HIGHLIGHT CONTENT

REVIEW : Single Lady พื้นที่ใหม่ของรอมคอมไทย (ที่ไม่ได้มีแต่สาวโสด)

  • 11,307
  • 05 ก.พ. 2015

Single Lady เพราะเคยมีแฟน
พื้นที่ใหม่ของรอมคอมไทย (ที่ไม่ได้มีแต่สาวโสด)

โดย Friday I'm not in love

 

ทำไมสาวไทยไม่ชอบความโสด? เพราะกลัวความเหงา กลัวขึ้นคาน กลัวเพื่อนล้อ กลัวแก่เกินแกง กลัวไม่มีคนดูแล กลัวสารพัดจะกลัว กลัวไปหมดทุกสิ่ง แต่เดี๋ยวค่ะ! สาวๆ จะกลัวกันทำไมคะ! เรามีพี่ไบรท์อยู่ทั้งคน!

 

 

ไบรท์ (อั้ม พัชราภา ไชยเชื้อ) ไอดอลสาวโสดนักการตลาดเจ้าของหนังสือไลฟ์สไตล์ยอดฮิตติดลมบน “โสดอย่างสุข” ที่สวยและรวยมาก นางลัคกี้อินเกม ทำงานบริษัทใหญ่ ตำแหน่งสูง เงินดี แถมยังลิคกี้อินเลิฟด้วย แต่เลิฟที่ว่าเนี่ยนางเลิฟตัวเองนะจ๊ะ นางมีความสุขกับการอยู่คนเดียว ใช้ชีวิตคนเดียว เที่ยวเองเก๋ๆ ไปนั่งจิบชากินขนมสวยๆ มองผู้คนใช้ชีวิตบนท้องถนนจากในร้านกาแฟ แฮ้งค์เอ้าท์กับเพื่อนบ้างอะไรบ้าง เธอสนุกกับการเขียนบล็อกให้กำลังใจสาวโสดทั่วประเทศ สร้างความเข้าใจใหม่ว่าสาวโสดไม่จำเป็นต้องเศร้า เรามีความสุขกับตัวเองและเพื่อนๆ ได้เสมอจ้า สิ่งสำคัญคือเราต้องให้เกียรติตัวเอง และตระหนักถึงคุณค่าของตัวเองก่อนนะรู้ยัง

แต่ใครจะรู้ว่า ก่อนจะมาติดใจความโสดเนี่ย พี่ไบรท์เค้าเคยมีแฟนมาทุกแนวแล้วนะจ๊ะ ทั้ง แจ๊ก แฟนอ้วนดำสมัยประถม (โก๊ะตี๋ เจริญพร อ่อนละม้าย), พี่พอล แฟนนักบาสสมัยมัธยม (ดีเจเอกกี้ เอกชัย เอื้อสังคมเศรษฐ์), ตุล แฟนนักดนตรีสุดเซอร์สมัยมหาลัย (ต้า บาร์บี้ เผ่าพล เทพหัสดิน ณ อยุธยา), เคน แฟนเจ้าชู้สมัยเรียนเมืองนอก (นาวินต้าร์ นาวิน ยวพลกุล) และ แฟนหนุ่มใหญ่ใจดีสมัยทำงาน พี่ธี (ปิ๊บ รวิชญ์ เทิดวงศ์) แต่ละคนนี่ก็คาแรคเตอร์จัดกันมาก สร้างความป่วงไว้ให้พี่ไบรท์จนนางอยากโสดไปตลอดซะงั้น แต่ก็นะ ไม่อยากได้อะไรก็มักจะได้ สาวสวยที่ติดใจกับความโสดอย่างพี่ไบรท์เลยต้องมาเจอหนุ่มซ่าอย่าง นายเข้ม (เป้ อารักษ์) เขย่าหัวใจในที่สุด

