HIGHLIGHT CONTENT

5 เหตุผลสุดมหัศจรรย์ ของ Fantastic beasts ทำรายได้พุ่งสู่100ล้าน

  • 78,476
  • 18 พ.ย. 2016

5 เหตุผลสุดมหัศจรรย์ ของ Fantastic beasts ทำรายได้พุ่งสู่100ล้าน

 

 

กลายเป็นปรากฎการณ์ถล่มโรงหนังทุกระบบ หลังจาก Fantastic beasts and Where to Find Them เข้าฉายในวันแรก ปรากฎว่าทุกโรงหนังในเครือเมเจอร์ แน่นขนัดไปด้วยเหล่ามักเกิ้ลและโนแมจที่คลั่งไคล้ติดตามภาพยนตร์แฟรนไชนส์เวทมนตร์ของเจเค โรว์ลิ่ง เพียงเปิดฉายอย่างเป็นทางการไม่กี่วัน ล่าสุดรายได้ในเมืองไทยพุ่งสู่100ล้านบาทแล้ว เราจึงพาทุกคนมาหาสาเหตุที่ทำไม ภาพยนตร์ Fantastic beasts  สร้างความมหัศจรรย์ได้ขนาดนี้ 

 

 

1.เขียนบทภาพยนตร์โดย เจเค โรว์ลิ่ง และกำกับโดย เดวิด เยตส์ 
Fantastic beasts and Where to Find Them  แม้จะเคยเป็นหนังสือแยกจากชุดแฮร์รี่ พอตเตอร์มาก่อน แต่หนังสือเล่มนั้นกลับเป็นหนังสือที่ว่าด้วยข้อมูลของสัตว์วิเศษ คล้ายกับสารานุกรมมากกว่าการเป็นหนังสือที่มีบทผจญภัย เจเค โรว์ลิ่ง จึงได้นั่งแท่นเขียนบทภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วยตัวเอง เพราะเธอมีความเข้าใจจักรวาลเวทมนตร์ที่เธอเป็นผู้สร้าง รวมถึงยังได้ เดวิด เยตส์ ผู้กำกับจากแฮร์รี่ พอตเตอร์ กลับมาร่วมสร้างโลกเวทมนตร์ให้เป็นจริงอีกครั้ง 

 

2.เอ็ดดี้ เรดเมย์น นักแสดงดีกรี ออสก้าร์
ตัวละครนำของ Fantastic beasts คือ นิวท์ สคาร์แมนเดอร์ รับบทโดย เอ็ดดี้ เรดเมย์น  นักแสดงดีกรีออสก้าร์ สาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยมจากภาพยนตร์ The Theory of Everything โดยในระดับฮอลลีวู้ดถือว่า เอ็ดดี้ เป็นนักแสดงเจ้าบทบาทมีฝีมือการแสดงระดับแถวหน้า การมาแสดงเป็น นิวท์ สคาร์แมนเดอร์  ถือว่าเป็นบทนำที่น่าจดจำ รวมถึงสร้างความประทับใจให้กับคนดูได้อย่างแน่นอน นอกจากนี้  Fantastic beasts  ยังคับคั่งด้วยนักแสดงที่น่าสนใจเช่น แคเธอรีน วอเตอร์สตัน (“Steve Jobs”, “Inherent Vice”) ในบททีน่า, นักแสดงผู้ชนะรางวัลโทนีแดน โฟเกลอร์ (“The 25th Annual Putnam County Spelling Bee”) ในบทเจค็อบ,อลิสัน ซูดอล (“Transparent”) ในบทควีนนี่ น้องสาวของทีน่า, เอซรา มิลเลอร์ (“Trainwreck”, ผลงานที่กำลังจะเข้าฉายเรื่อง “Justice League”) ในบทเครเดนซ์,นักแสดงผู้เข้าชิงรางวัลออสการ์สองสมัย ซาแมนธา มอร์ตัน (“In America”, “Sweet and Lowdown”) ในบทแมรี่ ลูแบร์โบน, นักแสดงผู้ชนะรางวัลออสการ์จอน วอยต์ (“Coming Home”, ผลงานทางโทรทัศน์เรื่อง “Ray Donovan”) ในบทเฮนรี่ ชอว์ซีเนียร์, คาร์เมน เอโจโก (“Selma”) ในบทเซราฟิน่าพิคเคอรีและคอลิน ฟาร์เรลล์ (“Saving Mr. Banks”, ผลงานทางโทรทัศน์เรื่อง “True Detective”) ในบทเพอร์ซิวัล เกรฟส์

