15 ค่ำ เดือน 11 หนังบั้งไฟพญานาค 16ปีผ่านไป
คุณเชื่อสิ่งไหน? ศรัทธา Vs วิทยาศาสตร์
ในปีนี้มีหนัง นาคี ซี่งเป็นหนังเกี่ยวกับพญานาคให้เราได้ไปพิสูจน์ศรัทธาของตำนานที่เล่าขาน โดยเป็นเรื่องราวของของการสืบสวนคดีลึกลับที่ชาวบ้านในพื้นที่คาดว่าเป็นฝีมือของพญานาคหรือเจ้าแม่นาคี โดยภาพยนตร์เป็นการสานต่อจากเวอร์ชั่นละคร
แต่ก่อนที่เราจะไปชมหนังเกี่ยวกับพญานาคเรื่องนี้ เราขอพาทุกคนย้อนกลับไปเมื่อ 16 ปีก่อน มีหนังอีกเรื่องหนึ่งที่นำเสนอเรื่องราวของพญานาคได้ครบแง่มุม โดยเลือกเหตุการณ์ 15 ค่ำ เดือน 11 มานำเสนอ
15 ค่ำ เดือน 11 ภาพยนตร์ในปี 2545 โดย จิระ มะลิกุล นำเสนอแง่มุมเกี่ยวกับบั้งไฟพญานาค ปรากฏการณ์ลึกลับที่ยังหาคำอธิบายทางธรรมชาติไม่ได้ เมื่อลูกไฟปริศนาพุ่งขึ้นจากกลางลำน้ำโขง เฉพาะวันออกพรรษา แบบไร้กลิ่น ไร้เสียง และไร้ควัน ท่ามกลางกระแสน้ำที่เชี่ยวกราดทำให้เชื่อได้ว่าไม่มีใครลงไปจุดไฟจากกลางลำน้ำได้แน่นอน...และบวกกับพื้นที่ในจังหวัดหนองคาย และชาวอีสานเชื่อว่า แม่น้ำโขงเป็นประตูสู่เมืองบาดาลและเป็นแม่น้ำที่พญานาคขุดขึ้นมา โดยหนังแบ่งการเล่าเรื่องร้อยเรียงกันใน 3 มุม
• มุมที่ 1 มุมของความศรัทธาที่คนในพื้นที่จังหวัดหนองคายเชื่อว่าเกิดจากปาฏิหาริย์ของพญานาคจุดลูกไฟถวายเป็นพุทธบูชาในวันออกพรรษา
• มุมที่ 2 เชื่อว่าเป็นฝีมือมนุษย์ทำ โดยทำมาจากบั้งไฟลูกหนู ติดตั้งในแนวตั้งทำให้มันพุ่งขึ้นฟ้า
• มุมที่ 3 เชื่อว่าเป็นปรากฏการณ์วิทยาศาสตร์ที่เกิดจากก๊าซและแรงดึงดูดของโลก เพราะดินใต้แม่น้ำโขงเป็นดินทรายทำให้เกิดก๊าซได้ง่าย
โดยทั้ง 3 มุมนี้ มี ตัวละครที่ชื่อว่า ‘คาน’ รับบทโดย โอ อนุชิต เป็นตัวแทนของคนทำบั้งไฟ ,หมอที่ต้องการพิสูจน์ว่าเหตุการณ์นี้เกิดจากธรรมชาติ,หลวงพ่อที่เชื่อว่าพญานาคมีจริง โดยหนังได้ให้น้ำหนักของทุกมุมอย่างเท่าเทียมกันและไม่ได้ฟันธงแน่นอนชัดเจนว่า ปรากฎการณ์นี้เกิดขึ้นจากอะไรและปล่อยเป็นคำถามปลายเปิดให้คนดูได้ตัดสินใจด้วยเอง ทำให้หนังเรื่องนี้ได้รับคำชื่นชมและรางวัลมากมาย
ฉากที่หลายคนประทับใจคงจะเป็นฉากสุดท้ายที่เป็นการอ่านเนื้อความในจดหมายของหลวงพ่อที่ลงไปดำน้ำเพื่อวางลูกบั้งไฟในแม่น้ำโขงจนเสียชีวิต...ซึ่งความในจดหมายได้กล่าวถึงคนเราในช่วงชีวิตหนึ่งหากมีความดีอันใดอยากทำให้รีบทำ ก่อนที่ลูกบั้งไฟของชีวิตเราจะดับลง และประโยคเด็ดที่ว่า "เฮ็ดในสิ่งที่เซื่อ เซื่อในสิ่งที่เฮ็ด"