HIGHLIGHT CONTENT

บทสัมภาษณ์ "เดี่ยว-ชูพงษ์ จาก เร็วทะลุเร็ว" ค่ะ -- ฝากด้วยนะคะ ขอบคุณมากค่ะ

  • 6,989
  • 29 ต.ค. 2014

บทสัมภาษณ์แอ็คชั่นสตาร์คนใหม่ของเมืองไทย “เดี่ยว-ชูพงษ์ ช่างปรุง” กับบทบาทมือสังหารในอภิมหาภาพยนตร์แอ็คชั่น เร็วท้าทุกความระห่ำ แรงกระหน่ำทะลุขีดความตาย “เร็วทะลุเร็ว”

บทบาท-คาแร็คเตอร์ใน “เร็วทะลุเร็ว” “นที” จะเป็นผู้ชายที่จมอยู่กับเรื่องราวในอดีต จะมีปมตั้งแต่เด็กคือ พ่อกับแม่โดนฆ่าต่อหน้าต่อตา ทำให้เขาจมอยู่กับอดีตและคำถามที่ว่า ใครเป็นคนฆ่าพ่อแม่ของเขา!!  นทีเลยต้องทำทุกอย่างเพื่อสืบหาความจริง และผันตัวเองไปเป็นมือปืน เพื่อแลกกับการสืบหาเบาะแสคนที่ฆ่าพ่อแม่ของเขา ความแปลกใหม่ในการร่วมงานในโปรเจ็คต์นี้ คือโปรเจ็คต์นี้พี่พันนาคุยให้ได้ฟังมานานแล้วครับ ตอนที่ได้ฟังคอนเซปต์แล้วรู้สึกว่ามันฉีกจากทุกเรื่องของพี่พันนา คือ มีทุกรสชาติในหนังเรื่องนี้ มีเรื่องราวให้ลุ้น บวกกับแอ็คชั่นดีไซน์ใหม่ๆร่วมสมัย ที่ฟังแล้วรู้สึกโหดมาก เพราะหนังเป็นแนวเรียลแอ็คชั่น พอฟังที่พี่พันนาบอกจะเล่นทันที ดีใจมากครับที่พี่พันนามอบโอกาสนี้ให้ เพราะเราได้ยินแกพูดมานาน เรื่องราว ซีนแอ๊คชั่นที่แกจะทำใน “เร็วทะลุเร็ว” ทำให้เราสนใจ อีกอย่างหนึ่งคือ แอ็คชั่นของเราก็เป็นแอ็คชั่นที่ดีไซน์การต่อสู้ให้มันส์และเสี่ยงตาย บวกกับการใช้อาวุธต่างๆเข้ามาเสริมทำให้ยิ่งยากมากขึ้น แล้วก็ทำยากมากๆ ทำให้เรารู้สึกว่าท้าทายความสามารถของเราที่จะทำให้สำเร็จให้ได้ ใน “เร็วทะลุเร็ว” ถือเป็นการได้กลับมาร่วมงานกับผู้ที่ให้กำเนิดเราในเส้นทางนักบู๊  “พันนา ฤทธิไกร” อีกครั้งในรอบ 10 ปีอีกด้วย คือตั้งแต่ “เกิดมาลุย” เรื่องแรก เรื่องนี้ก็ได้มาร่วมงานกันเต็มๆ อีกครั้ง เกิดมาลุยคือตั้งแต่แรกที่ผมได้มีโอกาสเข้ามาในวงการนี้ จนมาเรื่องนี้เหมือนเป็นการครบรอบ 10 ปี จากเกิดมาลุยถึง “เร็วทะลุเร็ว” คือ 10 ปีพอดีครับ รู้สึกดีใจที่ได้ร่วมงานกับอาจารย์ของเราอีกครั้ง บทบาท “นที” มือสังหารในเรื่องนี้ ถือว่าแตกต่างจากเรื่องอื่นๆ อย่างไร ต่างครับ เพราะจะออกแนวเป็นผู้ชายที่เก็บกดเงียบๆ ไม่ค่อยพูด แต่ความจริงเขาจะคิดเยอะมากเพราะมีปมในใจ เรื่องราวในอดีตทำให้เขาต้องอยู่กับตัวเอง คืออยากรู้ว่าทำไมในอดีตเราต้องเป็นแบบนี้ ทำไมพ่อแม่เราถึงต้องเป็นแบบนี้ ทำให้เราต้องจมอยู่กับอดีตไม่ยอมเปิดรับอะไรใหม่ๆ ใช้ชีวิตอยู่แต่กับครอบครัวอย่างเดียวก็คือ อาหนอม (พิง ลำพระเพลิง) แล้วก็ธาร (วุฒิ นันทวุฒิ) น้องชาย ซึ่งเขามุ่งมั่นพยายามคิดทำทุกทางและ พยายามสืบหาเบาะแสตลอดเวลา พยายามถามคนรอบข้างอย่างอาหนอมตลอดว่าทำไมพ่อกับแม่ถึงโดนฆ่า ต้องมีการเตรียมตัวกับบทบาทที่ได้รับอย่างไรบ้าง ต้องไปฝึกเรียนการใช้ปืน ต้องเรียนมีด ทีมงานก็ส่งผมไปที่อรินทราชครับ คือผมก็มีทักษะมาบ้างแล้วตั้งแต่เล่นเกิดมาลุย หรือกับหลายๆ เรื่องที่ต้องมีการต่อสู้ด้วยอาวุธ การเตรียมตัวเพื่อทบทวนและเพิ่มเติม อย่างในเรื่องนี้จะเป็นการต่อสู้แบบประชิดตัว ก็ใช้อาวุธทุกอย่างหรือสิ่งรอบตัวเรา ให้เป็นประโยชน์ ให้เป็นอาวุธได้ ก็เลยต้องไปฝึกประมาณหนึ่งเดือนครับ เรื่องราวของ “เร็วทะลุเร็ว” หนังเรื่องนี้ก็พูดถึงชีวิตและวิถีของมือปืน จะมีเรื่องราวของมิตรภาพพี่น้อง ความรัก การล้างแค้น เดิมพันด้วยชีวิต อย่างตัวนทีเองคือมือสังหารตามใบสั่ง แต่ก็มีจุดหักเหอยู่ที่พลอย (นิศาชล) คือตั้งแต่นทีเป็นมือปืนเค้าก็กลายเป็นคนเก็บกด อยู่กับตัวเอง แต่ว่าพอได้เจอกับพลอยทุกอย่างก็เริ่มเปลี่ยนแปลงไป จากตอนแรกได้รับคำสั่งให้ปกป้องพลอยเพื่อให้รอดจากการลอบสังหาร แต่แล้วคำสั่งดันเปลี่ยนจากคุ้มครองให้ฆ่าพลอย แต่นทีก็ทำไม่ได้เพราะลึกๆเกิดมีความรู้สึกดีกับพลอย ทำให้นทีไม่กล้าฆ่าพลอย แล้วก็โดนคนที่จ้างโยนความผิดให้เป็นแพะรับบาป จากปกป้องก็กลายเป็นแพะ ทำให้เราต้องพากันหนีจากการตามล่า ปกป้องคนที่เรารักอย่างพลอยและธาร พร้อมกับต้องสืบความจริงว่าใครเป็นคนฆ่าพ่อกับแม่ไปด้วย เรื่องนี้ถือว่าเป็นการรวมเอาทีมงานออกแบบคิวบู๊ และทีมสตั๊นท์ระดับอินเตอร์มารวมไว้มากที่สุด ใช่ครับ ก็มีทั้งทีมของพี่เซ้ง (กวี