HIGHLIGHT CONTENT

เพิ่มรอบขยายโรง Love Simon กระจายความฟินกับเหตุผลที่เรื่องนี้มีมากกว่าโรแมนติกคอมเมดี้

  • 5,248
  • 22 พฤษภาคม 2018

 

รีวิว Love Simon หนังเกย์ที่เหมาะกับคนทุกเพศ เพราะความรักไม่เคยไม่สวยงาม A+

 

 

                Love Simon เรื่องราวของ ไซมอน สเปียร์ เด็กหนุ่มธรรมดาผู้มีชีวิตธรรมดา มีครอบครัวที่อบอุ่น มีเพื่อนที่น่ารัก มีโรงเรียนที่ดี ทุกสิ่งธรรมดาสามัญ ยกเว้นแค่เขามีความลับยิ่งใหญ่ที่ไม่เคยเปิดเผยกับใคร...เขาเป็นเกย์ จนวันหนึ่งมีโพสต์ลึกลับในเว็บบอร์ดของโรงเรียนเปิดเผยตัวตนว่าเป็นเกย์ พร้อมลงนามแฝงว่า บลู วินาทีนั้นไซมอนรู้ในทันทีว่าเขาไม่ใช่คนแปลกประหลาดที่เก็บความลับอีกต่อไป ไซมอนเริ่มติดต่อกับบลูผ่านอีเมล แลกเปลี่ยนเรื่องราว ความคิดเห็น ความลับจนเกิดเป็นความสัมพันธ์ที่ดี

 

 

                แม้จะไม่มากมาย แต่ภาพยนตร์รักแนวชายรักชายมักจะมาจากสตูดิโอเล็ก ๆ และมีตอนจบที่ไม่สวยงามนัก แต่ Love Simon แตกต่างออกไป ด้วยความตั้งใจของผู้กำกับ เกร็ก เบอร์ลานติ ที่ต้องการให้นี่เป็นภาพยนตร์โรแมนติกคอมเมดี้ ที่เล่าเรื่องราวชีวิตวัยรุ่น การก้าวผ่านช่วงวัยเพื่อเรียนรู้และเข้าใจตัวตน ในโลกที่การเปิดตัวว่ารักเพศเดียวกันเป็นเรื่องผิดปกติ ในขณะที่การรักต่างเพศนั้นแสนสามัญ ทั้ง ๆ ที่ไม่ว่าจะรักใครมันก็คือความรัก และมันไม่เคยที่จะไม่สวยงาม เพราะฉะนั้นสิ่งแรกที่ภาพยนตร์เรื่องนี้มอบให้เราคือการมองความรักโดยไม่จำกัดอยู่ที่เพศชาย หรือเพศหญิง เพราะมันเป็นเรื่องของ ‘คน’ ที่รัก ‘คน’ อีกคนหนึ่งเท่านั้น

 

 

                Love Simon คือภาพยนตร์ Coming of Age ที่เล่าเรื่องราวก้าวผ่านวัยของวัยรุ่นทั่วไปที่เพิ่มเติมรสนิยมทางเพศที่แตกต่างจากสิ่งที่สังคมมองว่าปกติ เพราะฉะนั้นภาพยนตร์เรื่องนี้จึงไม่ได้มุ่งแสดงให้เห็นถึงความรักของเด็กหนุ่มคนหนึ่ง กับเด็กหนุ่มอีกคนเท่านั้น แต่ยังสะท้อนให้เห็นถึงภาพรวมของสภาพแวดล้อม ไม่ใช่เพื่อบอกว่าเราต้องทำอะไรถึงจะดี แต่บอกว่าถ้าเราทำอย่างนี้ผลที่เกิดขึ้นจะเป็นอย่างไร และความเข้าใจของครอบครัวคือสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้เราก้าวผ่านปัญหาได้ทุกอย่าง แม้ว่าเรื่องราวของแต่ละคนอาจจะเกิดขึ้นในรูปแบบที่ไม่เหมือนกัน แต่ไม่ว่าอย่างไรสุดท้ายทุกคนเหมาะสมที่จะมีความสุขเป็นของตัวเอง

 

 

                ฉากหนึ่งที่น่าประทับใจคือฉากการเปิดตัวกับครอบครัว ชวนให้เรานึกย้อนไปถึงฉากที่ให้ความรู้สึกเดียวกันซึ่งเกิดขึ้นในภาพยนตร์เรื่อง Call me by your name ด้วยบทและอารมณ์ที่ถ่ายทอดออกมา ไม่จำเป็นว่าต้องเป็นเกย์ก็สามารถเข้าใจความรู้สึกนี้ได้อย่างชัดเจน บางฉากของภาพยนตร์อาจดูเกินจริงไปบ้าง แต่มันเป็นความพยายามถ่ายทอดเรื่องราวออกมาว่าสิ่งที่เกิดขึ้นมันไม่ใช่เรื่องที่แปลกประหลาด เพียงแค่กล้าที่จะยอมรับตัวเอง เราก็สามารถเป็นตัวเองได้

 

                Love Simon จึงไม่ได้เป็นแค่ภาพยนตร์โรแมนติกคอมเมดี้เท่านั้น แต่นี่เป็นภาพยนตร์ที่เหมาะสมจะดูกันทั้งครอบครัว เสริมความเข้าใจและก้าวผ่านปัญหาไปด้วยกัน ทุกคนล้วนมีความลับ ทุกคนล้วนมีปัญหา ทุกคนล้วนต้องก้าวข้ามผ่านบางสิ่งบางอย่างในจิตใจกันมาทั้งสิ้น สิ่งสำคัญที่พวกเขาต้องการมากที่สุดคือคนที่อยู่เคียงข้าง พร้อมเข้าใจและก้าวผ่านปัญหาไปด้วยกัน คนที่ว่าเป็นได้ทั้งเพื่อน หรือครอบครัว ไม่จำเป็นว่าต้องเป็นคนรักเสมอไป

 

 

                Love Simon เป็นภาพยนตร์ที่ถือได้ว่าเข้าใจวัยรุ่นมากที่สุดเรื่องหนึ่ง และสำหรับทุกคนรักเพศเดียวกัน ภาพยนตร์เรื่องนี้ย้ำเสมอว่ามันไม่ใช่เรื่องผิดปกติ จงอย่าคิดว่าตัวเองด้อยคุณค่า จงเข้มแข็ง จงเรียนรู้ จงเติบโต จงเป็นตัวเอง และจงเชื่อว่าคุณไม่ได้โดดเดี่ยวบนโลกใบนี้ เพราะอย่างที่คำโปรยของภาพยนตร์บอก นั่นคือ ‘ทุกคนมีสิทธิจะได้พบกับพลังรักที่ยิ่งใหญ่