แต่เอ๊ะ เดี๋ยวนะเดี๋ยว พล็อตแบบนี้มันก็มีหลายเรื่องแล้วป่ะ ตอนแรกเจอกัดกันจะเป็นจะตาย แต่พอนายเข้มบังเอิญได้จับพลัดจับผลูมาช่วยพี่ไบรท์ปฏิบัติภารกิจแก้ปมแฟนเก่าตามคำทำนายของหมอดู ทั้งสองก็เลยได้ใช้เวลาร่วมกัน หนุ่มมาดกวนก็เริ่มเชื่อง สาวสวยแซ่บโสดก็เริ่มใจอ่อน ทั้งสองคนต่างก็ลดกำแพงลง เริ่มลดเงื่อนไขส่วนตัว เริ่มเปิดใจเรียนรู้กัน... เฮ้ย จะดีหรอคะพี่ นี่มันพล็อตคลาสสิกของหนังรอมคอมไทยนี่! (Rom-Com หมายถึงหนังโรแมนติก-คอเมดี้) ว่าแล้วก็ขนลุกเกรียวค่า หนังต้องออกมาอี๋แน่ๆ เลยอะเธ๊อ ถึงแม้ชั้นจะเป็นสาวโสดที่มีแนวโน้มจะอินหนังก็เถอะ แต่ชั้นก็เบื่อนะบางทีถ้าหนังทุกเรื่องมันจะซ้ำกันไปหมดขนาดนี้ แต่เข้าเรื่องเลยแล้วกันว่า ดูจบแล้วเปลี่ยนใจแทบไม่ทันจ้า ผิดคาดมาก สาวโสดหัวแข็งอย่างเราที่นานๆ ทีจะอินหนังรอมคอมสักเรื่องต้องขอบอกเลยว่า ประทับใจหนังมากจริงๆ

 

 

Single Lady เพราะเคยมีแฟน เป็นหนังรอมคอมที่ทั้งคุณภาพดีและดูสนุก สิ่งที่ทำให้หนังดีนอกจากโปรดักชั่นจะดี ภาพสวย เพลงประกอบลงตัว และการแสดงโดดเด่นแล้ว (โดยเฉพาะอั้มที่เล่นได้มีเสน่ห์มากจนกลบทุกริ้วรอยของหนังไปเสียหมด) บทหนังยังแน่นมาก เขียนมาแบบลงล็อคสุดๆ การเขียนบทที่มีเส้นเรื่องหลักถึง 6 เส้นเรื่องไม่ใช่เรื่องง่าย แถมจะเล่าให้ไม่น่าเบื่อก็ไม่ง่ายเหมือนกันเพราะหนังยาวถึงสองชั่วโมงครึ่ง! หนังแบ่งก้อนค่อนข้างชัดเจนระหว่างแต่ละคู่ความสัมพันธ์และเล่าเรียงกันไป โดยมีการเชื่อมโยงที่ดีและเป็นเหตุเป็นผล และที่สำคัญคือการดีไซน์ตัวละครนี่ถือว่าไม่เบาทีเดียว เพราะถึงหนังรอมคอมจะไม่ได้ต้องการตัวละครที่ซับซ้อนหรือกลมกลึงอะไร แต่ก็ไม่มีตัวละครตัวไหนในหนังที่แบนจนงี่เง่าน่ารำคาญ แถมยังมีเสน่ห์แบบมนุษย์เดินดินธรรมดาด้วย ดูจบแล้วรู้สึกเหมือนตัวละครในเรื่องน่ะมีอยู่ในชีวิตจริงรอบตัวเราทุกคนนี่แหละ

 

- สิ่งที่น่าสนใจมากๆ ไม่ใช่คอนเซปต์ที่หนังขายปะหน้าไว้ว่า
"นี่คือหนังของคนโสด"
แต่คือสิ่งที่หนังซ่อนไว้ระหว่างเส้นเรื่องต่างๆ
ทำให้ไม่ว่าโสดหรือไม่โสดก็ดูสนุก -

 

