โปรไฟล์(ไม่)ลับ ของ ทอม ครูซ กับการลุยภารกิจเสี่ยงตายแบบจัดเต็มทุกเรื่อง

โปรไฟล์(ไม่)ลับ ของ ทอม ครูซ กับการลุยภารกิจเสี่ยงตายแบบจัดเต็มทุกเรื่อง

 

 

ความสามารถหลากหลายของ ทอม ครูซ ในฐานะผู้สร้างภาพยนตร์ผู้ทุ่มเทและมีส่วนเกี่ยวข้องกับงานสร้างภาพยนตร์ทุกแง่มุม ปรากฏชัดในผลงานภาพยนตร์และบทบาทการแสดงที่เขาเลือก โดยเขาได้ฝากผลงานไว้กับภาพยนตร์กว่า 50 เรื่อง และได้ทำหน้าที่อำนวยการสร้างภาพยนตร์หลายเรื่อง รวมไปถึงได้ร่วมงานกับผู้กำกับชื่อดังมากมาย 

ด้วยความสำเร็จพิเศษสุดในฐานะนักแสดง ผู้อำนวยการสร้างและผู้ใจบุญตลอดอาชีพนักแสดงที่ครอบคลุมกว่าสี่ทศวรรษ ครูซเคยได้รับการเสนอชื่อชิงสามรางวัลอคาเดมี อวอร์ด หลายครั้ง และได้รับรางวัลลูกโลกทองคำอีกถึงสามครั้ง ส่วนผลงานภาพยนตร์ของเขาก็ทำรายได้รวมกันไปแล้วไปเกือบแปดพันห้าร้อยล้านเหรียญในบ็อกซ์ออฟฟิศทั่วโลก ซึ่งเป็นความสำเร็จที่หานักแสดงคนไหนมาเทียบได้ยาก

 

 

Mission: Impossible: Ghost Protocol (2011) หรือ มิชชั่น:อิมพอสซิเบิ้ล ปฏิบัติการไร้เงา เข้าฉายในปี 2011 ทำรายได้ไปเกือบ 700 ล้านเหรียญทั่วโลก โดยเมื่อรวมกันแล้ว แฟรนไชส์ มิชชั่น อิมพอสซิเบิ้ล ทำรายได้กว่าสามพันห้าร้อยล้านเหรียญทั่วโลก นับตั้งแต่ที่ ครูซ ได้คิดไอเดียขึ้นมาสำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้และเริ่มทำหน้าที่อำนวยการสร้างแฟรนไชส์เรื่องนี้ ที่เขารับบท อีธาน ฮันท์ สายลับในตำนาน ต่อมาเขาก็ เขาถ่ายทำภาพยนตร์อาชญากรรมเรื่อง American Made (2017) หรือ อเมริกัน เมด ที่ทำให้เขาได้ร่วมงานกับผู้กำกับ ดั๊ก ลีแมน อีกครั้งหนึ่ง และเขาก็ทำงานแบบไม่หยุดพักต่อเนื่องใน The Mummy (2018) หรือ เดอะ มัมมี่ ที่ทางยูนิเวอร์แซลนำภาพยนตร์สัตว์ประหลาดคลาสสิกมาสร้างใหม่

 

 

ผลงานภาพยนตร์ก่อนหน้านี้ของเขารวมถึง Edge of Tomorrow (2014) หรือ ซูเปอร์นักรบดับทัพอสูร ก็เปิดตัวท่ามกลางเสียงวิจารณ์ชื่นชม รวมไปถึง Oblivion (2013) หรือ อุบัติการณ์โลกลืม และภาพยนตร์เขย่าขวัญลุ้นระทึกเรื่อง Jack Reacher (2012) หรือ ยอดคนสืบระห่ำ ซึ่งทำรายได้ไปกว่า $218 ล้านเหรียญทั่วโลก ก่อนหน้านั้น เขาก็ได้ร่วมแสดงในภาพยนตร์คอเมดี้ยอดนิยมโดย เบน สติลเลอร์ เรื่อง Tropic Thunder (2008) หรือ ดาราประจัญบาน ท.ทหารจำเป็น ในบท เลส กรอสแมน เจ้าพ่อวงการภาพยนตร์ฮอลลีวูดปากร้ายที่มีเค้าโครงจากตัวละครที่ ครูซ สร้างขึ้น ทำให้เขาได้รับเสียงชื่นชมจากนักวิจารณ์และผู้ชม และทำให้เขาได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลลูกโลกทองคำครั้งที่เจ็ดอีกด้วย

 

เขาได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลอคาเดมี อวอร์ดสาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยมจาก Born on the Fourth of July (1989) หรือ เกิดวันที่ 4 กรกฎาคม และ Jerry Maguire (1996) หรือ เจอร์รี่ แม็คไกวร์ เทพบุตรรักติดดิน และได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลออสการ์สาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยมจาก Magnolia (1999) หรือ เทพบุตรแม็กโนเลีย นอกจากนี้ เขายังได้รับสามรางวัลลูกโลกทองคำ รวมถึงได้รับรางวัลในสาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยมจาก เกิดวันที่ 4 กรกฎาคม และ จอร์รี่ แม็คไกวร์ เทพบุตรรักติดดิน และอีกหนึ่งครั้งในสาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยมจาก เทพบุตรแม็กโนเลีย นอกจากนั้น เขายังได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลจากการแสดงของเขาในภาพยนตร์เรื่อง Risky Business (1983) หรือ บริษัทรักไม่จำกัด, A Few Good Men (1992) หรือ เทพบุตรเกียรติยศ และ The Last Samurai (2003) หรือ มหาบุรุษซามูไร เขายังได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลและได้รับรางวัลด้านการแสดงมากมายจากบาฟตา, สมาพันธ์นักแสดง, สมาพันธ์นักวิจารณ์ภาพยนตร์ชิคาโกและสมาพันธ์นักวิจารณ์แห่งชาติ

 

 

นอกเหนือจากนั้น ครูซ ยังได้รับการยกย่องมากมาย ทั้งในรูปแบบของเฮสตี้ พุดดิ้ง แมน ออฟ เดอะ เยียร์ อวอร์ดของฮาร์เวิร์ด ไปจนถึงจอห์น ฮูสตัน อวอร์ดจากมูลนิธิสิทธิศิลปินและอเมริกัน ซีเนมาธิค อวอร์ด สาขาความสำเร็จโดดเด่นในภาพยนตร์ นอกเหนือไปจากคุณูปการด้านศิลปะแล้ว ครูซ ยังใช้ความสำเร็จจากอาชีพนักแสดงของเขาเป็นเครื่องมือในก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงแง่บวก โดยเขาได้กลายเป็นผู้ให้การสนับสนุน นักเคลื่อนไหวและผู้ใจบุญระดับโลกในสายของสุขภาพ การศึกษาและสิทธิมนุษยชน เขาได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลจากมูลิธิเมนเทอร์-แอลเอจากผลงานของเขาในฐานะตัวแทนเด็ก ๆ จากลอสแองเจลิสและทั่วโลก และเดือนพฤษภาคม เขาก็ได้รับรางวัลไซมอน วีเซนธัล ฮิวแมนิทาเรียน อวอร์ด ในเดือนมิถุนายน ปี 2012 เขาได้รับรางวัลเอนเตอร์เทนเมนต์ ไอคอน อวอร์ดจากไฟรอาร์ส คลับ จากความสำเร็จยอดเยี่ยมของเขาในวงการบันเทิงและด้านมนุษยธรรม เขาเป็นบุคคลที่สี่ที่ได้รับเกียรตินี้ต่อจาก ดักกลาส แฟร์แบงค์, แครี แกรนท์ และ แฟรงค์ ซินาตรา นิตยสารเอ็มไพร์ได้มอบรางวัลลีเจนด์ ออฟ เอาเออร์ ไลฟ์ไทม์ อวอร์ดให้กับครูซในปี 2014

 

 

เมื่อปีที่ผ่านมา ทอม ครูซ กลับมารับบท พีท “มาเวอริค” มิทเชล นักบินขับไล่ของกองทัพอากาศสหรัฐฯ ภาพยนตร์กำกับโดย โจเซฟ โคซินสกี เขากลับมาฝึกหน่วยท็อปกันเพื่อปฏิบัติภารกิจพิเศษในรูปแบบที่ยังไม่เคยมีนักบินที่ยังมีชีวิตอยู่เคยเห็นมาก่อน มาเวอริค ต้องพบเจอกับเรือโท แบรดลีย์ แบรดชอว์ หรือ รูสเตอร์ ลูกชายของเรือโ ทนิค แบรดชอว์ หรือ กูส เพื่อนของเขาที่เสียชีวิตไปแล้ว เขาต้องพบกับอนาคตที่ไม่แน่นอนและอดีตที่ตามหลอกหลอน มาเวอริคต้องเผชิญกับความกลัวที่ฝังลึกอยู่ และปฏิบัติภารกิจให้สำเร็จ ซึ่งภารกิจนี้ผู้ที่ได้รับเลือกให้ร่วมบินต้องเสียสละอย่างที่สุด

 

 

และล่าสุดกับการสานต่อเรื่องราวของหนึ่งเฟรนไชส์จารชนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาลอย่าง มิชชั่น อิมพอสซิเบิ้ล ในบทบาทของ อีธาน ฮันท์ กับเหล่าเพื่อนจากทีมไอเอ็มเอฟของเขา ที่ต้องเผชิญหน้ากับภัยอันตรายครั้งใหม่ที่น่ากลัวกว่าที่เคย พร้อมกับดำดิ่งขุดค้นลึกลงไปในอดีตของยอดจารชนคนนี้ ในภาพยนตร์ Mission: Impossible - Dead Reckoning Part One หรือ มิชชั่น: อิมพอสสิเบิ้ล ล่าพิกัดมรณะ ตอนที่หนึ่ง ที่จะเป็นเรื่องราวบทแรกของภาพยนตร์สองภาคในการเดินทางที่อาจจะเป็นครั้งสุดท้ายของเขาในบทบาทนี้

Mission: Impossible - Dead Reckoning Part One หรือ มิชชั่น: อิมพอสสิเบิ้ล ล่าพิกัดมรณะ ตอนที่หนึ่ง มีกำหนดเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ในวันที่ 11 กรกฎาคม ที่จะถึงนี้

 

สำหรับแฟนหนังเมเจอร์ ห้ามพลาดกับบัตรดูหนังสุดคุ้ม M PASS ที่จะทำให้คุณคุ้มเต็มอิ่มกับการดูหนังตลอดทั้งปี เตรียมไปมันส์กับกองทัพหนังดังมากมาย สมัครง่ายๆเพียงแค่คลิก ที่นี่