HIGHLIGHT CONTENT

เฉลยความลับ 'เครแดนซ์ ' ความมืดมิดที่ เจเค โรว์ลิ่งซ่อนความหมายแฝงเอาไว้

  • 258,182
  • 23 พ.ย. 2016

ถอดปริศนา 'อ็อบสคูรัส'
พลังด้านมืดที่ระเบิดออกมา
เจเคต้องการบอกอะไรกับคนดูต้องอ่าน!!

 

โดย Aye, Ms. You

 

มีสปอยล์เนื้อหาหลักของ Fantastic Beasts and Where to Find Them


 

 

 

เจ.เค.โรว์ลิ่งทำให้โลกเวทมนตร์กลับมาน่าอัศจรรย์ใจอีกครั้ง และทำให้เราติดกันงอมแงมกว่าที่เคยใน Fantastic Beasts มีประเด็นที่แฝงในหนังนั้นกลับไม่เก่า และร่วมสมัยเอามากทีเดียว หรืออาจจะพูดได้ว่าประเด็นในหนังนั้นยังคงเป็นประเด็นสังคมที่มีมาตั้งแต่สมัยก่อนจนกระทั่งในปัจจุบันก็ยังพบเห็นได้ และประเด็นหนึ่งที่พบในหนังเรื่องนี้ก็คือเรื่องของอันตรายจากการการกดตัวตนเอาไว้ ซึ่งสะท้อนผ่านตัวละครหลักของเรื่องอย่าง เครแดนซ์ แบร์โบน นั่นเอง   

ทาง Movie Pilot ได้พาเราไปสำรวจตัวละครของ เอซร่า มิลเลอร์ ที่มีชื่อว่า เครแดนซ์ แบร์โบน ลูกชายบุญธรรมของบ้านแบร์โบน ซึ่งเป็นสมาชิกของซาเล็มรุ่นที่สอง กลุ่มศาสนาที่ต่อต้านการมีอยู่ของผู้วิเศษในอเมริกาและพร้อมที่จะเปิดเผยตัวตนของพ่อมดแม่มดและแฉโลกเวทมนตร์ด้วย เครแดนซ์ ถูกเลี้ยงดูโดย แมรี่ ลู แบร์โบน ผู้นำซาเล็มรุ่นที่สองที่ทำร้ายเขาทางร่างกายอยู่เป็นประจำ ทำให้เขากลายเป็นเด็กที่ขี้ขลาดและหวาดกลัวอยู่ตลอดเวลา ซึ่งจุดนี้เองที่ทำให้ เพอร์ซิวอล เกรฟส์ หัวหน้ามือปราบมารของ MACUSA เข้ามาตีสนิทและใช้จุดนี้ในการหาผลประโยชน์จากเครแดนซ์ให้ตามเด็กที่มีพลังพิเศษนั่นเอง

 

 

ในหนังอธิบาย นิวท์ อธิบายให้เราฟังว่า “อ็อบสคูรัส” จะก่อตัวขึ้นภายในเด็กที่มีเวทมนตร์ที่ถูกบังคับให้ต้องกดความสามารถและพลังของตัวเองไว้ข้างใน และเมื่อถูกกดมาก ๆ เข้า พลังมหาศาลนั้นก็เข้าครอบงำพวกเขาและถูกปลดปล่อยออกมาในรูปของพลังอันรุนแรงและชั่วร้ายมาก ซึ่งสุดท้ายแล้วมันก็จะคร่าชีวิตผู้ที่ครอบครองนั้น และไปหาร่างใหม่พัฒนาตัวเองต่อไป ทำให้ “อ็อบสคูเรียล” เด็กที่มีพลังนี้ไม่สามารถรอดพ้นวัยเด็กมาได้ มีอายุไม่เกิน 10 ขวบเท่านั้น แต่สำหรับ เครแดนซ์ แล้ว เขาสามารถอยู่รอดมาได้พร้อมกับมีสิ่งนี้อยู่ในตัว และจากตอนท้ายเรื่องที่ เกรฟส์ ทรยศความรู้สึกและทำลายความเชื่อใจของ เครแดนซ์ โดยบอกว่าเขาเป็น สควิบ และไม่สามารถสอนให้ใช้เวทมนตร์ได้นั้น ทำให้พลังของเขาปะทุขึ้นมาและทำลายทุกสิ่งนั่นเอง