จริงๆ แล้วการแบ่งกลุ่มผู้ชายเป็น 6 คาแรคเตอร์แบบนี้อาจจะดูสิ้นคิดไปนิด (ก็ชายไทยมันก็มีอยู่ไม่กี่สไตล์จริงๆ นี่นะ) แต่นักแสดงที่เลือกมารับบทต่างๆ ทั้ง 6 นี้มีพลังการทำลายล้างสูงมากและแข่งกันแผ่ออร่าแบบไม่มีใครยอมใคร อย่างแฟนคนแรกวัยประถม โถ ใครก็มีกันทั้งนั้น และส่วนใหญ่ก็มักจะไม่หล่อแต่น่ารักใช่ม๊า แล้วหนังเลือกใครมา โก๊ะตี๋จ้า ใครก็รักนางนี่บอกเลย นี่เจออยู่ในรายการข่าวแทบทุกเช้า และรายการทำอาหารแทบทุกบ่าย พอไปนั่งทำงานดึกๆ นอกบ้านก็ต้องฝากท้องไว้กับข้าวมันไก่โก๊ะ คือเป็นคนที่ใกล้ชิดกับคนไทยมากจริงๆ พอถึงฉากดราม่าน้ำตาตกนี่นางก็ตีบทแตกค่ะ ยิ่งรู้สึกสนิทกันผ่านหน้าจออยู่แล้ว พอเจอช็อตแบบนี้นี่ถึงกับไปไม่เป็น อยากจะทะลุจอเข้าไปกอดพี่โก๊ะเลยทีเดียว ต่อมาคือแฟนเบอร์สองวัยมัธยมเจ้าของจูบแรกของน้องไบรท์จ้า พี่พอลลี่นักบาสประจำโรงเรียน (นักกีฬานี่มันสเปคสาวมัธยมจริงๆ) รับบทโดบขุ่นแม่เอกกี้ผู้เป็นที่รักของชาวเรานั่นเอง งานนี้นางเล่นใหญ่ระดับเดียวกับ เบน ชลาทิศ ในซีรีส์คลับฟรายเดย์เลยค่ะ ทุ่มสุดตัว สาวแตกแหกโค้งยิ่งกว่าไลฟ์คอนเสิร์ตเอไทม์ แต่ถามว่าพอถึงฉากดราม่านางเป็นยังไง ก็ถือว่าดีนะคะ สอบผ่าน (บางซีนหนูคิดว่าซับพล็อตเรื่องผู้ชายของของพี่หลุดออกมาจากรายการคลับฟรายเดย์ซะอีก) พี่เอกกี้น่ารักมุ้งมิ้งตามสไตล์นาง เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในตัวชูโรงความตลกของหนังเลย แฟนเบอร์สามเป็นหนุ่มนักดนตรีสุดเซอร์ชื่อตุล โอ้พระเจ้า พี่ต้าบาร์บี้นี่หล่อทะลุจอเลยค่ะ เสียงแหบๆ ของพี่สะท้านใจน้องมาก (ขอกรี๊ดแป๊ป) เส้นเรื่องของไบรท์กับตุลนี่น่ารักมาก คือใช่เลย ไอ้การไปดูคอนเสิร์ตของแฟนหรือรุ่นพี่ที่เราแอบชอบเนี่ย เชื่อได้ว่าสาวไทยทุกคนที่เคยผ่านวัยมหาลัยต้องมีประสบการณ์ร่วมค่ะ อั้มในชุดเสื้อกล้ามแขนกุดผมยาวๆ ยุ่งๆ พอยืนข้างพี่ต้าแล้วเก๋กู้ดมาก คนที่สี่พี่นาวินต้าร์ก็เล่นบทแฟนหนุ่มคาสโนว่าได้น่าหมั่นไส้มากถึงมากที่สุด จากที่ดูมาดคุณชายเป็น ดร. จบนอกนี่หมดเลยค่ะ หมดกัน เล่นใหญ่จนดูเป็นชายเจ้าชู้หัวงูจริงๆ และสุดท้ายหนุ่มใหญ่ใจดีสุดอบอุ่น พี่ปิ๊บ รวิชญ์ หรือพี่ธีที่เคยเกือบจะได้แต่งงานกับไบรท์ แต่ด้วยวิถีชีวิตของทั้งสองและแก๊งอาม่าของพี่ธีจึงทำให้ทั้งสองต้องห่างกันไปและทำให้พี่ไบรท์โสดตั้งแต่นั้นมา

