HIGHLIGHT CONTENT

ทีมงานเบื้องหลังเปิดเผยถึงแรงบันดาลใจในการสร้างหนังเดี่ยว The Flash

  • 556
  • 09 มิ.ย. 2023

ทีมงานเบื้องหลังเปิดเผยถึงแรงบันดาลใจในการสร้างหนังเดี่ยว The Flash

 

 

แรงบันดาลใจที่มีต่อเรื่อง “The Flash”…

 

แอนดี้ มุสเชียตติ: สำหรับผมเป็นเรื่องความไร้เดียงสาที่ซ่อนอยู่ในเรื่องราวที่มีการผจญภัยอันยิ่งใหญ่ มีพื้นฐานเรื่องราวบางอย่างที่สะเทือนใจ เป็นเรื่องราวระหว่างเด็กคนหนึ่งกับแม่ของเขา ซึ่งหากไม่มีเรื่องนั้นก็ไม่มีทางจะสร้างอะไรที่เป็นจุดเด่นขึ้นมาได้ และนั่นเป็นสิ่งที่ผมอยากดูในหนัง เป็นสิ่งที่ผมรู้สึกชื่นชมและมีความเป็นหนังที่ผมอยากสร้างขึ้นมา นี่เป็นเรื่องราวที่เกี่ยวกับอารมณ์ความรู้สึกเป็นหลัก มีพลังมากพอที่จะขยายสู่การผจญภัยในมิติเหล่านี้

 

แน่นอนว่าการสร้างหนังซูเปอร์ฮีโร่สักเรื่องเหมือนการเดินทางย้อนกลับไปหาวัยเด็ก เพราะนั่นเป็นช่วงที่ชีวิตวนเวียนกับหนังสือการ์ตูนมากกว่าตอนนี้ มันมีความหมายมากเหมือนกับที่เรื่อง IT สะท้อนถึงตัวผมในช่วงวัยรุ่น นั่นเป็นหนังสือที่ฝังใจผมมานาน “The Flash” พาผมไปหาวันเวลาที่ผมจะซื้อหนังสือการ์ตูน ส่วนใหญ่เป็นซูเปอร์แมนและแบทแมน แต่เดอะ แฟลชก็ยังวนเวียนอยู่เสมอ มันเป็นช่วงเวลาอันงดงามที่จะได้นำ “The Flash” มาสร้างให้มีชีวิตและเป็นความท้าทายที่น่าสนุก

 

บาร์บาร่า มุสเชียตติ: ฉันรักดีซีมาโดยตลอดตั้งแต่ตอนเป็นเด็กค่ะ ใน the Flash มีความเป็นเด็กบางอย่างที่ฉันคิดว่าเราจะหลงใหลในฐานะของเด็กคนหนึ่ง ฉันปฏิเสธไม่ลงเลย ฮีโร่ทุกคนมักจะดูรอบคอบ มีความแข็งแรงและยากจะเอาชนะได้ ซึ่งนั่นตรงกันข้ามกับเดอะ แฟลช เพราะมีทั้งความรัก มุกตลก เปิดกว้าง และมีความขัดแย้งในตัวในแบบที่... ฉันรักในความเป็นมนุษย์มากค่ะ แต่ยิ่งมากขึ้นในความเป็นซูเปอร์ฮีโร่ ฉันกำลังจะบอกว่าเดอะ แฟลชเป็นซูเปอร์ฮีโร่ที่ฉันชอบเพราะเขาเป็นซูเปอร์ฮีโร่ที่ดูมีความเป็นมนุษย์มากที่สุดค่ะ

 

เอซร่า มิลเลอร์ในบทเดอะ แฟลช…

 

