HIGHLIGHT CONTENT

แกเบรียล ลาเบลล์ สู่การรับบท แซมมี่ เฟเบิลแมนส์ ชายผู้ที่จะกลายเป็นพ่อมดแห่งฮอลลีวู้ด

  • 609
  • 01 ก.พ. 2023

 

 

แกเบรียล ลาเบลล์ สู่การรับบท แซมมี่ เฟเบิลแมนส์

ชายผู้ที่จะกลายเป็นพ่อมดแห่งฮอลลีวู้ด

 

เด็กหนุ่มไร้เดียงสา แต่ก็โตเกินวัย เป็นเด็กแห่งยุคสมัยนั้น แต่ก็เหมือนห่างเหินจากวัฒนธรรม เขาได้มาพบเห็นความจริงที่ถูกเปิดเผย ซึ่งทั้งสร้างความตื่นเต้นและสร้างความหวาดกลัวให้กับเขา มันเขย่าโลกส่วนตัวของเขา และส่งเขาออกไปสู่โลกกว้างในการเดินทางที่กำลังเปลี่ยนแปลงชีวิตของเขา มันคือการเล่าเรื่องราวของฮีโร่วัยกระเตาะที่เคยปรากฎให้เห็นในภาพยนตร์เรื่องก่อนๆ ของสปีลเบิร์ก ซึ่งไม่มีตัวละครตัวไหนที่จะโดดเด่นเท่ากับ เอลเลียตต์ ในภาพยนตร์เรื่อง E.T. the Extra-Terrestrial กับ The Fabelmans เด็กคนนั้นกลับมาในรูปลักษณ์ของ แซมมี่ เฟเบิลแมนส์ เด็กชาวยิวที่เติบโตมาในชุมชนย่านชานเมืองแบบคริสเตียน ผู้ซึ่งหลังจากได้เข้าไปสัมผัสประสบการณ์ในอาณาจักรภาพยนตร์ของฟิลาเดลเฟีย มันทำให้เขาตัดสินใจเดินไปบนเส้นทางที่จะสร้างภาพยนตร์ยิ่งใหญ่มากมายที่สามารถเข้าถึงใจของทุกคนได้ 

 

แคสติ้ง ไดเร็คเตอร์ ซินดี้ ทูแลน เริ่มต้นค้นหาสองนักแสดงที่จะมารับบทเป็น แซมมี่ ในช่วงอายุที่แตกต่างกัน นักแสดงหน้าใหม่ มาทิโอ โซเรี่ยน ฟรานซิส-เดอฟอร์ด รับบทเป็น แซมมี่ วัยเด็ก ผู้พบเสียงเรียกร้องจากชีวิตหลังจากได้ดูภาพยนตร์เรื่อง The Greatest Show on Earth และเขาเริ่มต้นสร้างภาพยนตร์กับพี่สาวและน้องสาวโดยใช้กล้อง 8 มม.ของพ่อ “เขาบังเอิญเป็นเด็กชายตัวน้อยที่น่ารักที่เราเจอตัวในซานตาบาร์บาร่าค่ะ” ผู้อำนวยการสร้าง คริสตี้ มาคอสโก คริเอเกอร์ เล่า “ฉันจำได้ถึงดวงตาของเขาที่มันจับใจมากเสียจนไม่มีทางที่เราจะไม่เลือกเขาให้มารับบทเป็น แซมมี่ ตอนเด็กค่ะ” 

 

 

แกเบรียล ลาเบลล์ จากแวนคูเวอร์ บีซี รับบทเป็น แซมมี่ ตอนเป็นวัยรุ่น ผู้ซึ่งการทำหนังในช่วงเวลาว่าง เริ่มเติบโตกลายเป็นความทะเยอทะยานมากขึ้น หลังจากได้ดูภาพยนตร์เรื่อง The Man Who Shot Liberty Valance และยิ่งมีความซับซ้อนทางอารมณ์มากขึ้นหลังจากได้เห็นความลับของครอบครัวที่ถูกเผยให้เห็นจากภาพแบ็คกราวน์ในคลิปหนังของครอบครัว “ผมมองหาคนที่ดูเท่กว่าตัวผมครับ” สปีลเบิร์กพูดพร้อมเสียงหัวเราะ และกล่าวอย่างจริงจังว่า “ผมเลือกคนที่มีความอยากรู้อยากเห็นที่ไม่รู้จักพอ ซึ่งผมรู้ว่าผมเป็นแบบนั้นเสมอ และในฐานะคนๆ หนึ่ง เก๊บก็มีความอยากรู้อยากเห็นในแบบที่ไม่เคยพอเลย” 