 

 

ตลอดเวลาสองชั่วโมงครึ่งหนังเล่าเรื่องการลุยแก้ปัญหาชีวิตให้กับเหล่าแฟนเก่าของพี่ไบรท์โดยความช่วยเหลือของนายเข้มเป็นหลักเต็มเปี่ยมด้วยความเป็นคอมเมดี้ บางมุขนี่เข้าชั้นร้ายกาจ แทรกด้วยโมเมนต์หวานๆ ของทั้งสองคนแบบเบาๆ แต่ในปริมาณพอเหมาะ ไม่เยอะจนน่าหมั่นไส้หรือโฉ่งฉ่าง ซึ่งถือเป็นการตัดสินใจที่ดีมากๆ เพราะความสัมพันธ์ของคนทั่วไปก็เป็นแบบนี้แหละ มันไม่ได้มีอะไรชัดเจนหรือยิ่งใหญ่เหมือนที่หนังรักส่วนใหญ่ชอบทำหรอก เป้ อารักษ์ ในเรื่องนี้ก็น่ารำคาญน้อยผิดคาด ปกติจะไม่ชอบเป้เล่นหนังเพราะไม่ชอบความเก๊กของนาง แต่เรื่องนี้นางเก๊กนิดหน่อยกำลังดี เรียกว่าสอบผ่านเลยทีเดียวเชียวแหละ

 

- คู่ของอั้มกับเป้ไม่ได้เป็นคู่ที่เด่นที่สุด
แต่หนังให้ความสำคัญกับทุกคู่พอๆ กัน
ไม่มีใครที่โผล่มาเพื่อเป็นตัวประกอบแบบง่อยๆ แล้วก็เดินจากไป
 -

 

แต่สุดท้ายแล้วสิ่งที่น่าสนใจมากๆ ไม่ใช่คอนเซปต์ที่หนังขายปะหน้าไว้ว่า "นี่คือหนังของคนโสด" แต่คือสิ่งที่หนังซ่อนไว้ระหว่างเส้นเรื่องต่างๆ ต่างหาก ทำให้ไม่ว่าโสดหรือไม่โสดก็ดูสนุก จะว่าไปคนโสดที่เข้าไปดูเพราะหวังจะซึมซับความดีงามหรือแง่งามของความโสดอาจจะผิดหวังนิดหน่อย เพราะไม่ได้โฟกัสเรื่องความโสดเท่าไหร่ ยกเว้นช่วงที่หนังปูพื้นตัวละครของสาวไบรท์ว่านางมีทัศนคติยังไงต่อความโสดและนางอยากให้สาวโสดรู้สึกมั่นใจในตัวเอง แต่โฟกัสไปที่เรื่องความสัมพันธ์ทั้ง 6 รูปแบบมากกว่า (ด้วยเหตุนี้เราเลยรู้สึกชอบชื่อเก่าของหนังที่ว่า "Single Lady เพราะความสัมพันธ์มันซับซ้อน" มากกว่า แต่ชัดเจนว่าชื่อนี้มันไม่ขาย) นี่แหละที่ทำให้ชอบหนังรอมคอมเรื่องนี้มากกว่าเรื่องอื่นๆ ในตลาดหนังไทย เพราะมันไม่ได้โฟกัสไปที่คู่ใดคู่หนึ่ง แต่ในหนังมีความสัมพันธ์หลายรูปแบบทั้งแบบโรแมนติก และแบบที่พ้นไปจากความโรแมนติกอย่างความสัมพันธ์ของกลุ่มเพื่อนและครอบครัวที่หนังก็นำเสนอได้อย่างไม่เลี่ยนจนเกินไป สิ่งที่ชอบมากๆ คือคู่ของอั้มกับเป้ไม่ได้เป็นคู่ที่เด่นที่สุด แต่หนังให้ความสำคัญกับทุกคู่พอๆ กัน ไม่มีใครที่โผล่มาเพื่อเป็นตัวประกอบแบบง่อยๆ แล้วก็เดินจากไป แต่ผู้สร้างถึงกับยอมให้หนังยาวถึงสองชั่วโมงครึ่งเพื่อให้มีเวลาสร้างเรื่องราวให้กับทุกตัวละคร (เช่น แฟนสาวของนาวินต้าร์และพี่ปิ๊บที่เล่นดีและมีเสน่ห์มาก) จนบางทีมันทำให้เรานึกถึงเพื่อนของเราที่เจอเรื่องราวคล้ายคลึงกับตัวละครต่างๆ ในเรื่อง หรือบางทีก็เผลอไผลไปคิดถึงเรื่องราวของตัวเองด้วย