แอนดี้ มุสเชียตติ: การได้พบกับเอซร่านับว่าเป็นประสบการณ์ที่เหลือเชื่อทั้งในแง่ศิลปะและความสร้างสรรค์ ผมคิดว่านี่เป็นหนึ่งในประสบการณ์ที่ดีที่สุดของการร่วมงานกับนักแสดง และผมว่าพวกเขายังเป็นนักแสดงตลกที่น่าทึ่งมากอีกด้วย มีหลายอย่างที่ผมคาดไม่ถึง เอซร่าเคยถ่ายทอดความตลกเอาไว้ในบทแบร์รี่ อัลเล็นจากหนังเรื่องก่อน แต่ในเรื่องนี้เป็นหนังแยกเดี่ยวออกมา เอซร่าไม่ได้เป็นแค่พระเอก แต่ยังต้องรับบทแบร์รี่ 2 เวอร์ชันที่มีความท้าทายมากด้วย ตอนที่เห็นเอซร่าแสดงเหมือนจะดูง่ายมาก เรียกว่าเป็นโชคดีที่ได้ร่วมงานกับพวกเขาและเห็นพรสวรรค์อันเหลือเชื่อของพวกเขา

 

บาร์บาร่า มุสเชียตติ: ฉันรู้ว่านักแสดงหลายคนอยู่ในวงการมานานแล้ว ฉันคิดไม่ออกว่าใครจะถ่ายทอดเดอะ แฟลชได้แบบนี้อย่างที่แอนดี้กับฉันนึกภาพเอาไว้ แต่นั่นคือเอซร่าที่ถ่ายทอดพลังและมีความยืดหยุ่นอย่างน่าทึ่ง ฉันไม่เคยเห็นนักแสดงที่ทุ่มเทอย่างหนักแบบนี้ ฉันรู้จักนักแสดงที่ทำงานหนักหลายคนค่ะ แต่สิ่งที่เอซร่าถ่ายทอดออกมาในเรื่องนี้เหลือเชื่อมาก พวกเขาต้องควบสองตัวละครกว่า 80% ในเรื่อง และนั่นหมายความว่าพวกเขาเหมือนถ่ายหนัง 2 เรื่องในช่วงเวลาเดียวกัน มันเหลือเชื่อมากค่ะ

 

ภาระหน้าที่อันยิ่งใหญ่…

 

บาร์บาร่า มุสเชียตติ: นี่เป็นหนังที่ใหญ่ที่สุดจากที่เราเคยทำมา ไม่เคยนึกภาพเลยว่าจะเป็นโปรเจ็กต์ที่ใหญ่ขนาดนี้ได้ ตอนที่เราถ่ายทำเรื่อง “Mama” ใช้เวลาถ่ายทำกัน 42 วัน เรื่อง “IT” ใช้เวลา 60 วันและเรื่อง “IT Chapter Two” ใช้เวลา 80 วัน หลังจากนั้นฉันก็เห็นภาพตารางทำงานทั้งหมดในหัว สำหรับเรื่องนี้มันไม่เป็นแบบนั้นเลย สำหรับผู้อำนวยการสร้างฯ และใครสักคนแบบฉันที่ชอบการวางแผน ต้องเรียนรู้การปล่อยวางและพูดว่า “ฉันรู้ตารางงานคร่าวๆ และเข้าใจดีว่าเดี๋ยวจะต้องมีการปรับเปลี่ยนเพิ่มเติม ต้องเรียนรู้การปล่อยวาง” ฉันเป็นส่วนหนึ่งที่รับมือความวุ่นวายของเรื่องนี้ [ผู้อำนวยการสร้างฯ] ไมเคิล ดิสโก้ พวกเราคือทีมเดียวกันอย่างแท้จริง ฉันเคยเป็นผู้สร้างฯ เดี่ยวมาแล้วหลายครั้ง แต่เรื่องนี้ฉันไม่สามารถทำได้ นี่เป็นการรวมพลังความสามารถที่ต้องอาศัยพวกเราทั้งคู่ค่ะ

 

การได้ร่วมงานกับไมเคิล คีตัน…

 

แอนดี้ มุสเชียตติ: ไมเคิลเป็นคนที่ดูเท่มากในโลก เขาสงสัยหลายอย่างเรื่องการกลับมารับบทแบทแมนอีกครั้ง ผมตื่นต้นมากและคิดว่าเราพยายามขายบางอย่างที่เขาไม่เคยทำมาก่อน แต่สุดท้ายเรารู้ดีกว่านั่นคือสิ่งที่ทุกคนต้องการ ตอนที่เขาตอบ “ได้เลย” เราทุกคนตื่นเต้นกันมาก หลังจากนั้นก็เกิดจินตนาการภาพของเขาหลายอย่าง พยายามนึกภาพว่าตัวละครของเขาควรมีหน้าตาแบบไหน ตัวละครของเขาจะรู้สึกอย่างไรเมื่อผ่านไป 25 ปีนับตั้งแต่เจอเขาล่าสุด และเป็นความท้าทายที่สนุกมาก เขาพร้อมรับมือกับความท้าทายนั้นสุดตัว นี่คือตัวละครที่มีหลายมิติมาก คำถามสำคัญคือบรูซ เวย์นควรเป็นอย่างไรเมื่อผ่านไป 25 ปี นั่นคือจุดเริ่มต้นของการพูดคุยกัน เราเริ่มพูดถึงความโดดเดี่ยว และเสน่ห์ของไมเคิลในบทนั้นแบบที่ไม่เคยมีใครเห็นในร่างแบทแมนมาก่อน ความท้าทายนั้นทำให้เขาได้พบกับความลงตัวอย่างงดงาม 

 

คีตันกลับมาสวมชุดอีกครั้ง…

 

บาร์บารา มุสเชียตติ: แน่นอนว่าเป็นช่วงที่ส่งผลต่อความรู้สึกเขาและพวกเราในฐานะแฟนๆ อย่างพวกเรา ผมเชื่อว่าตลอด 30 ปีที่ผ่านมาตั้งแต่ครั้ล่าสุดที่เขาสวมชุดนั้น เขาบอกเราว่าลูกชายของเขา ซึ่งตอนนี้เป็นผู้ใหญ่แล้วและเป็นนักแต่งเพลงที่เก่ง ตอนนั้นเป็นเพียงเด็กตัวเล็กๆ ตอนที่เขาสวมชุดนั้น และเขายังดูดีแม้เวลาจะผ่านมาหลายปีแล้ว! ครั้งนี้ที่เขาสวมชุดนั้นเขามีหลานแล้ว

 

แอนดี้ มุสเชียตติ: การกำกับไมเคิลเป็นสิ่งที่สนุกมากครับ มักเริ่มจากการพูดคุยกันเรื่องตัวละคร เนื้อเรื่อง และอารมณ์ความรู้สึกของเขา ผมเคารพในการทำงานของเขามาก เพราะเขาเคยรับบทตัวละครมาก่อน ผมอยากได้ยินทุกอย่างที่เขารู้สึกต่อตัวละคร จึงเป็นการสร้างบรรยากาศการพูดคุยที่ลื่นไหลมากขึ้นมา แน่นอนว่าต้องมีเรื่องชีวิตของบรูซ เวย์นช่วง 30 ปีต่อมาด้วย เราพูดคุยกันหลายเรื่องและเป็นไปในทิศทางเดียวกัน จนมาถึงวันที่มีการถ่ายทำ ผมพยายามจะไม่ก้าวก่ายเขาในฐานะนักแสดงมากนัก ผมดีใจมากที่เขาถ่ายทอดบรูซ แบทแมน และเรื่องราวในส่วนอื่นออกมาได้

 

บาร์บารา มุสเชียตติ: ขอเสริมว่า... ความดีงามในการเฝ้ารอ 30 ปีเพื่อรับบทนี้ คืออเล็กซานดรา เบิร์น ผู้ออกแบบเครื่องแต่งกายของเราที่สามารถทำให้ชุดของเขาสบายตัวขึ้นเยอะ ทำให้เขาขยับศีรษะและขาได้สักที!

 

The Flash หรือ เดอะ แฟลช The Flash มีกำหนดเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ในวันที่ 15 มิถุนายน ที่จะถึงนี้

 

สำหรับแฟนหนังเมเจอร์ ห้ามพลาดกับบัตรดูหนังสุดคุ้ม M PASS ที่จะทำให้คุณคุ้มเต็มอิ่มกับการดูหนังตลอดทั้งปี เตรียมไปมันส์กับกองทัพหนังดังมากมาย สมัครง่ายๆเพียงแค่คลิก ที่นี่ 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง