นักแสดงคนไหนที่มารับบทเป็นตัวละครสำคัญอย่าง แฮร์รี่ เอส. ทรูแมน ในหนัง Oppenheimer

นักแสดงคนไหนที่มารับบทเป็นตัวละครสำคัญอย่าง แฮร์รี่ เอส. ทรูแมน

ในหนัง Oppenheimer

 

 

ภาพยนตร์ของผู้กำกับ คริสโตเฟอร์ โนแลน มักจะเต็มไปด้วยทีมนักแสดงชั้นยอดอยู่เสมอ แต่ในภาพยนตร์เรื่องที่สิบสองของเขาอาจจะเรื่องที่มีทีมงานนักแสดงเต็มอิ่มมากที่สุด โดยเรื่องราวดราม่าสุดยิ่งใหญ่ในครั้งนี้จะได้ตัวหนึ่งในนักแสดงคนโปรดของ โนแลน อย่าง คิลเลียน เมอร์ฟี ในบทบาทของ เจ. โรเบิร์ต ออพเพนไฮเมอร์ ชายผู้ที่พัฒนาเทคโนโลยีที่ถูกนำไปใช้สร้างเป็นระเบิดปรมาณูในช่วงท้ายของสงครามโลกครั้งที่สอง โดย Oppenheimer หรือ ออพเพนไฮเมอร์ จะเป็นภาพยนตร์เกี่ยวกับสงครามโลกครั้งที่สอง เรื่องที่สองของเขาหลังจาก Dunkirk (2017) หรือ ดันเคิร์ก แต่ในครั้งนี้จะแตกต่างออกไป เพราะว่ามันจะเต็มไปด้วยตัวละครที่มีตัวตนจริงในประวัติศาสตร์ ที่มีส่วนในการตัดสินใจที่จะทิ้งระเบิดปรมาณูลงที่ประเทศญี่ปุ่น ในขณะที่ ออพเพนไฮเมอร์ อาจจะไม่ได้เป็นชื่อที่หลายคนจะรู้จักในทันที แต่ตัวละครประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกาอย่าง แฮร์รี่ เอส. ทรูแมน ที่รับบทโดย แกรี่ โอลด์แมน อาจจะเป็นที่รู้จักกันมากกว่า

ยอดทีมนักแสดงของ ออพเพนไฮเมอร์ ยังไม่หยุดอยู่เพียงเท่านั้น เพราะว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะประกอบไปด้วยนักแสดงอย่าง โรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์ ในบทบาทของ ลูวิส สเตราส์, เอมิลี บลันท์ ในบทบาทของ คิตตี้ ออพเพนไฮเมอร์, ฟลอเรนซ์ พิวจ์ ในบทบาทของ จีน แททล็อค และ แมตต์ เดมอน ในบทบาทของ เลสลี่ โกรฟส์ จูเนียร์ รวมไปถึงนักแสดงสมทบอย่าง รามี มาเลค, เบนนี่ แซฟดี้, จอช ฮาร์ตเน็ต, เดวิด ดัสมอลเชิน, เดน เดอฮาน, เคนเนธ บรานาห์, ไมเคิล อันการาโน่, แจ็ค เควด, จอช เพ็ก และ ทอม คอนติ ในบทบาทของ อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์

 

 

แฮร์รี่ เอส. ทรูแมน เป็นหนึ่งในคนที่มีอิทธิพลมากในพรรคเดโมแครต โดยเขาเป็นวุฒิสมาชิกสหรัฐอเมริกาจากรัฐมิสซูรี นับตั้งแต่ปี 1935 จนถึงเดือนมกราคม 1945 โดยรับใช้ชาติในสงครามโลกครั้งที่หนึ่งที่ประเทศฝรั่งเศสด้วยยศร้อยเอก และเริ่มได้รับความสนใจจากประธานาธิบดี แฟรงกลิน ดี. โรสเวลต์

ประธานาธิบดีโรสเวลต์ ทำหน้าที่เป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดยาวนานกว่าสิบสองปี ตลอดช่วงเวลาการรับตำแหน่งประธานาธิบดีต่อเนื่องสี่สมัย ในช่วงที่ยังไม่มีการจำกัดการดำรงตำแหน่งให้สูงสุดเพียงแค่สองสมัยอย่างเช่นในปัจจุบัน ในระหว่างการดำรงตำแหน่งของเขา โรสเวลต์ มีรองประธานาธิบดีถึงสามคน ได้แก่ จอห์น แนนซ์ การ์เนอร์ จากรัฐเท็กซัสที่ทำหน้าที่มาตั้งแต่ในปี 1933 ตามมาด้วย เฮนรี เอ. วอลลิซ จากรัฐไอโอวาที่มารับหน้าที่หลังจาก โรสเวลต์ ได้รับการเลือกให้ดำรงตำแหน่งเดิมอีกครั้งในการเลือกตั้งปี 1941 ส่วน แฮร์รี่ เอส. ทรูแมน ถูกเลือกให้มาทำหน้าที่เป็นรองประธานาธิบดีคนที่ลำดับที่สามและเป็นสุดท้ายของเขา โดยเริ่มทำหน้าที่ตั้งแต่เดือนมกราคา 1945 หลังจาก โรสเวลต์ ได้รับการเลือกให้ดำรงตำแหน่งอีกครั้ง

