกน่าติดตาม ใครอยากรู้รายละเอียดว่าเป็นอย่างไร เตรียมอ่านไปพร้อมๆกันได้เลย

โดยในทั้งสามเรื่องนั้นมีการกำกับเรื่องจากผู้กำกับที่แตกต่างกันถึงสามคน เรียกได้ว่า สามเรื่อง สามสไตล์ แต่ละสไตล์ของหนังมีทั้งความสยอง ประชดประชันบริบทของสังคมไทย สังคมนักศึกษามหาวิทยาลัย จรรยาบรรณ การเมือง และ ที่ขาดไม่ได้ ก็คือมุกตลกที่เรียกเสียงหัวเราะให้คนที่กลัวผีกลัวความมืดจะไม่ต้องกลับบ้านไปแบบจะต้องลืมความกลัวจนเผลอทิ้งไว้ในโรง ทั้งหมดทั้งมวลนี้ผ่านการเล่าเรื่องตามตำนานทั้งสามสุดสยองของมหาวิทยาลัยสามแห่งที่มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับกิจกรรมเชียร์, เตียงในหอพัก, รวมไปถึง การรับปริญญา

ตำนานสยองขวัญที่บอกเล่ากันผ่านรุ่นแล้วรุ่นเล่าได้ถ่ายทอดผ่านตัวละครหลัก6คน ในเรื่องแรกนั้นเป็นเรื่องของ “เชียร์ปีสุดท้าย” ว่าด้วยเรื่องราวของนักศึกษาปีหนึ่งอย่าง เมษา (มิวสิค-แพรวา สุธรรมพงษ์) และ ต่าย (แคร์-ปาณิสรา ริกุลสุรกาน) สองเพื่อนสนิทที่ต้องมาเข้าร่วมกิจกรรมเชียร์ของคณะ แต่แล้วจู่ๆ เมษาก็ได้ยินและเห็นบางอย่างในห้องเชียร์โดยไม่คาดฝัน เรื่องราวเริ่มเรื่องโดยการบ่งบอกถึงว่าเมษาเป็นเพียงคนเดียวที่มีความสามารถพิเศษในการเห็นผี ความกดดันที่ผู้กำกับทิ้งไว้ให้ยังคงลอยครุกรุ่นอยูถึงแม้เนื้อเรื่องจะผ่านไปแล้ว ที่เป็นประเด็นที่สุดคือการนำเสนอด้านประชาธิปไตยในคราบเผด็จการคอยบงการบังคับข่มขู่แต่อ้างว่าการกระทำแบบนี้คือการโหวตเพื่อประชาธิปไตย ทั้งหมดนี้ทำเพียงเพื่อแค่ต้องการปิดปากเด็กนักศึกษาที่ไม่เห็นด้วย นี่จึงเป็นการนำเสนอที่แยบยลเชิงเสียดสีสังคมประชาธิปไตยในทุกวันนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ส่วนความน่ากลัวนั้นต้องยอมรับว่าทำได้ดีในระดับที่ฉาก Jump Scare ยังคงสร้างความตกใจให้กับผู้คนได้อยู่ ด้านนักแสดงนั้นเรียกได้ว่าเจ้าบทบาทเจ้าน้ำตาเลยทีเดียว มีฉากเรียกน้ำตาออกมาได้เยอะมากๆ และน้องๆเองก็เล่นได้ถึงอารมณ์มากๆเช่นกัน

 

ส่วนเรื่องที่สองนั้นเป็นเรื่องราวของหนุ่มนักศึกษาคณะแพทย์ต้องกลับมานอนที่เตียงซีโดยความจำเป็น ซึ่งเตียงซีในหอพักนั้นเคยมีเรื่องเล่าว่านักศึกษาคนหนึ่งซึ่งเคยนอนอยู่บนเตียงซีนี้มาก่อนและได้เสียชีวิตลงกระทันหัน วิญญาณของเขาจะกลับมาที่เตียงนี้เพื่อทวงพื้นที่ของเขาคืนในทุกๆวันสถาปนาฯ เรื่องนี้ตัวละครคือ แทน (นำแสดงโดย เจมส์-ธีรดนย์ ศุภพันธุ์ภิญโญ) ต่างจากเรื่องแรกที่มีทั้งความหลอนและกดดัน แต่ในเรื่องนี้ ระดับความหลอนที่ไม่ลดละแต่เพิ่มความแอ็คชั่นต่อสู้ดิ้นรนเข้ามาด้วย เนื่องจากตัวเอกต้องดิ้นรนเอาตัวรอดจากผีนักศึกษาคณะแพทย์ที่เป็นอดีตเจ้าของเตียงซีและหมายจะมาเอาชีวิตของเขาเพื่อทวงเตียงซีคืน ด้านการแสดงของนักแสดงนั้น ต้องยอมรับในความทุ่มเทของน้องเจมส์กันเลยทีเดียว มองเห็นถึงความพยายาม ความใส่ใจ และ ความใฝ่รู้ ที่จะศึกษาธรรมชาติของร่างกายให้มีการเคลื่อนไหวออกมาที่ดูผิดแปลกไปจากปกติแต่เป็นธรรมชาติมากๆ นี่แหละคือนักแสดงแนวหน้าของประเทศไทย

 

 

เรื่องสุดท้ายนั้นเป็นที่กล่าวถึงกันในโลกโซเชี่ยลเป็นจำนวนมาก ชื่อเรื่องคือ “ตึกวิทย์เก่า” อันเป็นเรื่องราวของตำนานผีทั้งสามตนที่เคยอยู่ในบริเวณตึกวิทย์เก่าของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ได้แก่ ผีนางรำ, ผีอาจารย์, และ ผีชุดครุย ซึ่งเรื่องนี้เดินเรื่องโดย กิต-กฤตย์ จีรพัฒนานุวงศ์ นักร้องนำจากวง Three Man Down รับบทเป็นตัวละครชื่อ กอล์ฟ น้องชายของ มีน (เบลล์-เขมิศรา พลเดช) ประกอบอาชีพไรเดอร์ส่งอาหาร กอล์ฟผู้ซึ่งไม่เคยกลัวผีแม้แต่ตนเดียว ทั้งท่าทางยียวนชวนสร้างเสียงหัวเราะ จะมาสร้างความหวาดผวาประกอบกับความน่ารักน่าเอ็นดูในการมองผีเป็นเพื่อนคู่แท้ เรื่องที่สามนี้จึงเป็นเรื่องที่สร้างทั้งความน่ากลัวและเสียงหัวเราะอย่างลงตัวไปพร้อมๆกัน มีนและผองเพื่อนต้องเอาชีวิตรอดจากเหล่าผีโดยที่มีกอล์ฟเป็นคนเพิ่มความน่าปวดหัวยิ่งขึ้นไปอีก นอกจากฉากตุ้งแช่ที่เรียกเสียงตกใจได้ทั้งโรงแล้ว ก็มีฉากของ กิต Three Man Down นี่แหละที่สร้างเสียงหัวเราะไปด้วยเช่นกัน เรียกว่าครบรสครบบรรยากาศ ทิ้งความกลัวไว้ในโรง แล้วหอบเอาความสุขควบคู่กับเสียงปรบมือกลับบ้านไปโดยทั่วกันเลยทีเดียว

 

 

สามเรื่อง สามสไตล์  ฉายแล้ววันนี้ในโรงภาพยนตร์ทั่วประเทศไทย ใครอยากหลอนไปพร้อมๆกับตำนานมหาวิทยาลัยอันโด่งดัง ห้ามพลาดกันเด็ดขาด แล้วจะพบว่า คนในอยากหลอก คนนอกอยากเล่า ณ เทอมสองสยองขวัญ !!! สำหรับแฟนหนังเมเจอร์ ห้ามพลาดกับบัตรดูหนังสุดคุ้ม M PASS ที่จะทำให้คุณคุ้มเต็มอิ่มกับการดูหนังตลอดทั้งปี เตรียมไปมันส์กับกองทัพหนังดังมากมาย สมัครง่ายๆเพียงแค่คลิก ที่นี่