ลาเบลล์ได้รับการบอกเล่าเกี่ยวกับบทนี้หรือเกี่ยวกับความเชื่อมโยงของบทนี้กับสปีลเบิร์กน้อยมากในตอนที่เขามาออดิชั่นครั้งแรก เขารู้เพียงแค่ว่าตัวละครตัวนี้ “ฉลาดและรู้จักตัวเองดี” ในการออดิชั่นรอบสอง เขาได้พบกับสปีลเบิร์กผ่านแอพพลิเคชั่น Zoom และหลังจากที่ผู้กำกับสปีลเบิร์กได้ช่วยผ่อนคลายความกังวลของนักแสดงหนุ่ม ซึ่งก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ ลาเบลล์ก็แสดงฉากเล่าเรื่อง ซึ่งแซมมี่บอกพ่อของเขาว่าเขารู้สึกไม่พอใจที่พ่อจะพาครอบครัวย้ายไปแคลิฟอร์เนีย  “สตีเวนบอกผมว่าเขาไม่ได้อยากให้พ่อประทับใจ” ลาเบลล์ ซึ่งยกให้ Empire of the Sun เป็นภาพยนตร์ของสปีลเบิร์กที่เขาชอบมากที่สุด บอก “เขาต้องการคนจริงๆ เป็นเด็กหนุ่มที่รู้จักตัวเองและฉลาด ผู้รู้สึกหงุดหงิดกับหลายสิ่งรอบตัวเขา มีอยู่สองสามอย่างที่ผมอยากคงเอาไว้ นั่นก็คือท่วงท่าและรอยยิ้มของเขา แต่เขากับผมไม่ได้อยากเลียนแบบตัวเขาหรอกนะครับ”

หลังจากเสนอบทนี้ให้ ลาเบลล์ แสดง สปีลเบิร์กได้ถามนักแสดงหนุ่มว่าพวกเขาสามารถเริ่มต้นพูดคุยกันผ่านทางโทรศัพท์เป็นประจำได้ไหม เพื่อให้สปีลเบิร์กได้รู้จัก ลาเบลล์ ดีขึ้น ลาเบลล์เห็นดีด้วย ถึงแม้สปีลเบิร์กจะเล่าว่า สุดท้ายแล้วนักแสดงหนุ่มก็ลงเอยด้วยการกลับทิศทางของวัตถุประสงค์และพลังในการพูดคุยกันทางโทรศัพท์  “โดยหลักๆ แล้ว จะเป็นแกเบรียลที่คอยสัมภาษณ์ผมมากกว่าครับ เขาถามผมเกี่ยวกับแม่ผม และพ่อของผม และคนที่ผมเติบโตมาด้วย” สปีลเบิร์กบอก “เขากำลังทำการค้นคว้าของเขา ไม่ใช่ให้ผมส่งวิดีโอหรือหนังให้กับเขา แต่เขาอยากค้นหาสิ่งที่เขาค้นได้ ด้วยการดึงข้อมูลจากตัวต้นเรื่อง เขาเป็นฝ่ายควบคุมการพูดคุยโทรศัพท์ทั้งหมด ซึ่งผมคิดว่ามันน่าสนใจมาก เพราะผมเองก็เป็นพวกชอบควบคุมเหมือนกัน พอผมรู้ตัวว่าเขาคือคนที่ชอบควบคุมเหมือนกัน ผมคิดว่า ‘เขาต้องทำได้ดีแน่ ๆ และเขาอาจรู้จักฉันดีกว่าที่ฉันรู้จักตัวเองเสียอีก’” 

 

 