ศิริคะเณรัตน์-ผู้ควบคุมฉากเสี่ยงตาย) ที่เคยไปทำหนังบู๊ของฮอลลีวู้ดมาแล้วหลายเรื่อง รวมไปถึงทีมงานออกแบบคิวบู๊ที่อยู่เบื้องหลังงานแอ็คชั่นของไทยมากว่า 10 ปี แล้วก็ทีมสตั๊นท์ระดับอินเตอร์มากมาย รวมถึงทีมสตั๊นท์ “ไฟท์ติ้งคลับ” จากเรื่อง “โคตรสู้ โคตรโส” ที่ไปคว้ารางวัลสตั๊นท์ยอดเยี่ยม จากเทศกาลภาพยนตร์ แอคชั่น เฟสต์ 2011 ประเทศสหรัฐ มา ก็มาร่วมเสี่ยงตายในหนังเรื่องนี้ด้วย   ผมว่าทุกคนทำกันด้วยใจจริงๆ เพราะทุกซีนของหนังเรื่องนี้ถือว่าเสี่ยงแล้วก็อันตรายมาก ทำให้บางคนคิดว่าไม่น่าไหว แต่ทุกคนก็รวมพลังทำให้มันผ่านไปได้ด้วยดี ต้องใจเท่านั้นที่จะทำให้มันผ่านไปได้ เพราะว่าถ้าเราไม่มีใจกับที่จะทำก็ไม่สามารถทำให้มันผ่านไปได้ เพราะทุกคนลงใจลงแรงให้กับหนังเรื่องนี้ ทำให้ทุกซีนออกมาได้ด้วยดีแล้วก็ปลอดภัย บางทีคนคิดมันคิดได้ แต่ถ้าทีมของเราไม่แข็ง ก็ไม่สามรถจะตอบโจทย์กับไอเดียของคนได้ ในเรื่องนี้พี่พันนายังได้ดึงความสามารถหรือเค้นอะไรในตัวเราออกมาอีกหรือเปล่า ผมว่าก็มีหลายอย่างนะครับ เพราะว่าพี่พันนารู้ศักยภาพของทุกคน ว่าคนนี้สามารถที่จะเล่นอะไรได้ อย่างที่มีซีนฟุตบอลแอ็คชั่นขึ้นมา เพราะพี่พันนารู้ว่าผมเป็นคนที่ชอบเล่นฟุตบอล แกก็ดึงศักยภาพจากสิ่งที่ผมน่าจะทำได้ แล้วในเรื่องก็ต้องมีแสดงแอ็คติ้งหนักมาก  อย่างพี่พิงก็ช่วยเราได้เยอะมาก เพราะว่าถ้าเราเล่นกันสองคนแล้วคนที่ส่งให้เล่นไม่ได้ เราก็ไม่สามารถที่จะเล่นออกมาได้ เล่นกับพี่พิงแล้วเรารู้สึกว่าเขาเหมือนอาเราจริงๆ ทำให้มีห้วงความรู้สึกนิดนึงว่ามันอินจริงๆ อย่างพี่พันนา เค้าก็จะคอยมาบอกว่าประมาณนี้นะเดี่ยวนะ คือแกจะพูดให้ฟังโดยรวมก่อนว่า พี่ต้องการแบบนี้นะ เรื่องราวมันจะประมาณนี้ เดี่ยวต้องพยามคิดแล้วก็ทำออกมานะ นักบู๊ดาวรุ่งที่น่าจับตา “วุฒิ นันทวุฒิ” ที่ต้องมาประชันลีลาแอ๊คชั่นกันในหนังเรื่องนี้ อย่างวุฒิผมเห็นเขามาตั้งแต่เด็ก ตั้งแต่ตัวเล็กๆ เคยได้สอนมวย สอนยิมนาสติกให้ ทำให้เราไม่มีปัญหาเรื่องสิ่งต่างๆ คือเราสนิทกันอยู่แล้ว ทำให้การทำงานมันง่ายมาก