HIGHLIGHT CONTENT

15 เว็บไซต์หัวไทยชั้นนำ จับมือสู้ศึกโฆษณาออนไลน์ แถลง “มีข้อมูลคนท่องเว็บไซต์แล้ว 83 ล้านเครื่อง!!!”

  • 3,368
  • 20 พฤษภาคม 2017

15 เว็บไซต์หัวไทยชั้นนำ  จับมือสู้ศึกโฆษณาออนไลน์
แถลง “มีข้อมูลคนท่องเว็บไซต์แล้ว 83 ล้านเครื่อง!!!”

 

 

12 องค์กรสื่อเว็บไซค์ชื่อดังของไทยแถลงข่าวเปิดตัว “สมาคมการค้าสื่อออนไลน์คุณภาพ” หรือ OPPA หวังยกระดับการโฆษณาบนเว็บไซต์ให้มีมาตรฐาน ตอบสนองเป้าหมายของแบรนด์และสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้เข้าชมเว็บไซต์ เปิดตัวใหญ่เป็นครั้งแรกในอาเซียน ยกทัพเทคโนโลยีช่วยวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภค เผยข้อมูลคนเข้าเว็บไซต์ชื่อดังกว่า 7.5-10 ล้านเครื่องต่อวันชมผ่านมือถือเกือบร้อยละ 80รัฐคาดช่วยดึงเม็ดเงินโฆษณาให้อยู่ในประเทศช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยตามนโยบายดิจิตัล 4.0

ขยับตัวสร้างปรากฏการณ์ครั้งใหญ่ สำหรับองค์กรสื่อดิจิทัลประเภทเว็บไซต์รวม 12 องค์กร ได้แก่ BEC-TERO Entertainment PCL., Dek-d.com, Kapook.com, เมเจอร์ซินีเพล็กซ์กรุ๊ป, Manager Online, Mthai.com, NationTV, OTV, pantip.com, หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์, Sanook.com, หนังสือพิมพ์สยามกีฬา และหนังสือพิมพ์ไทยรัฐแถลงข่าวเปิดตัว “สมาคมการค้าสื่อออนไลน์คุณภาพ” (Online Premium Publishing Association – OPPA) ซึ่งเป็นสมาคมที่จัดตั้งขึ้นเพื่อส่งเสริมมาตรฐานการโฆษณาบนสื่อออนไลน์ในประเทศไทย

 

OPPA มีจุดเด่นที่การเปลี่ยนเทคโนโลยีการเก็บข้อมูลโดยใช้ Cookies ร่วมกันในทุกเว็บในเครือ เพื่อติดตามว่าผู้ใช้สนใจเนื้อหาประเภทใดได้อย่างต่อเนื่อง แม้ว่าผู้ใช้งานจะออกจากเว็บหนึ่งไปอีกเว็บหนึ่งแล้วก็ตาม ซึ่งต่างจากระบบเดิมที่แต่ละเว็บไซต์จะเก็บข้อมูลแยกกันเอง วิธีใหม่นี้จะทำให้การกำหนดกลุ่มเป้าหมายของนักโฆษณาทำได้ดียิ่งขึ้น

OPPA ยังสร้างระบบแพลตฟอร์มในการลงโฆษณาด้วยตนเองสำหรับผู้ประกอบการที่ไม่ได้ใช้เอเจนซี่ หรือกลุ่มเอสเอ็มอีที่เรียกว่า Self Service Dashboard ที่ผู้ใช้งานสามารถเลือกลงโฆษณาได้ด้วยตนเองอย่างครบวงจร ภายใต้งบประมาณและกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการเทคโนโลยีเหล่านี้ OPPA ได้รับความร่วมมือจากบริษัทเทคโนโลยีโฆษณาชื่อดังของโลก อาทิ D.A.Consortium, Innity, IPONWEB เป็นต้น และในอนาคตจะมีการยกระดับเทคโนโลยีเพื่อทำให้โฆษณามีประสิทธิภาพดึงดูดใจผู้บริโภคมากขึ้นไปอีก

 

 

อีกสิ่งหนึ่งที่ OPPA ให้ความสำคัญอย่างยิ่ง คือการสร้างความปลอดภัยของแบรนด์ (Brand Safety) และเน้นอัตราที่โฆษณาจะถูกมองเห็น(View ability)เพื่อให้ทั้งผู้ผลิตคอนเทนต์และผู้ลงโฆษณามั่นใจได้ว่า โฆษณาที่ดีจะอยู่ควบคู่ไปกับคอนเทนต์ที่มีคุณภาพ และอยู่ในตำแหน่งที่ “ดีที่สุด” ที่ผู้อ่านจะมองเห็นได้

นอกจากนี้ผู้ลงโฆษณายังมีทางเลือกในการลงโฆษณากับเว็บในกลุ่ม OPPA ได้มากกว่า 1 เว็บไซต์ในคราวเดียวกัน ซึ่งหากประกอบกับปริมาณการเข้าชมเว็บไซต์ในกลุ่ม OPPA (วัดจากที่อยู่ของคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์พกพาหรือ IP Address) ซึ่งมีมากถึง 7.5-10 ล้านเครื่องที่ไม่ซ้ำกันต่อวัน และมีการเก็บข้อมูลผู้เข้าชมแล้วมากถึง 83 ล้านเครื่อง จะพบว่าเว็บไซต์ในกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่มีศักยภาพสูงที่ไม่ควรมองข้ามเลยทีเดียว

ซึ่งภายในงานOPPA Open House ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคมที่ผ่านมา มีบุคคลในแวดวงการตลาด เอเจนซี่ และวงการสื่อดิจิทัลมาร่วมงานอย่างคับคั่ง
 
