หนังเต็งรางวัลลูกโลกทองคําและออสการ์
เบนเน็ท มิลเลอร์, สตีฟ คาเรลล์, แชนนิง ทาทัม, มาร์ค รัฟฟาโล
สตีฟ คาเรลล์ และ แชนนิง ทาทัม สองนักแสดงที่ร่วมงานกันในโปรเจคภาพยนตร์เรื่อง “Foxcatcher” ผลงานจาก เบเน็ท มิลเลอร์ ผู้กํากับ “Moneyball มันนี่บอล” เมื่อพูดถึงผู้กํากับฝีมือเยี่ยมที่สุดในยุคนี้ เบนเน็ท มิลเลอร์ ถือเป็นอีกหนึ่งที่ชื่อเราลืมไม่ได้ ด้วยผลงานที่ผ่านมาของเขาอย่าง "Capote คาโปเต้ " และ “Moneyball มันนี่บอล" ซึ่งกวาดทั้งรางวัลและคําชมมาแล้วอย่างมากมาย ภาพยนตร์ทั้งสองเรื่องแม้จะมีความแตกต่างกัน แต่ก็นําเสนอให้เห็นถึงการค้นหาลึกเข้าไปในจิตใจของมนุษย์ ซึ่งเป็นบุคคลที่มีอยู่จริงและเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงและทรงอิทธิพล ซึ่งทําให้ผลงานภาพยนตร์เรื่องล่าสุซึ่งเป็นแนวดรามาและมีเนื้อหาเกี่ยวกับวงการกีฬาของเขานั้นก็ยังคงมีแนวทางแบบนี้ด้วยเช่นกันแม้ว่าในตอนแรกจะมีการวางแผนไว้ว่าจะเข้าฉายในเดือนธันวาคม 2013 แต่ภาพยนตร์เรื่องมันนี่บอลนั้นได้เปิดตัวเป็นครั้งแรกในงานเทศกาลภาพยนตร์คานส์ของปี 2014 เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ด้วยกลยุทธ์ที่ทําให้ภาพยนตร์ได้กลายเป็นภาพยนตร์แถวหน้าในช่วงเทศกาลประกาศรางวัล ภาพยนตร์เรื่องนี้นําแสดงโดยแชนนิง ทาทัม รับบท มาร์ค ชูทส์ นักกีฬามวยปล้ําผู้ชนะการแข่งขันกีฬาโอลิมปิคซึ่งเข้ามาอยู่ภายใต้การได้รับการสนับสนุนจาก จอห์น ดู ปองท์ (สตีฟ คาเรลล์) มหาเศรษฐีที่ให้ความสนใจกบผลงานของชูทส์และพี่ชายซึ่งเป็นนักกีฬามวยปล้ํา เช่นเดียวกับเขาอย่าง เดฟ (มาร์ค รัฟฟาโล) เมื่อชูทส์ถูกดึงดูดด้วยโอกาสที่ดู ปองท์มอบให้แก่พวกเขา แต่อีกด้านหนึ่งที่อันตรายของมหาเศรษฐีผู้นี้ก็ค่อยๆถูกเปิดเผยออกมาเรื่อยๆ
Q : เบนเน็ท มิลเลอร์ สนใจใน Foxcatcher (ฟ็อกซ์แคชเชอร์) เพราะเขาคิดว่าเรื่องจริงนั้นตลกร้ายยิ่งกว่าหนังเสียอีก
เบนเน็ท มิลเลอร์: ผมกํากับภาพยนตร์เรื่องนี้ โดยพยายามที่จะไม่เปิดเผยเรื่องราวเหตุการณ์จริงที่ทําให้ "Foxcatcher" กลายเป็นเรื่องราวที่น่าสนใจในการสร้างเป็นภาพยนตร์ มิลเลอร์เปิดเผยว่าครั้งแรกที่เขาได้ยินเกี่ยวกับเรื่องราวของพี่น้องชูทส์และ ดู ปองท์จากเพื่อน ผู้ซึ่งส่งบทความมาให้เขาอ่าน “มันน่าขันครับ นี่คือเรื่องราวแบบดาร์คและตลกร้ายของมหาเศรษฐีชาวอเมริกาผู้ซึ่งพาทีมนักกีฬานักมวยปล้ํามาอยู่ในความดูแลของเขา เพื่อฝึกซ้อมทั้งๆที่เขาไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับมวยปล้ําซักนิด มันตลกครับ” มิลเลอร์เปิดเผย “ยกเว้นเรื่องเดียวคืออยากมีชื่อเสียงและเป็นที่ยอมรับผลลัพธ์ที่ออกมานั้นเลวร้ายมาก”
Q : ได้ยินมาว่าคุณทํางานหนักเพื่อให้บท จอห์น ดู ปองท์ ที่รับบทโดย สตีฟ คาเรลล์ ออกมาสมบูรณ์ที่สุด