เพื่อเตรียมตัวให้มากขึ้น ลาเบลล์มองหาวิธีฝึกฝนการใช้กล้อง Super 8 ที่สปีลเบิร์กเคยใช้ตอนสมัยเป็นวัยรุ่น และวิธีตัดต่อภาพยนตร์ด้วยเครื่องตัดต่อ และวิธีที่จะใช้กล้องฉายฟิล์มแบบม้วนต่อม้วน การเรียนรู้งานนี้มีความท้าทายอย่างมาก ลาเบลล์กล่าว แต่เขาก็รู้สึกชื่นชมต่อความยากนี้ และรู้สึกภูมิใจอย่างมากที่ทำมันออกมาได้อย่างถูกต้อง มันคือสิ่งสำคัญมากในการแสดงเป็นแซมมี่ ลาเบลล์ได้ใช้ความรู้จากการศึกษาแบบเร่งรัดของเขาในทันที วันแรกๆ ที่เขาอยู่ในกองถ่าย ถูกใช้ไปกับการถ่ายทำฉากที่ แซมมี่ ต้องควบคุมกล้องและกำกับภาพยนตร์หลายเรื่องที่เขาสร้างในเรื่องราวนี้ มันคือครั้งแรกที่ ลาเบลล์ ได้พบกับสปีลเบิร์กแบบตัวเป็นๆ และการทำงานครั้งนี้ก็คือโอกาสที่ทำให้พวกเขาเกิดความผูกพันกันมากขึ้น “สองวันแรกนั้นสุดยอดมากครับ” ลาเบลล์บอก “ถึงแม้ผมจะคุ้นเคยกับการใส่คอนแท็คเลนส์ เพราะดวงตาผมเป็นสีน้ำตาล พวกเขาเปลี่ยนมันเป็นสีเขียวฟ้าเพื่อให้เข้ากับดวงตาของสตีเวนครับ”

 

สปีลเบิร์กพอใจที่สุดแล้วกับการแสดงของลาเบลล์ ระหว่างธรรมเนียมการยกแก้วฉลองให้กับทีมนักแสดงและทีมงานหลังการถ่ายทำเสร็จสิ้น ผู้กำกับสปีลเบิร์กได้กล่าวยกย่องลาเบลล์ด้วยการบอกว่า “การเลือกนักแสดงที่ยากที่สุดในภาพยนตร์เรื่องนี้ ก็คือการเลือกคนอย่างผมนี่แหละ ผมคิดว่าผมตีโฮมรันได้นะ เพราะผู้ชายคนนี้ก็เริ่มตีโฮมรันด้วยตัวเขาเอง ครั้งแล้วครั้งเล่าครับ” งานชิ้นสุดท้ายของลาเบลล์ที่จะต้องแสดงเป็นสปีลเบิร์กช่วงเป็นวัยรุ่นมาถึงในอีกหนึ่งวันต่อมา เมื่อเขาถ่ายทำฉากที่แสนงดงาม ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความรักอย่างแรงกล้าที่แซมมี่มีให้กับการเล่าเรื่องราวต่างๆ ด้วยแสง เป็นภาพโคลสอัพมือของแซมมี่ที่กำลังจับเงาของเม็ดฝนที่ตกลงมา “มีแค่ผมกับสตีเวนที่นั่งอยู่บนลังแอปเปิ้ล กับกล้องที่อยู่บนไหล่ของผม และเขาก็จับข้อศอกของผมเพื่อจัดท่าทางขณะที่ผมประสานมือเข้าด้วยกัน” ลาเบลล์เล่า “มันพิเศษอย่างมากที่ปิดทุกอย่างที่ตรงนั้น กับการนั่งอยู่ข้างๆ สตีเวน และได้สัมผัสวินาทีนี้ด้วยกันครับ”
 

 

 สำหรับแฟนหนังเมเจอร์ ห้ามพลาดกับบัตรดูหนังสุดคุ้ม M PASS ที่จะทำให้คุณคุ้มเต็มอิ่มกับการดูหนังตลอดทั้งปี เตรียมไปมันส์กับกองทัพหนังดังมากมาย สมัครง่ายๆเพียงแค่คลิก ที่นี่ 

เดอะ เฟเบิลแมนส์

  • 02 February 2023
  • Adventure / ชีวิต /
  • 151 นาที
15+

ข่าวที่เกี่ยวข้อง