ดร.โชคชัย เอี่ยมฤทธิไกร เลขาธิการสมาคมฯ และ Group Director - Online Business & Ticketing จากเครือบีอีซี-เทโร และนายโชค วิศวโยธิน Assistant Managing Director จากกระปุกดอทคอมระบุว่าOPPA มีการทดลองระบบมากว่าครึ่งปีการนำเทคโนโลยีมาใช้จะช่วยให้ผู้ลงโฆษณาเลือกลงโฆษณาได้ง่ายและดีขึ้น และสร้างประสบการณ์ผู้ใช้ที่ดีแก่ผู้บริโภค

“ต่อไปนี้การเจาะกลุ่มผู้บริโภคจะกว้างขวางขึ้น โดยไม่ใช้แค่ข้อมูลพื้นฐาน แต่จะเก็บพฤติกรรมการใข้งานและบริบทมาวิเคราะห์ ซึ่งในระยะต่อไปก็จะมีการพัฒนาต่อ อาทิ จะเน้นพัฒนาโฆษณาแบบ Programmatic, การทำ Ad Series, สร้างความปรารถนาในการซื้อของลูกค้า จนตัดสินใจซื้อ เป็นต้น ซึ่งเอเจนซี่ หรือภาคเอกชนที่ต้องการซื้อสื่อโฆษณาก็จะต้องพัฒนาโฆษณาให้มีความสร้างสรรค์ เน้นการทำตลาดแบบบูรณาการ และวางแผนงบประมาณเพื่อตัดสินใจเลือกสื่อที่ถูกต้อง” 
  
  ขณะที่ผู้บริหารพาร์ทเนอร์ด้านเทคโนโลยีของ OPPAจาก D.A.Consortium, Innity,IPONWEB, Aol, Taboola และ Brightcoveต่างมองว่า ประเทศไทยยังต้องการคลังข้อมูลสำหรับการนำเสนอโฆษณาที่มีประสิทธิภาพ รวมถึงเทรนด์การเข้าถึงโฆษณาในไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ก็เน้นไปที่บนอุปกรณ์เคลื่อนที่มากกว่าคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล รวมทั้งระบุว่าเนื้อหาที่กำลังได้รับความสนใจในยุคนี้คือเนื้อหาประเภทวิดีโอ ซึ่งได้ผลดีกว่าการใช้ข้อความหรือภาพนิ่ง
ในช่วงท้ายมีการเสวนาเกี่ยวกับอนาคตของการโฆษณาออนไลน์ในประเทศไทย โดยนายชัยดิษฐ์ หุตานุวัตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารศูนย์การค้า SHOW DCมองว่าสื่อออนไลน์เป็นจุดสำคัญที่จะเชื่อมการโฆษณาไปยังสื่อแบบ on-air และ on-ground ด้านนางสาวพัชรี เพิ่มวงศ์อัศวะ จากสมาคมโฆษณาดิจิทัล (ประเทศไทย) ระบุว่าเทคโนโลยีของ OPPA จะช่วยให้การ Targeting มีประสิทธิภาพมากขึ้น เห็นเส้นทางการใข้งานของผู้ใช้ต่อเนื่องจากเว็บหนึ่งไปสู่อีกเว็บหนึ่ง

 

ส่วนตัวแทนภาครัฐคือนายเอกพงศ์ หริ่มเจริญ จากสำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติกล่าวว่า ภาครัฐยินดีส่งเสริมภาคเอกชนในการรวมตัวกัน เพราะเม็ดเงินด้านการโฆษณาออนไลน์จะได้อยู่ในประเทศเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตามภาครัฐอาจต้องทำงานในระดับมหภาค ซึ่งจะมีแต้มต่อในการเจรจากับต่างประเทศ และนายอภิศิลป์ ตรุงกานนท์ จากเว็บไซต์พันทิปก็เชื่อว่า การเน้นความปลอดภัยของแบรนด์ที่OPPA ให้ความสำคัญจะทำให้ภาพลักษณ์ของทั้งสินค้าที่ลงโฆษณาและภาพลักษณ์ของเว็บไซต์คอนเทนต์ต่างๆ ดีขึ้นทั้งสองฝ่าย

นอกจากนี้ผู้บริหาร 12 องค์กรสื่อสมาชิกสมาคมฯ ยังได้ตอบคำถามผู้เข้าร่วมงาน อาทิ เรื่องหลักเกณฑ์ในการรับสมาชิกของ OPPA เพิ่มเติม ซึ่งจะมีการประกาศหลักเกณฑ์อย่างเป็นทางการในภายหลัง แต่เบื้องต้นเน้นการพิจารณาจากการมีเทคโนโลยีที่ใช้ร่วมกัน, การเน้นความปลอดภัยของแบรนด์และเรื่องลิขสิทธิ์ รวมถึงการมีช่องทางพิเศษสำหรับเอเจนซี่ที่อาจมีลูกค้าเป็นจำนวนมากให้เข้าใช้งานระบบของ OPPA ได้ในรูปแบบที่แตกต่าง เป็นต้น 
 
การแถลงข่าวครั้งนี้นับเป็นก้าวแรกของการยกระดับมาตรฐานวงการโฆษณาออนไลน์ไทย และเป็นครั้งแรกในอาเซียนที่ภาคเอกชนสามารถรวมตัวกันสร้างความเข้มแข็งในอุตสาหกรรม ทั้งนี้ผู้สนใจสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมจากเว็บไซต์ www.oppathailand.com ต่อไป