คนตายทำบุญ

หมวดอ๊อดภารกิจ ต.ช.ด.ลาดตระเวณชายแดนส่งลูกน้องปราบขบวนยาเสพติด อยู่ทำภารกิจชายแดนหลายปี ห่างพ่อแม่มานาน จึงขอย้ายกลับเข้ากรุงเทพฯ หลายปีต่อมาย้ายตำแหน่งเป็นจเรตำรวจ พ่อกับแม่ก็เป็นกำลังใจให้ลูกชายตลอด ส่วนลูกสาว อี๊ดไม่ค่อยจะถูกกับหมวดอ๊อดนัก หมวดอ๊อดเป็นคนที่โผงผางไม่ชอบใส่เครื่องแบบตำรวจ วันหนึ่งมุมานะสอบเป็นทนายความ สำเร็จ พ่อแม่มาเป็นกำลังใจให้ พ่อกับแม่อยากอุ้มหลาน หมวดอ๊อด บอกกับพ่อแม่ว่าขออยู่ดูแลพ่อแม่ ดีกว่าไม่อยากให้มีปัญหากับลูกสะใภ้ พ่อกับแม่ทั้งสองเป็นคนชอบทำบุญ หลายปีต่อมาพ่อกับแม่ก็ตายจากโรคภัย หมวดอ๊อดใช้ชีวิตอยู่บ้านคนเดียวไม่ สมาคมกับคนข้างบ้าน วันหนึ่งหมวดอ๊อดถูกฆ่าตายในบ้าน ญาติไม้รู้เลยเป็นเวลา 6 เดือน และทางญาติรู้เข้าทำให้ทุกคนเสียใจ โดยเฉพาะพี่สาว ส้มปรึกษากับแม่แล้วว่าบ้านของน้าหลังนี้เอาไปถวายให้กับหลวงพ่ออนงค์ ส้มเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อในการปฎิบัติธรรม หลวงพ่ออนงค์บอกให้นัดแนะเครือญาติให้ไปนั่งสมาธิที่บ้านผู้ตายกันก่อน ทุกคนปฎิบัติตาม หลวงพ่ออนงค์พาทุกคนนั่งสมาธิสื่อสารจิตกับผู้ตาย มีว่าต้องการถวายที่ดินให้กับวัด ส้มบอกว่าตอนนี้ที่ขายยาก จิตผู้ตายสื่อบอก ให้ส้มไปจัดแจงขึ้นศาลเป็นผู้จัดการมรดกก่อน ส่วนที่ดินผีจะเป็นคนขายเอง การนั่งสมาธิของหลวงพ่อล่วงรู้ในนิมิตว่า หมวดอ๊อดถูกฆ่าปาดคอตาย แล้วใช้มนต์ดำปกปิดเอาไว้ เพื่อกักขังวิญญาณ และไม่ให้ใครได้กลิ่นซากศพเลยทั้งๆที่อยู่ในชุมชน ผู้กองมณฑปมีสีหน้าตกใจ เพราะภาพที่เห็นช่วงที่ผู้กองไปพบศพนั้นเปิดประตูเข้าไปหัวกะโหลกก็หลุดมาจากคอ เนื่องจากทางตำรวจพิสูจน์การตายไม่ได้ คุณส้ม พร้อมครอบครัวได้ตกลงกันเงินที่ได้จากการขายที่ 3 ล้าน ทำเป็นกฐิน 70 ผ้าป่า 30 เปอร์เซ็นมอบให้กับวัด หลายเดือนต่อมาวิญญาณของผู้ตาย อยากทำบุญโดยสื่อสารมากับหลวงพ่ออนงค์บอกให้ญาติจัดพิธีบวชนาคหมู่ให้แด่ตนที่เสียชีวิตไปแล้วแต่ดวงวิญญาณยังอยู่ต้องการทำบุญต่อไป คดีของหมวดอ๊อดก็ต้องถูกปกปิดจากการตายแบบปริศนาต่อไปเพราะหลวงพ่อ อนงค์ บอกอย่าไปจองเวรกันให้เรื่องมันจบเพียงนี้ผู้ตายก็ตายไปแล้ว