เจาะลึกงานแอ็คชั่นสุดดิบโหดใน Assassin’s Creed
เล่นจริง อันตรายจริง
ในฐานะแฟรนไชส์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดและมีผู้ชื่นชอบมากที่สุดแฟรนไชส์หนึ่งในวงการเกม Assassin’s Creedมีชื่อเสียงด้านแอ็คชันที่ตื่นเต้นเร้าใจ เกมซีรีส์นี้เป็นเกมแรกๆ ที่นำเอาการเคลื่อนไหวแบบปากัวร์มาใช้เป็นองค์ประกอบสำคัญในการเล่นเกม โดยให้เหล่าอัสแซสซินกระโดดอย่างคล่องแคล่วไปตามหลังคาอาคารบ้านเรือนในเมืองต่างๆ อย่างเยรูซาเล็ม ฟลอเรนซ์ ปารีส และลอนดอน
สำหรับการดัดแปลงมาสู่จอภาพยนตร์ เคอร์เซลตั้งใจที่จะนำการเคลื่อนไหวอันชวนเวียนหัวนี้มาขยายต่อด้วยการไล่ล่าสุดระห่ำบนรถม้า การดวลดาบอย่างฉวัดเฉวียน และการต่อสู้ด้วยมือในระยะประชิด ผู้กำกับยังตระหนักด้วยว่าหนังเรื่องนี้จำเป็นต้องมีท่า ลีพ ออฟ เฟธ อันเป็นเอกลักษณ์ของเกม Assassin’s Creedซึ่งอัสแซสซินจะกระโดดจากยอดอาคารลงสู่พื้นด้านล่างอย่างสวยงามโดยมีน้ำหรือกองฟางรองรับ “จะเกิดอะไรขึ้นถ้าคุณทำท่า ลีพ ออฟ เฟธจริงๆ” เคอร์เซลถาม“จะเกิดอะไรขึ้นถ้าคุณได้เห็นอัสแซสซินกระโดดจากตึกหนึ่งข้ามไปยังอีกตึกหนึ่งจริงๆ ความยอดเยี่ยมของภาพยนตร์ก็คือคุณสามารถนำความเป็นมนุษย์ใส่เข้ามาได้ ช่วยให้ผู้ชมรู้สึกว่ากำลังดูมนุษย์จริงๆ ที่ได้ทุ่มเทความพยายามและเสี่ยงอันตรายเพื่อทำสิ่งเหล่านี้”
เคอร์เซลและทีมงานได้ติดต่อนักเล่นปากัวร์ชั้นนำให้มาช่วยวางแผนว่าจะสร้างฉากแอ็คชันใน Assassin’s Creedอย่างไรโดยไม่ต้องพึ่งซีจีจนมากเกินไป จากนั้นกองถ่ายก็ได้เดินทางไปยังสถานที่อันงดงามน่าตื่นตาด้วยหวังว่าจะได้ถ่ายทอดฉากอันเป็นเอกลักษณ์นี้ให้ผู้ชมได้รับประสบการณ์ที่เต็มอิ่มและสมจริง
“ผมไม่อยากให้หนังเรื่องนี้เป็นเหมือนหนังซูเปอร์ฮีโร่” เคอร์เซลกล่าว“ผมอยากให้คุณดูหนังแล้วคิดว่า โอ้โห มีคนทำแบบนี้ได้ด้วย เหมือนกับว่าพวกเขาเป็นนักกีฬาโอลิมปิก แทนที่จะถ่ายทำในลานจอดรถและใช้ฉากกรีนสกรีนซึ่งคุณจะรู้สึกได้ว่ามันเป็นของปลอม อาจเพราะเหตุนี้เราจึงเน้นแนวทางการทำหนังแบบดั้งเดิมเพื่อให้หนังทั้งเรื่องดูมีความเป็นมนุษย์และสัมผัสได้จริง”
เคอร์เซลให้ผู้ประสานงานสตันท์มือรางวัล เบน คุก (Skyfall) มาออกแบบการต่อสู้ให้เหล่าอัสแซสซินโดยยังคงรูปแบบในเกมเอาไว้แต่ก็เพิ่มความน่าตื่นตาตื่นใจให้ผู้ชมด้วย ทีมงานยึดความสมจริงเป็นหลักประจำใจ คุกกล่าวว่า “ผมได้ผู้เชี่ยวชาญด้านปากัวร์มืออันดับต้นๆ ของโลก และทีมสตันท์ที่พยายามใช้ทักษะทางร่างกายที่คนเรามีอยู่จริงๆ โดยไม่หวังพึ่งแต่การแต่งภาพหรือลวดสลิง ดังนั้นคุณจะได้เห็นคนเล่นฉากผาดโผนจริงๆบนจอภาพยนตร์ครับ”
แล้วอันตรายก็เป็นของจริงด้วย กองถ่ายขึ้นไปถ่ายทำบนหลังคาโบสถ์อายุ 500 ปีในวาลเล็ตตา เมืองหลวงของมอลตา โดยในบางช่วงก็ต้องโยงลวดสลิงเข้ากับปืนครกอายุหลายร้อยปีและหวังว่ามันจะอยู่ “การที่เราสัมผัสได้ถึงอันตราย สัมผัสได้ถึงความสมจริง ก็เหมือนการสูบฉีดออกซิเจนเข้าไปในหนังเรื่องนี้ครับ” เคอร์เซลกล่าว “การถ่ายทำหลายๆ ฉากด้วยการแสดงจริงช่วยให้ประสบการณ์ทางภาพยนตร์ครั้งนี้เต็มอิ่มมากยิ่งกว่าเดิม”
ด้วยความที่ไม่เคยปฏิเสธความท้าทายในด้านการแสดง ฟาสเบนเดอร์จึงเล่นบทผาดโผนเองในหลายๆ ฉาก “เขาต้องฟิตร่างกายอย่างหนัก” เคอร์เซลกล่าว “เขาฝึกซ้อมเต็มที่ เขาฝึกปากัวร์ เขาเล่นฉากต่อสู้เองหลายๆ ฉาก ผมคิดว่าเรื่องนี้ดึงดูดความสนใจเขาในการมารับบทด้วยนั่นก็คือการได้มีส่วนร่วมอย่างเต็มที่ในการถ่ายทอดลักษณะท่วงท่าของตัวละครในภาคอดีต”
“ผมฝึกซ้อมทุกเช้าก่อนมาทำงาน มีทั้งการปรับสภาพและสร้างความแข็งแรงของร่างกาย” ฟาสเบนเดอร์กล่าว “จากนั้นก็ไปฝึกปากัวร์ ซึ่งเป็นสิ่งที่โดดเด่นมากในเกม ดังนั้นเราจึงมองว่าจะต้องนำเสนอส่วนนี้ออกมาให้ถูกต้อง ในแง่เทคนิคการต่อสู้ของอากีลาร์นั้น อาวุธที่เขาใช้คือใบมีดบริเวณข้อมือเพราะมีการต่อสู้ระยะประชิดอยู่มาก รวมถึงการฟันแทงและการต่อย เราไม่อยากให้การต่อสู้ดูสวยงามมากเกินไป เราอยากให้มันดูยุ่งเหยิงและมีความโหดเหี้ยมด้วย ดังนั้นในหลายๆ ช่วงมันอาจจะดูสวยงามและประณีต แล้วในบางช่วงก็อาจจะดูสมบุกสมบัน โหดร้าย และสับสนอลหม่าน เป็นการตัดสินใจแบบฉับพลันและปรับเปลี่ยนไปตามสถานการณ์”