 

 

โรสเวลต์ รับหน้าที่เป็นผู้นำของสหรัฐอเมริกาในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง และได้รับความนิยมในหมู่ชาวอเมริกันเป็นอย่างสูงสำหรับคำปราศรัยทางวิทยุช่วงค่ำของเขา อย่างไรก็ตาม สุขภาพของ โรสเวลต์ ทรุดลงอย่างหนักหลังจากสงครามโลกครั้งที่สองสิ้นสุดลงและเขาก็ถึงแก่อสัญกรรมในเดือนเมษายน ปี 1945 ทำให้ ทรูแมน ขึ้นดำรงตำแหน่งเป็นประธานาธิบดีต่อโดยทันที

ทรูแมน เริ่มรับรู้ถึงการพัฒนาโครงการแมนแฮตตันอย่างลับ ๆ ในช่วงการขึ้นดำรงตำแหน่งของเขา และได้ทราบถึงความเป็นไปได้ของพลังการทำลายของมันในช่วงไม่กี่สัปดาห์ต่อมา

ในขณะที่ ทรูแมน กำลังอยู่ในการประชุมพ็อทซ์ดัมที่เบอร์ลิน เพื่อที่จะเจรจายุติสงครามร่วมกับผู้นำผ่ายสัมพันธมิตรอย่าง วินสตัน เชอร์ชิล และ โจเซฟ สตาลิน เขาก็ได้ทราบถึงความสำเร็จของการทดลองระเบิดปรมาณูครั้งแรก หรืออีกชื่อหนึ่งที่เรียกว่า การทดลองทรินิตี

 

 

โดยระหว่างการประชุมพ็อทซ์ดัมในเดือนกรกฎาคม ประเทศญี่ปุ่นก็ปฏิเสธที่จะยอมจำนนในสัญญาการสงบศึก ฝ่ายสัมพันธมิตรจำวางแผนที่จะรุกรานญี่ปุ่น แต่ว่าความกังวลต่อการสูญเสียของทั้งสองฝ่ายจากการรุกรานในครั้งนี้ของ ทรูแมน จึงทำให้เขาอนุญาตให้มีการใช้อาวุธนิวเคลียร์ ต่อมาเมืองฮิโระชิมะและนางาซากิจึงถูกทิ้งระเบิด พร้อมกับการสูญเสียชีวิตของประชาชนชาวญี่ปุ่นกว่า 105,000 คน ตามด้วยการุกรานแมนจูเรียของสหาภาพโซเวียต ทำให้ญี่ปุ่นยอมยกธงขาวในสงครามครั้งนี้

โดยนี่จะไม่ใช่ครั้งแรกที่ โอลด์แมน ปรากฏตัวในภาพยนตร์ของ โนแลน เช่นเดียวกันกับที่จะไม่ได้เป็นครั้งแรกที่เขามีบทบาทในภาพยนตร์ที่เกี่ยวข้องกับสงครามโลกครั้งที่สอง โดย โอลด์แมน รับบทเป็น เจมส์ กอร์ดอน ในไตรภาคอัศวินรัตติกาลของ โนแลน และต่อมาเขาก็ชนะรางวัลออสการ์สาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยมจากการรับบทเป็น วินสตัน เชอร์ชิล ในภาพยนตร์ Darkest Hour  (2017) หรือ ชั่วโมงพลิกโลก ซึ่งเป็นภาพยนตร์ที่มีฉากหลังอยู่ในช่วงเดียวกันกับที่ โนแลน ใช้ในภาพยนตร์ ดันเคิร์ก แตกต่างกันเพียงแค่ประเด็นที่ภาพยนตร์ทั้งสองเรื่องให้ความสัมพันธ์เท่านั้น

ออพเพนไฮเมอร์ หรือ Oppenheimer กลับมาเข้าฉายในโรงภาพยนตร์อีกครั้งแล้ววันนี้

 

สำหรับแฟนหนังเมเจอร์ ห้ามพลาดกับบัตรดูหนังสุดคุ้ม M PASS ที่จะทำให้คุณคุ้มเต็มอิ่มกับการดูหนังตลอดทั้งปี เตรียมไปมันส์กับกองทัพหนังดังมากมาย สมัครง่ายๆเพียงแค่คลิก ที่นี่ 

ขอบคุณข้อมูลจาก Collider