น่าสนใจตรงที่ว่าแนวคิดของ อ็อบสคูรัส นั้นราวกับเป็นสาส์นจากเจ. เค. โรว์ลิ่งที่แฝงประเด็นของ LGBT ไว้ในหนังได้อย่างน่าชื่นชม ในแง่ของการเปรียบเทียบลักษณะที่เหมือนกันระหว่าง อ็อบสคูเรียล และคนกลุ่ม LGBT นี้ ตั้งแต่เรื่องของการต้องเก็บความรู้สึกเอาไว้ภายใน และไม่สามารถเปิดเผยตัวเองได้, การถูกทำร้ายจากคนที่ไม่เห็นด้วย หรือรังเกียจในความเป็นตัวตนของพวกเขา ซึ่งในหลาย ๆ ครั้งนั้น กลุ่มคนเหล่านี้ก็ถูกทำร้ายทางจิตใจ ถูกล้อเลียน ถูกกลั่นแกล้งมาตั้งแต่สมัยเด็ก และบางครั้งมันรุนแรงจนลามไปถึงการฆ่ากันด้วย รวมไปถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการเก็บกดความรู้สึกเอาไว้ภายใน จนเมื่อฟางเส้นสุดท้ายขาดลง ก็ปะทุและกลายเป็นหายนะอย่างคาดไม่ถึง

 

 

และเมื่อลองพิจารณาจากการที่ได้ เอซร่า มิลเลอร์ มาเล่นบทนี้ด้วยแล้ว ซึ่งเขานั้นเคยเปิดเผยว่า เขารักเพศเดียวกัน และในอดีตเคยถูกกลั่นแกล้งเพราะเขาพูดติดอ่าง และการกลั่นแกล้งนั้นทำให้เขารู้สึกแปลกแยกจากเพื่อน ทำให้การนำเสนอประเด็นนี้ในหนังฟอร์มยักษ์ระดับโลกนี้เป็นสิ่งที่ชาญฉลาดมาก เจ.เค.เลือกที่จะนำเอาประเด็นที่ร่วมสมัยและมีการถกเถียงกันในปัจจุบันมาเล่นในภาพยนตร์ที่มั่นใจได้เลยว่าคนเกือบทั่วโลกจะได้รับรู้เรื่องนี้ และมันกลายเป็นพื้นที่ที่ทำให้เราได้สำรวจความแตกต่างของกันและกันเพิ่มมากขึ้น และทำให้เราเข้าใจและยอมรับในความเป็นตัวตนของกันและกันมากขึ้นนั่นเอง

นอกจากตัว เครแดนซ์ แบร์โบน แล้ว สิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างในเรื่องก็คือคำพูดของ เกลเลิร์ต กรินเดลวัลด์ ที่ตั้งคำถามถึงการตั้งกฏหมายปกปิดตัวตนของผู้วิเศษในนิวยอร์คว่ากฏหมายนี้มัน “ปกป้อง” ใครกันแน่ ซึ่งนี่อาจเป็นอีกจุดหนึ่งที่เชื่อมโยงถึงความรุนแรงและหายนะที่เกิดขึ้นจากการเก็บกดตัวตนหรือปกปิดตัวตนด้วย ซึ่งเจ.เค.ไม่ได้เพิ่งทำสิ่งนี้ใน Fantastic Beasts and Where to Find Them เจ.เค.เคยสร้างตัวละครที่เป็นตัวแทนของคนหลากหลายประเภทในแฟรนไชส์แฮร์รี่ พอตเตอร์มาแล้ว ตั้งแต่ รีมัส ลูปิน ที่เป็นตัวแทนของผู้ที่ติดเชื้อ HIV หรือจะเป็นการเหยียดพวกเลือดสีโคลนที่สะท้อนการเหยียดผิวและเชื้อชาติ และบรรดาตัวเอกในบทประพันธ์ของเจ.เค.นั้นจะไม่ได้ตรงตามหลักพระเอกหรือนางเอกในอุดมคติ หากแต่เป็นตัวละครที่ขี้อาย มีปัญหากับการเข้าสังคม หรือมีปมปัญหาในชีวิตนั่นเอง ซึ่งจุดนี้เองก็เป็นจุดหนึ่งที่ทำให้ทั้งคนอ่านและคนดูต่างเชื่อมโยงตัวเองเข้ากับเรื่องราวและหลงรักโลกเวทมนตร์อย่างถอนตัวไม่ขึ้นด้วย 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง