HIGHLIGHT CONTENT

การกลับมาของ Mad Max: Fury Road ลูกบ้าชั้นดีที่สูบฉีดอะดรีนาลินตลอดเรื่อง!

  • 27,390
  • 10 พ.ย. 2020

Mad Max: Fury Road
ลูกบ้าชั้นดีที่สูบฉีดอะดรีนาลินตลอดเรื่อง!
BY FEEDMYBRAIN

 

 

ความโด่งดังระดับพลุแตกไปทั่วโลกเมื่อปี 1979 ทำให้ Mad Max ขึ้นหิ้งหนังแอคชั่นเลือดใหม่ที่บ้าดีเดือด พร้อมสร้างชื่อให้กับผู้กำกับแดนจิงโจ้อย่าง จอร์จ มิลเลอร์ เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง และเมื่อเขากลับมาพร้อมกับ Mad Max 2: The Road Warrior (1981) บรรดาคอหนังต่างยกให้นี่เป็นหนังแอคชั่นที่สนุกสุดขั้วที่สุด ยังคงทรงพลังและเพิ่มคุณภาพของงานสร้างเข้าไปอีก จนกระทั่งเมื่อปี 1985 Mad Max 3: Beyond Thunderdome กลายเป็นภาคสุดท้ายของความบ้าคลั่งในขณะนั้นก่อนที่มิลเลอร์จะทิ้งห่างเรื่องราวของ แม็กซ์ ร็อคคาเทนสกี้ ไปนานถึง 30 ปี! ทว่า ณ บัดนี้ เขากลับมาแล้ว พร้อมกับลูกบ้าดีเดือดที่เพิ่มมากขึ้น ด้วยทุนสร้างถึง 100 ล้านดอลลาร์ บวกกับความบ้าพลังในการสร้างของเขาที่ทะลุขีดจำกัดและใส่ใจรายละเอียดมากขึ้น ... และนี่คือ Mad Max: Fury Road  

Mad Max: Fury Road ว่าด้วยการเดินทางของ แม๊กซ์ (ทอม ฮาร์ดี้) หนุ่มสิงห์สันโดษผู้ถูกอดีตตามหลอกหลอนในโลกอนาคตอันยากไร้ เขาถูกไล่ล่าจากกลุ่มวอร์บอยผู้ถือตนครอบครองเวสต์แลนด์และหมายช่วงชิงทุกอย่างมาเป็นของตน การเดินทางสุดอันตรายในครั้งนี้ทำให้เขาได้พบกับ ฟิวริโอซ่า (ชาร์ลิซ เธอรอน) หญิงสาวใจแกร่งที่หมายกลับไปยังดินแดนของตนพร้อมกับทำทุกวิถีทางเพื่อเสี่ยงอันตรายพา “สิ่งสำคัญ” ของอิมมอร์ตั้น โจ (ฮิวจ์ คีย์ส-เบิร์น) นายเหนือหัวผู้โหดเหี้ยมไปให้จงได้ ... และนั่นคือจุดเริ่มต้นของความมันส์แบบ Non-Stop ที่จะสาดความตื่นเต้นและลุ้นระทึกไม่ยั้งตามฉบับจอร์จ มิลเลอร์ ที่ว่า “จงพูดให้น้อยแต่ใช้ภาพ(ต่อย) ให้หนัก”

 

 

การกลับมาคราวนี้ แม้มิลเลอร์จะไม่ได้ดาราคู่บุญอย่าง เมล กิ๊บสัน มาร่วมแสดง ทว่าเขาก็ได้นักแสดงเลือดใหม่ที่สร้างความร้อนบนจอได้ไม่แพ้กัน การแสดงของทอม ฮาร์ดี้ สามารถฟื้นชีวิต “แม๊กซ์” ให้กลับมาโลดเล่นได้อย่างโดดเด่นบนจอเงินอีกครั้ง พร้อมกับพกความ “ต่อยหนัก” จากนิสัยของตัวละครไปถ่ายทอดผ่านการแสดงออกทางร่างกายมากกว่าซึ่งฮาร์ดี้แสดงออกมาได้เท่ เก๋า และบ้าพลังสมกับฉายาของตัวละครอย่าง “ไอ้บ้าแม๊กซ์” ทีเดียว!

นอกจากการแสดงอันน่าชมของฮาร์ดี้แล้ว Mad Max ยังได้นักแสดงรางวัลออสการ์มากฝีมืออย่าง ชาร์ลิซ เธอรอน มาร่วมทัพเสริมความคลั่งเข้าไปอีกกับบทบาทของ ฟิวริโอซ่า นักรบแขนขาดแห่งวอร์ริค ซึ่งเธอทำมันได้อย่างน่าทึ่งมาก! จากบทนางพญาที่เธอมักได้รับกลายเป็นการต่อสู้แบบคลุกฝุ่นที่ตะลุมบอนจัดการไม่ยั้ง เธอรอนลุยไม่ถอย! ฉากต่อสู้คือสนุก มันส์ โคตรเท่ ไม่มีจังหวะช้าหรือยืดยาวให้รู้สึกเบื่อ แถมยังดูสวยงามในเวลาเดียวกันด้วย หรือจะฉากอารมณ์เธอรอนก็ทำได้ดีไม่แพ้กัน ด้วยบทพูดที่แทบจะไม่มี ทำให้เธอต้องแสดงออกผ่านสายตาและสีหน้าเพื่อสื่ออารมณ์ของตัวละคร ซึ่งเธอไม่มีพลาดและสามารถถ่ายทอดคาแรกเตอร์ของตัวละครออกมาในขณะเดียวกันได้ด้วย

 

 

นอกจากตัวละครหลักแล้ว คงหนีไม่พ้นเหล่าวายร้ายอย่างกลุ่มวอร์บอย ที่โฟกัสอย่างชัดเจนไปที่ นักซ์ (นิโคลัส ฮอล์ท) วอร์บอยอ่อนแรงที่อยากเป็นคนสำคัญ ซึ่งเราจะเห็นการเปลี่ยนแปลงของตัวละครตัวนี้อย่างเห็นได้ชัดมาก และฮอล์ทเองก็เล่นได้เป็นธรรมชาติและเข้าถึงบุคลิก “ส่วนลึก” ของตัวละครด้วย ทำให้การแสดงของเขาเมื่อไปปะทะกับตัวละครอื่นมันช่างเสริมเนื้อเรื่องและความมันส์สุดพลังให้กับเรื่องราวได้เป็นอย่างดี รวมไปถึงกองทัพนักแสดงรายอื่นที่เหมือนกับพวกเขา “เป็น” ตัวละครเหล่านั้นอยู่แล้ว เมื่อปรากฏตัวออกมา มันก็ช่างเข้ากันกับความบ้าพลังในการดำเนินเรื่องราวของมิลเลอร์สุดๆ

แม้บทจะตรงไปตรงมา ไม่มีการหักเหลี่ยมชิงโหดอะไร ทว่าการนำเสนอด้วยภาพและแนวทางในการกำกับของมิลเลอร์นั้นต้องยกให้เป็นที่สุด! ด้วยการถ่ายทำฉากแอคชั่นที่ใช้ CG น้อยมาก เน้นการเล่นจริง ระเบิดจริง ทำให้ภาพของหนังมันช่างเป็นธรรมชาติและสนุกแบบระเบิดระเบ้อสุดๆ พร้อมด้วยการครีเอทฉากต่อสู้ให้ดูล้ำเหนือความคาดหมาย สร้างความตาค้างให้กับคนดูแบบว่า “โห! แม่งสุดยอด!” และด้วยสีสันอันจัดจ้านท่ามกลางทะเลทรายที่เสริมความคลั่งให้กับหนังไปอีก บวกกับการถ่ายทำ มุมกล้องต่างๆที่เสริมอารมณ์ให้กับคนดูได้อย่างสุดตัว บอกเลยว่า โคตรมันส์!”

 

 

นอกจากนั้น การออกแบบงานสร้าง ทั้งรถที่ใช้ เครื่องแต่งกาย หรือสถานที่ ก็แสนโดดเด่น ดิบและเถื่อน รวมถึงการใส่ใจในรายละเอียดเล็กน้อยของภาพ สามารถสร้างคุณค่าและคุณภาพให้กับหนังเรื่องนี้เพิ่มขึ้นอีกมาก และที่ขาดไม่ได้เลยคือ “เพลงและดนตรี” ที่ใช้ประกอบเร้าอารมณ์ในภาพยนตร์ มิลเลอร์สามารถใส่มันลงไปได้อย่างแนบเนียนและยังใช้เป็นมุกติดตลกให้กับเราเปลี่ยนบรรยากาศด้วย และทุกครั้งดนตรีจะมาได้ถูกจังหวะ ถูกที่ถูกเวลาพร้อมด้วยเครื่องดนตรีหนักๆสไตล์ร็อคที่มิลเลอร์กล่าวว่า เหมือนกับคุณกำลังชมร็อคโอเปราอยู่แน่นอน!

Mad Max: Fury Road คือภาพยนตร์แอคชั่นผจญภัยที่ทำได้ครบทุกองค์ประกอบของความเป็นหนังแอคชั่น แค่ความมันส์สุดติ่งยังไม่พอ ยังก้าวขึ้นไปอีกระดับสู่ “ความคลั่ง” ของการไล่ล่าบนถนนโลกันตร์สุดอันตราย พร้อมด้วยเทคนิคด้านภาพและการถ่ายทำที่ทำเอาผู้กำกับระดับแนวหน้าหลายคนยังต้องทึ่งว่า “ทำได้ยังไงวะ?” บอกเลยว่า งานนี้คืองานของคนที่ลูกบ้าเต็มฮึดและอัดใส่ไม่ยั้ง ฉีกกฏของแอคชั่นสู่ความคลั่งระดับสูง! คอหนังแอคชั่นขอแนะนำรัวๆ ไม่ควรพลาดเลยล่ะ 

แมดแม็กซ์ ถนนโลกันตร์

  • 19 November 2020
  • Adventure / แอ็คชัน / ผจญภัย / ระทึกขวัญ /
  • 120 นาที
15+

ข่าวที่เกี่ยวข้อง