คือคุยกันนิดเดียวรู้เรื่องเลย เราบอกว่าต้องการแบบนี้ๆ นะ วุฒิก็บอกโอเคได้พี่ ส่วนเรื่องของฝีมือไม่ต้องห่วงอยู่แล้ว เพราะวุฒิฝึกมาตั้งแต่เด็ก ฝึกมาเป็นสิบปีแล้ว เรื่องแอ็คชั่นเขาเป๊ะอยู่แล้ว แล้วอีกอย่างวุฒิพักมานาน  คือใจเขามันมีพลังที่อยากจะทำ คือมันทำให้มีแรงขับมากสำหรับวุฒิ ทำให้ในเรื่องนี้เค้าเล่นได้ดีมาก คือสนิทกันอยู่แล้วมันทำให้เราไม่เขินกัน รู้สึกว่าเค้าเป็นน้องเราจริงๆ  สาวน้อย “เมย์ นิศาชล” ที่ได้มาประเดิมเป็นนางเอกให้กับหนังเรื่องนี้เป็นครั้งแรก ผมว่าน้องเมย์โอเคเลยครับ สำหรับผม ผมคิดว่าน้องเป็นคนที่สู้ เพราะว่าเขาเป็นเด็กตัวเล็กๆ เวลาที่เราต้องเล่นอะไรหนักๆ กับเขา เราก็กลัวเขาเจ็บกลัวเขาเป็นอันตราย ทำให้เราก็ไม่กล้าเล่นบ้าง แต่ว่าน้องสู้มาก อย่างมีฉากหนึ่งที่เราต้องผลักเค้าแรงมาก อัดกับตู้ ผมก็รู้สึกผิดมาก เล่นไปแล้วรู้สึกผิดเลย น้องก็บอกไม่เป็นไรๆ ยอมรับว่าน้องสู้มาก สปิริตก็สูงมาก แล้วก็ไม่บ่นเลย คือเค้าเป็นคนที่สนุก แล้วเวลาเล่นกับเค้าก็ไม่เกร็ง ทำให้เราปล่อยการแสดงออกมาได้เต็มที่ เวลาที่เราเล่นก็รู้สึกว่าเป็นธรรมชาติมากขึ้น นักแสดงสุดเซอร์ไพรส์ที่อิมพอร์ตมาจากแดนมังกร “อ.ซีฟู” แกเป็นคนที่สุดยอดมาก ผมว่าเป็นประสบการณ์ใหม่ๆ ที่ได้ร่วมงานกับเขา ผมก็ได้คลุกคลี เขาได้สอนมวยไทชิ ที่คล้ายๆ กับไทเก๊ก แล้วการต่อสู้ระยะประชิดแกก็เก่งมาก เราก็ขอคำปรึกษาจากแกได้ทุกอย่าง แล้วก็สอนไม่มีหวงวิชาเลย สำคัญคือเขาคือของจริง หมัดอย่างกะเหล็ก ขนาดใส่มาค่ 20-30 เปอร์เซนต์ เรารู้สึกเหมือนคนที่เป็นวัยรุ่นชกเราเลย แต่เขาเล่นแบบนิดเดียว แต่ความแรงเหมือนเราต่อยกันจริงๆ คือถ้าโดนหน้าก็คงบวม ก็รู้สึกเป็นประสบการณ์ที่ดีมากที่ได้ร่วมงานกัน แล้วแอ็คชั่นของแกก็สุดยอด คนอายุเกือบ 80 แล้วเล่นขนาดนี้ ผมว่าหาไม่ได้แล้วครับ   ความมันส์ระห่ำและการดีไซน์ฉากแอ๊คชั่นใหม่ที่อยู่ใน “เร็วทะลุเร็ว” ผมคิดว่าความน่าสนใจของภาพยนตร์เรื่องนี้ ถ้าพูดถึงแอ็คชั่นนี่ไม่ต้องห่วงเลย เพราะว่ามันเป็นดีไซน์ใหม่ทั้งนั้น คือมันจะมีรสชาติใหม่ๆ ที่อยู่ในภาพยนตร์เรื่องนี้ เรื่องราวที่เข้มข้นบวกกับฉากเสี่ยงตายที่มีให้เห็นในหนังของพันนา ฤทธิไกร เท่านั้น หลายๆ ฉากที่เห็นเพียงไม่กี่นาที แต่กว่าจะได้ออกมาเป็นภาพที่เห็นผ่านการเตรียมงานกันหลายเดือน สตั๊นท์ทุกคนก็ทุ่มกันสุดตัวแบบไม่กลัวตายเหมือนเดิม   ฉากเปิดเรื่องที่ผู้กำกับพันนาดีไซน์ลีลาแอ็คชั่นเข้ากับกีฬาฟุตบอล ก็สำหรับฉากฟุตบอลแอ็คชั่น ก็ถือเป็นฉากเปิดเรื่อง เป็นคอนเซปต์ที่ใหม่และน่าดูมาก เพราะมีองค์ประกอบหลายอย่าง ทั้งฝุ่นทั้งไฟทั้งน้ำ ทำให้หนังมีมิติแล้วก็น่าดูมากขึ้น ส่วนการถ่ายทำฉากนี้ก็เป็นช่วงที่เปิดกล้องแรกๆ ทำให้เรายังจูนกันไม่ค่อยได้ ก็เลยทำให้มีความผิดพลาดเกิดขึ้น  ก็ต้องค่อยๆ ปรับตัว ทำให้ทุกสิ่งอย่างมันดูโอเค ผมว่ามันคนละมุมมองกับโฆษณาที่เอานักเตะระดับโลกมาโชว์ อันนั้นคือการโชว์ความสวยงาม อย่างของเราก็โชว์ความดิบของการต่อสู้ด้วย เขาก็บอกว่าจะมีตรงนี้นะ คือทุกคนรู้จักฟุตบอล แต่ว่าเราจะมาทำเป็นแอ๊คชั่นยังไง  เดี่ยวมีไอเดียหรือมีท่าอะไรที่มันเจ๋งๆ บ้าง คือถ้าเอ่ยชื่อเมสซี่, โรนัลโด้ ทุกคนต้องรู้จัก แต่เราจะทำยังไงเอาท่าของนักบอลเหล่านั้นมาเป็นแอ็คชั่นของเรา ทำให้คนดูดูแล้วรู้สึกว่าทึ่ง การถ่ายทำด้วยเทคนิคแบบลองเทก (Long Take) มีฉากเปิดตัวนทีในฐานะมือสังหาร แต่ความพิเศษอยู่ตรงที่จะไม่ได้ถ่ายให้เห็นแบบมุมภาพปกติ แต่จะจับแค่เท้าเหมือนในเกม ฉากนี้ก็ต้องมีการทำเวิร์กช็อปกันก่อน ก็เหมือนเป็นการซ้อมไปในตัว ก็ซ้อมอยู่หนึ่งเดือน แล้วก็ไปซ้อมกับสถานที่จริงอยู่สองสามวัน ซ้อมเยอะก็ทำให้เราแม่นขึ้น แล้วองค์ประกอบไม่ได้มีแค่เราคนเดียว ทั้งระเบิดทั้งเอฟเฟ็คต์ ทั้งสตั๊นท์ ทุกอย่างมันต้องเป๊ะ ทุกอย่างต้องบาลานซ์ ต้องแม่น คนกดเอ็ฟเฟ็คต์ สตั๊นท์ก็ต้องออกคิวแม่นด้วย ผมเองก็ต้องคิวแม่น ที่สำคัญคือกล้อง คนที่ต้องควบคุมภาพก็ต้องหนักเหมือนกัน เพราะในการเดินไลน์ของกล้องมันก็ต้องเป๊ะด้วย  คือฉากนี้เปิดฉากเปิดตัวที่ต้องรับงานเป็นครั้งแรก โจทย์ของพี่พันนาคือให้เห็นแค่เท้าก่อน อยากให้คนดูลุ้นว่าเท้านี้เป็นของใคร ก็เป็นฉากที่อารมณ์ทุกคนพุ่งถึงจุดสุดยอดแล้ว คือต้องทลายมันให้สิ้นซาก การถ่ายลองเทคครั้งที่สอง อันนี้อลังการแล้วก็ยากมาก วันหนึ่งนี่ไม่รู้ซ้อมกันกี่รอบ เอฟเฟ็คต์ก็เยอะมาก มีระเบิดเกือบห้าสิบลูก ทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างมันต้องแม่นหมด ในไลน์ของสตั๊นท์แมนมันต้องเป๊ะ ซ้อมกันอยู่เป็นอาทิตย์ ฉากนี้ต้องยกเครดิตให้กับทีมพี่เซ้ง ที่มีทีมงานและบุคลากรที่ดี มีอุปกรณ์ในการเซฟตี้ที่ดี มันก็ทำให้ฉากที่ยากมันผ่านไปได้ แล้วก็ลดความเสี่ยงเข้าไปอีก เพราะว่าจากที่มันเสี่ยงร้อยมันก็จะลดลงมาได้เยอะเลย แล้วก็ทำได้ตามโจทย์ของพี่พันนา ก็เจอทั้งระเบิด ทั้งไฟทุกอย่าง แล้วต้องมีวิ่งฝ่าระเบิด ซึ่งก็โดนไฟลวกนิดหน่อย ตอนที่ต่อสู้กันมันไม่ค่อยรู้สึก แต่พอเล่นเสร็จปั๊บก็เริ่มรู้สึกว่าอะไรมันแสบๆ ร้อนๆ แต่ก็ได้ภาพที่ออกมาดูหวาดเสียวแล้วก็ดิบมาก ความรู้สึกที่มีต่อผู้ชายที่มีชื่อว่า “พันนา ฤทธิไกร” ผมว่าชื่อนี้ทำให้รู้สึกรู้สึกฮึดแล้วก็มีแรงบันดาลใจ อยากเจอแล้วก็อยากร่วมงาน อย่างผมก็ได้ดูหนังพี่พันนามาตั้งแต่เด็ก ก็ตั้งโจทย์ชีวิตตั้งแต่ตอนนั้นไว้เลยว่า เราอยากเป็นนักบู๊ อยากเล่นหนังแอ็คชั่น  เราอยากทำงานด้วย ทำให้มีความมุ่งมั่นที่จะก้าวไปหาเขา เขาเป็นไอดอลที่อยู่ในใจทำให้เรามีแรงที่จะทำ ผมว่าทุกคนก็คงรู้สึกประมาณนี้ คนที่ชอบหนังบู๊ คนที่ชอบสไตล์แอ็คชั่น ก็ต้องรู้สึกว่าพี่พันนาคือไอดอล ถ้าไม่มีเขาก็คงไม่มีนักบู๊ที่มีชื่อเสียงเกิดขึ้นมา แล้วก็ทำให้เราอยากเพิ่งพลังตัวเองให้เก่ง เพื่อทำงานออกมาตามที่พี่พันนาต้องการให้เป็น สิบปีของเส้นทางแอ็คชั่นเดี่ยว ชูพงษ์ สำหรับแฟนภาพยนตร์แอ็คชั่น หรือว่าแฟนหนังของผม หรือของพี่พันนา ก็อยากให้ติดตามเพราะว่า มันเป็นภาพยนตร์ที่ครบรอบสิบปีของผมในเส้นทางแอ็คชั่น ก็อยากจะฝาก “เร็วทะลุเร็ว” เพราะว่าเต็มที่มาก เรื่องนี้สนุกมาก บทก็ดี แอ็คชั่นก็สุดยอด อย่างให้แฟนๆ ติดตามจะได้มีแรงที่จะทำงานต่อไป แล้วก็สร้างสรรค์งานคุณภาพออกมาให้ดูกัน