ไทม์ไลน์และวิธีการดู Star Wars สำหรับมือใหม่หัดท่องอวกาศ
Star Wars ถือเป็นหนังมหากาพย์ระดับจักรวาลที่ฉายบนจอภาพยนตร์ 2 ไตรภาค และได้รับการยอมรับว่าเป็นหนังอวกาศไซไฟ-แฟนตาซียุคบุกเบิกของแท้ หลังจากปีที่แล้ว Star Wars Episode VII: The Force Awakens หรือ อุบัติการณ์แห่งพลัง ได้ระเบิดปรากฎการณ์มหาสงครามอวกาศให้กับมารุ่งโรจน์อีกครั้ง นอกจากนี้ยังมี หนังภาคแยก rogue one star wars story มาเป็นตัวขยายจักรวาลอีก
วันนี้เมเจอร์ซีนีเพล็กซ์ขอแนะนำวิธีการดูหนังเรื่อง Star Wars ให้ได้อรรถรส รวมถึงไทม์ไลน์ของการฉายหนังที่ค่อนข้างแตกต่างจากหนังมหากาพย์เรื่องอื่นๆ เพราะหนังฉายเรียงกันโดยเริ่มจากภาค 4 5 6 (เรียกว่าไตรภาคเดิม) ซึ่งเป็นช่วงยุทธการยาวิน (สงครามการปะทะกันระหว่าง จักรวรรดิกาแลกติกและกองกำลังกบฏ )หลังจากจบ3 ภาคนี้ได้มีการฉายภาค 1 2 3 (เรียกว่าไตรภาคต้น)เป็นเรื่องราวก่อนเกิดยุทธการยาวินและชนวน รวมถึงจุดกำเนิดของตัวละครต่างๆ ซึ่งการดู สตาร์วอร์ส ย้อนหลังสามารถ ดูได้ 2 แบบ
แบบที่ 1 :: ดูแบบตามไทม์ไลน์อิงจากยุทธการยาวิน
เอพพิโซด I: ภัยซ่อนเร้น >> เอพพิโซด II: กองทัพโคลนส์จู่โจม >> เอพพิโซด III: ซิธชำระแค้น >[rogue one star wars story คั่นกลาง]> เอพพิโซด IV: ความหวังใหม่ >> เอพพิโซด V: จักรวรรดิเอมไพร์โต้กลับ >> เอพพิโซด VI: การกลับมาของเจได >> Star Wars Episode VII: The Force Awakens >> Star Wars: Episode VIII The Last Jedi
ข้อดีของการดูเรียงตามไทม์ไลน์นี้จะทำให้เราเข้าใจเรื่องราวทั้งหมดได้ง่ายยิ่งขึ้นและรู้สึกได้เดินทางไปกับทุกตัวละคร สามารถเชื่อมโยงความเป็นมาของเหตุการณ์ได้โดยไม่งง แต่การดูแบบนี้ก็มีข้อเสียตรงที่ ด้วยความที่เราดูแบบนี้ซึ่งเป็นการสวนทางกับไทม์ไลน์การฉาย จะทำให้ภาพของหนังในไตรภาคต้นดูทันสมัยในด้านเทคนิคมากกว่าหนังในไตรภาคเดิม เพราะเทคโนโลยีการถ่ายทำต่างกันมาก ที่สำคัญคือการดูแบบเรียงตามไทม์ไลน์จะทำให้เราไม่รู้สึกตื่นตาตื่นใจไปกับเนื้อเรื่องเพราะมันจะถูกเฉลยไปเลยตั้งแต่แรก เช่น ความสัมพันธ์ระหว่างดาร์ธ เวเดอร์ กับ ลุค สกายวอล์คเกอร์, ความสัมพันธ์ของโอบีวัน กับดาร์ธ เวเดอร์ จุดกำเนิดของดาร์ธเวเดอร์ ทำให้คนที่ดูแบบนี้รู้สึกเหมือนเปิดอ่านหนังสือเพื่อสัมผัสเรื่องราวและติดตามไปเรื่อยๆเท่านั้น
แบบที่ 2 :: ดูตามไทม์ไลน์การฉาย
เริ่มที่ เอพพิโซด IV: ความหวังใหม่ >> เอพพิโซด V: จักรวรรดิเอมไพร์โต้กลับ >> เอพพิโซด VI: การกลับมาของเจได>> เอพพิโซด I: ภัยซ่อนเร้น >> เอพพิโซด II: กองทัพโคลนส์จู่โจม >> เอพพิโซด III: ซิธชำระแค้น
Star Wars Episode VII: The Force Awakens >> rogue one star wars story (ภาคแยก) >> Star Wars: Episode VIII The Last Jedi
ข้อดีของการดูแบบนี้คุณจะได้ตื่นเต้นไปกับความสัมพันธ์ของตัวละครที่ได้รู้พร้อมกัน แถมจะดูสนุกกว่าด้วยเพราะไม่รู้สึกโดนสปอยล์มาก่อน รวมถึงจะได้เห็นพัฒนาการของ CGI และ เทคนิคการถ่ายทำที่ค่อยเริ่มจากแบบล้าสมัยไปจนถึงอลังการในยุคสมัยนั้น แต่ข้อเสียสำหรับการดูแบบนี้คือ ทำให้บางอย่างเรายัง งง กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่มันจะกระตุ้นให้เราอยากดูภาคต่อๆไปเพื่อหาคำตอบของเหตุการณ์นั้น ก่อนที่จะมาเริ่มในไตรภาคใหม่ อุบัติการณ์แห่งพลังที่เป็นช่วงเวลากว่า 40 ปี หลังยุทธการยาวิน