เบนเน็ท มิลเลอร์: นอกเหนือจากการใช้จมูกปลอม การลดน้ําหนัก สตีฟ คาเรลล์ ยังต้องศึกษาฟุตเทจที่ จอห์น ดู ปองท์ เคยถ่ายทําสารคดีเกี่ยวกับตัวเขาเอง ที่รับหน้าที่เป็นโค้ชให้แก่นักกีฬามวยปล้ําที่มาอาศัยอยู่กับเขา ซึ่งคาเรลล์ก็ได้ดูสารคดีเรื่องนี้เพื่อเตรียมตัวสําหรับบทบาท โดยในสารคดีได้เผยให้เห็นดู ปองท์ ที่คอยสอนทีมนักกีฬาของเขา และคาเรลล์ก็ได้เลือกที่จะจดจําบทพูดเหล่านั้น เพื่อสร้างตัวตนของดู ปองท์ในแบบของเขาออกมาสําหรับการแสดงหน้ากล้อง แชนนิง ทาทัมก็ทําการค้นคว้าเช่นกัน
แชนนิ่ง เททั่ม: ตัวละครของผม มาร์ค ชูทส์ ถือได้มามีส่วนสําคัญมากสําหรับแก่นด้านอารมณ์ของภาพยนตร์ สิ่งที่ผมคิดว่าผมโชคดีกว่าคนอื่น ๆ ก็คือ ในช่วงของการถ่ายทําผมมีโอกาสได้พบกับ มาร์ค ชูทส์ตัวจริง ผมและมาร์ค รัฟฟาโลเดินตามหลังเขา และมาร์คก็พูดขึ้นว่า ‘ดูท่าเดินของเขาสิ’ มันเป็นอะไรที่สื่อสารออกมาได้อย่างดี ว่าชีวิตของเขาเคยผ่านอะไรมาบ้าง”
Q: บท จอห์น ดู ปองท์ ทําให้ สตีฟ คาเรลล์ กลายเป็นนักแสดงขายฝีมือสําหรับฮอลลีวู้ดไปแล้ว คุณคิดว่า การพลิกบทบาทจากการแสดงตลกมารับบทดราม่า ต้องเตรียมตัวมากแค่ไหน
สตีฟ คาเรลล์: จริงๆแล้วมันคล้ายกันในแง่ของการเตรียมตัวและทําความเข้าใจนะครับที่เราจะต้องทํามันให้ถึงบทบาทให้ดีที่สุดเท่าที่จะทําได้ สําหรับบท จอห์น ดู ปองท์ ผมต้องดูวิดีโอ มากถึง 200 ม้วนเพื่อเลียนแบบท่าทางของเขา และต้องรู้ว่าโทนของตัวละครแบบไหรนที่คุณจะแสดงออกมา และเมื่อคุณไปถึงจุดนั้นได้ คุณจะต้องพยายามลืมทุกสิ่งที่คุณเตรียมการมา แค่ทํามันออกมาให้ดูจริงที่สุด
Q : Foxcatcher ไปคว้ารางวัลผู้กํากับยอดเยี่ยมมาจากเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ปีล่าสุด และได้รับเสียงปรบมือ สแตนดิ้ง โอเวชั่น ยาวนานกว่า 5 นาที ทุกคนต่างพูดถึงการแสดงของ สตีฟ คาเรล และ ของคุณ ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคํา และมีสิทธิ์ อย่างมากที่จะคว้ารางวัล ออสการ์ปีนี้มาครอง คุณกดดันมากแค่ไหนกับคําพูดประโยคนี้
มาร์ค รัฟฟาโล่: เป็นเรื่องธรรมดาที่พวกเขาจะคาดหวังครับ เบนเนท มิลเลอร์ เป็นผู้กํากับที่เก่ง ผมชอบ Moneyball มาก และคิดว่า Foxcatcher มีบางส่วนที่คล้าย Moneyball แต่สิ่งที่เหนือกว่าก็คือเรื่องของความสะเทือนอารมณ์ และความระทึก ส่วนตัวแล้วผมเชียร์ สตีฟ คาเรล บทของเขาใน Foxcatcher ยอดเยี่ยมมาก และเขาก็ถ่ายทอดสิ่งที่ตัวละครเป็นออกมาได้ดี
Q: ถ้าปีนี้คุณมีโอกาสได้ขึ้นไปยืนบนโพเดี่ยมเวทีอะคาเดมี่อวอร์ดอีกครั้ง คุณอยากจะพูดอะไรกับผู้ชมเป็นพิเศษไหม
มาร์ค รัฟฟาโล่: ก็คงอยากจะขอบคุณผู้ร่วมงานทุกคน คนที่ทําให้ผม เป็นผมมาได้ทุกวันนี้ แต่เหนืออื่นใด ผมภูมิใจนะที่จะมีคนจําผมได้จากบทบาทอื่นนอกจากบทของ เดอะ ฮัค
ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม นักแสดงนําชายยอดเยี่ยม นักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม
ภาพยนตร์มีกําหนดเข้าฉายในไทย 8 มกราคม 2015