HIGHLIGHT CONTENT

เจาะลึกวิธีสร้างไม้กายสิทธิ์ใน Fantastic Beasts and Where to Find Them

  • 36,987
  • 04 ส.ค. 2016

เจาะลึกวิธีสร้างไม้กายสิทธิ์ใน
Fantastic Beasts and Where to Find Them

 

โดย Aye, Ms. You

 

 

“ไม้กายสิทธิ์จะเลือกผู้เป็นเจ้าของมัน”

เราได้ยินคำกล่าวนี้จากภาพยนตร์แฟนตาซีฟอร์มยักษ์อย่าง แฮร์รี่ พอตเตอร์ มาหลายครั้งหลายครา แต่สำหรับภาพยนตร์จักรวาลเดียวกันอย่าง Fantastic Beasts and Where to Find Them หรือ สัตว์มหัศจรรย์และถิ่นที่อยู่ ผู้ที่เป็นเจ้าของกลับเลือกไม้กายสิทธิ์เป็นของตนเองแทน!

เอ็ดดี้ เรดเมย์น นักแสดงเจ้าของรางวัลออสการ์ ผู้รับบท “นิวต์ สคามันเดอร์” ใน Fantastic Beasts and Where to Find Them นั้นเล่าให้ทาง EW ฟังว่าวิธีที่เขาแสดงนั้นมีส่วนช่วยในการออกแบบไม้กายสิทธิ์อย่างไรบ้าง

“ผมคิดเอาไว้ว่าผมน่าจะมีไม้กายสิทธิ์ที่ปรากฏขึ้นในมือของผม” เอ็ดดี้ เรดเมย์น เล่าถึงที่มาของไม้กายสิทธิ์ของเขา “แต่ในความเป็นจริงแล้ว เราได้คุยกับผู้ออกแบบของประกอบฉากและปรึกษาอย่างละเอียดถี่ถ้วนกับเดวิด เยตส ผกก. เกี่ยวกับศักยภาพที่นิวต์ สคาแมนเดอร์มี เขาไม่ใช่คนที่ชอบอวดความสามารถ ผมเลยคิดว่าเราควรจะให้ทุกอย่างดูเรียบง่าย เราเลยตัดสินใจว่าจะสร้างไม้กายสิทธิ์จากไม้แอชวู้ด และให้มันมีรอยขูดขีดเล็กน้อย และมีรอยไหม้ด้วย เพื่อให้คนดูรู้สึกได้ว่าเขาผ่านการเดินทางมาแล้วรอบโลกกับไม้กายสิทธิ์อันนี้ และมันมีเบื้องเหลังมากมายทีเดียว”

“แต่สำหรับด้ามจับ เรากำลังปรึกษากันว่าจะใช้เขาสัตว์หรือหนังดี แต่ผมไม่ชอบไอเดียที่จะใช้ผลิตภัณฑ์จากสัตว์มาทำ เพราะตัวละครของผมเป็นนักสัตว์วิทยา สุดท้ายแล้ว พวกเขาเลยเลือกจะใช้เปลือกหอยแทน ซึ่งมันให้ความรู้สึกเปล่งประกายของมุกเล็กน้อย เราคุยแลกเปลี่ยนกันไปมา จนเมื่อพวกเขาออกแบบเสร็จแล้ว ผมค่อนข้างตื่นเต้นทีเดียว อินเนอร์เด็กวัย 9 ขวบพลุ่งพล่าน มีเพลงดิสโก้อยู่ในหัว และผมจะได้ใช้มันแล้วด้วย!”

 

 

Fantastic Beasts and Where to Find Them จะย้อนเหตุการณ์กลับไปในโลกเวทมนตร์ก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ในแฮร์รี่ พอตเตอร์ โดยจะเล่าถึงกระเป๋าอันพิศวงของนิวต์ สคามันเดอร์ นักสัตว์วิทยาที่เดินทางรอบโลกเพื่อศึกษาเหล่าสัตว์มหัศจรรย์ในโลกอันลึกลับนั่นเอง และฉากหลังของหนังจะย้อนกลับไปที่มหานครนิวยอร์คในปี 1926 ด้วย

Fantastic Beasts and Where to Find Them มีแผนเข้าฉาย 17 พ.ย.นี้ในโรงภาพยนตร์ และภาคต่อนั้นมีแผนเข้าฉายเดือนพ.ย.ปี 2018 แน่นอน

 

 

ที่มา Entertainment Weekly

ข่าวที่เกี่ยวข้อง