 

 

คิดอีกทีก็รู้สึกว่าหนังสะท้อนอะไรบางอย่างอยู่เหมือนกัน อะไรบางอย่างที่ว่าก็คือเสน่ห์ของความสัมพันธ์ระหว่างเรากับคนที่เราเคยรัก บางครั้งมันสวยงาม แต่บางครั้งก็เจ็บปวด แต่ใช่หรือไม่ว่าทุกครั้งมันทำให้เราเรียนรู้ และไม่ใช่แค่เรียนรู้ว่าเราควรทำอย่างไรให้ครั้งต่อไปมันดีขึ้น แต่เพื่อให้เราเรียนรู้ที่จะทิ้งอดีตที่มีตำหนิไว้เบื้องหลังแล้วก้าวต่อไป ไบรท์ไม่ได้มีชีวิตที่สวยงามไม่มีแผลเป็น ไบรท์มีแผลเป็นเหมือนกับเราทุกคนนั่นแหละจ้า เธออ่อนไหวในบางเวลา เธอเคยทำผิดพลาดในความสัมพันธ์หลายครั้งหลายครา เธอเคยเล่นเกมกับความรักจนมันลอยหายไป เธอเคยผ่านความเข้าใจผิดที่น่าหงุดหงิดใจ แบบว่าเพียงแค่ถ้าชั้นไม่เข้าใจผิดชั้นคงได้มีแฮปปี้เอนดิ้งไปนานแล้ว แต่ที่หนังสร้างตัวละครแบบไบรท์ขึ้นมาไม่ใช่เพื่อให้คนโสดมีความสุขกับความโสด แต่เพื่อให้เราเห็นว่ามันจะดีแค่ไหนกันนะ ถ้าเรากล้าที่จะให้อภัยทั้งตัวเองและคนอื่นเพื่อก้าวต่อไป เราเองอาจจะติดใจอยู่บ้างที่หนังดูพยายามแก้ต่างให้ตัวละครผู้ชายบางตัวมากไปหน่อย แต่ถ้าหนังจะพยายามสื่อประเด็นที่ว่านี้ออกมาจริงๆ ก็ถือว่าวิธีการจัดการกับตัวละครที่ผิดพลาดไปบ้างก็อาจจะไม่น่าเกลียดอะไรนัก เพราะสุดท้ายแล้วการได้เห็นหนังรอมคอมไทยก้าวไปในพื้นที่ใหม่ๆ นอกจากการเวียนวนอยู่แต่กับเรื่องของสาวโสดบ้างก็เป็นสิ่งที่น่ายินดีไม่ใช่หรือ

เพราะเคยมีแฟน

  • 05 February 2015
  • Adventure / ตลก / โรแมนติก /
  • 150 นาที
15+