 

 

3.เชื่อมจักรวาลขยายแฮร์รี่ พอตเตอร์ 
หลังจากหนังสือที่สร้างประวัติศาสตร์เล่มแรกของเจ โค โรว์ลิง ออกมาได้เกือบสองทศวรรษ ณ บัดนี้ ผู้ชมจะได้หวนกลับสู่โลกเวทมนตร์อีกครั้งในยุคใหม่แห่งความมหัศจรรย์ใน “Fantastic Beasts and Where to Find Them” แม้ว่า “Fantastic Beasts” จะเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในอีกยุคสมัยและอีกสถานที่โดยสิ้นเชิง แต่ก็ยังมีความเชื่อมโยงกับแฮร์รี พอตเตอร์ เพราะ Fantastic Beasts and Where to Find Themเป็นตำราเล่มหนึ่งของแฮร์รีที่โรงเรียนคาถาพ่อมดแม่มดและเวทมนตร์ศาสตร์ฮ็อกวอร์ตส์ และนี่เป็นจุดเริ่มต้นของจักรวาลขยายที่ได้รับไฟเขียวอนุมัติให้สร้างต่อ รวมทั้งหมด 5 ภาค 

 

 

4.ดนตรีประกอบพาเข้าสู่โลกเก่า 
Fantastic Beasts and Where to Find Them ได้ James Newton Howard มาทำเพลงประกอบภาพยนตร์ให้ ซึ่งก่อนหน้านี้เคยฝากผลงานไว้ในภาพยนตร์ Maleficent, The Hunger Games: Catching Fire ไม่ใช่แค่กลิ่นอายใหม่แต่เขายังผสม ดนตรีประกอบภาพยนตร์เป็นการนำซาวด์เดิมของแฮร์รี่ พอตเตอร์ ของจอห์น วิลเลี่ยม ให้อารมณ์คนดูกลับเข้าไปสู่ห้วงแห่งโลกเวทมนตร์ใบเดิมอีกครั้งก่อนที่จะบิดเข้าสู่ซาวด์ใหม่ที่พยายามจะบอกว่านี่ไม่ใช่เรื่องราวแบบเดิมๆที่เรารู้จัก  

 

5. เทคนิคล้ำกว่า จัดเต็มทุกระบบกว่าตอน Harry Potter 
การกลับเข้าสู่โลกเวทมนตร์ในครั้งนี้สร้างความตื่นตาตื่นใจตรงที่เอฟเฟ็กต์จัดเต็มมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในโรง IMAX แม้  Fantastic Beasts and Where to Find Them  ไม่ได้ใช้กล้อง IMAX ในการถ่ายทำ แต่ทางผู้สร้างภาพยนตร์ได้จัดทำ Effect 3D พิเศษให้กับระบบ IMAX โดยการใช้ประโยชน์จากความสูงของจอ IMAX ในการขยายเฉพาะ Effect 3D ต่างๆที่ต้องการให้พุ่งออกมานอกจอ เช่น สัตว์มหัศจรรย์ทั้งหลาย หรือ ลำแสงจากเวทมนตร์ต่างๆ โดยที่ภาพทั้งภาพไม่ได้ขยายตามไปด้วยส่งผลให้ Effect 3Dจะพุ่งเลยขอบภาพWide screen ออกมาและส่งผลให้ 3D พุ่งทะลุจอมากขึ้นในโรง IMAX ส่วนอีกระบบที่เอฟเฟ็กต์หนักจัดเต็มพอๆกันคือ 4DX ที่ทำให้เหมือนเราได้ไปโลดแล่นในโลกของนิวท์จริงๆเลย 

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง