HIGHLIGHT CONTENT

เรื่องราวทรงคุณค่าของในหลวงรัชกาลที่ ๙

  • 10,793
  • 17 ต.ค. 2017

 

เรื่องราวทรงคุณค่าของในหลวงรัชกาลที่ ๙

 

1.พ่อ “ให้” ก่อนเสมอ

ครั้งเมื่อพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ยังทรงพระเยาว์ ได้ทรงชุดตัวนาง (ชุดผู้หญิง) ถวายสมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า เนื่องจากสมเด็จพระพี่นางเธอไม่อยากทรงชุดตัวนาง อยากทรงชุดตัวพระ(ชุดผู้ชาย) ดังนั้นในหลวงรัชกาลที่ 9 จึงสละชุดตัวพระ และเปลี่ยนมาทรงชุดตัวนางแทน

 

2.พ่อเป็น “นักเจรจา”

ในสมัยที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ยังทรงพระเยาว์ ก็ทรงซุกซนบ้างเหมือนเด็กๆทั่วไปเช่นกัน ซึ่งเวลาที่ทำผิดสมเด็จย่าก็จะลงโทษตามความเหมาะสม แต่หากสมเด็จย่าจะลงโทษ พระองค์จะเจรจากันก่อนว่า โทษนี้ เกิดจากความผิดอะไร และควรตีกี่ที ซึ่งมีอยู่บางครั้งที่ในหลวงจะทรงต่อรองว่า 3 ทีมากเกินไป 2 ทีพอแล้ว

 

3.“การใช้เงิน” ของพ่อ

ตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์ในหลวงรัชกาลที่ 9 ก็ทรงได้รับการอบรมให้รู้จักการบริหารจัดการการเงิน พระองค์ท่านจะได้เงินค่าขนมเป็นรายสัปดาห์ ซึ่งพวกหนังสือและของเล่น ส่วนใหญ่แล้วพระองค์จะต้องหยอดกระปุกเก็บเงินซื้อด้วยพระองค์เอง เพราะสมเด็จย่าจะไม่ทรงซื้อของพวกนี้ให้พร่ำเพรื่อ ทั้งจักรยานคันแรก แซกโซโฟนตัวแรกซึ่งเป็นของมือสอง หรือกล้องถ่ายรูป พระองค์ก็ทรงเก็บเงินค่าขนม และเงินจากการทำงานเล็กๆน้อยๆเช่น ขนผักไปขาย เพื่อนำมาซื้อของที่พระองค์อยากได้เมื่อพร้อม โดยในบางครั้งสมเด็จย่าก็จะทรงช่วยสมทบด้วยหากเป็นของชิ้นใหญ่

ที่สำคัญพระองค์ยังทรงได้รับการปลูกฝังให้รู้จักการให้ โดยสมเด็จย่าจะทรงตั้งกระป๋องออมสินเรียกว่า “กระป๋องคนจน” เอาไว้ หากทรงนำเงินไปทำกิจกรรมแล้วมีกำไร จะต้องถูกเก็บภาษี โดยนำมาหยอดใส่กระปุกนี้ 10% และทุกสิ้นเดือนสมเด็จย่าจะเรียกประชุมเพื่อถามว่าควรจะเอาเงินในกระป๋องนี้ไปทำอะไร เช่น มอบให้โรงเรียนคนตาบอด มอบให้เด็กกำพร้า หรือทำกิจกรรมเพื่อคนยากจนอื่นๆ

 

4.พ่อสอนให้ “ทำความดี“

เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2525 ณ สวนอัมพร ในหลวงรัชกาลที่ 9 ได้พระราชทานพระบรมราโชวาทแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนนายร้อยตำรวจความว่า

“การทำดีนั้นทำยากและเห็นผลช้า แต่ก็จำเป็นต้องทำ เพราะหาไม่ความชั่วซึ่งทำได้ง่าย จะเข้ามาแทนที่และจะพอกพูนขึ้นอย่างรวดเร็วโดยไม่ทันรู้สึกตัว แต่ละคนจึงต้องตั้งใจและเพียรพยายามให้สุดกำลัง ในการสร้างเสริมและสะสมความดี”

 

5.“บทเพลง” ของแม่

เรื่องราวความรักของในหลวงรัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ อาจจะไม่ได้ถูกเปิดเผยออกมามากนัก แต่ในหลายบทเพลงที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงประพันธ์ขึ้นก็มีแรงบันดาลใจมาจากสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ บทเพลงนั้นได้กล่าวถึงยามที่ทั้งสองพระองค์ต้องห่างไกลกันอย่าง เพลงอาทิตย์อับแสง (Blue Moon) และ เทวาพาคู่ฝัน (Dream of Love Dream of You) เป็นต้น ซึ่งจากบันทึกส่วนพระองค์ได้ระบุไว้ว่า ยามพระองค์ต้องจากกันก็เหมือน “อาทิตย์อับแสง” และในพระราชหฤทัยนั้นหวังอยากให้ “เทวาพาคู่ฝัน” มาให้ โดยพระองค์ได้โปรดเกล้าให้พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์ท่านเจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ นิพนธ์คำร้องทั้งภาษาอังกฤษและภาษาไทย

นอกจากนี้สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯยังได้เคยขับร้องทั้งสองเพลงนี้ในงานฉลองวันคล้ายวันพระราชสมภพของพระองค์ท่านเอง ในวันที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2492 ที่ภายหลังในวันเดียวกันนั้นในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงได้พระราชทานพระธำมรงค์หมั้นให้แก่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ

“จวบจนทิวาเรืองงาม สบความรักยามคืนคง”
Again, the sun will shine. That day I’ll make you mine” - เพลงพระราชนิพนธ์ อาทิตย์อับแสง (Blue Day)

 

6.“รอยยิ้ม“ ของพ่อ

เมื่อย้อนกลับไปดูรูปเก่าๆของในหลวงรัชกาลที่ 9 เราอาจจะไม่ค่อยได้เห็นรูปที่พระองค์ทรงแย้มพระสรวลมากนัก จนครั้งหนึ่งนักข่าวต่างประเทศเคยกราบบังคมทูลถามพระองค์ ว่า เพราะเหตุใดพระมหากษัตริย์ไทยจึงไม่ค่อยยิ้ม คำตอบของพระองค์คือการผายพระหัตถ์ไปทางสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ แล้วตรัสว่า “She is my smile.”

 

7.“ความกตัญญู“ ของพ่อ

เมื่อครั้งที่สมเด็จย่ายังทรงมีพระชนม์ชีพอยู่นั้นในหลวงรัชกาลที่ 9 ผู้ซึ่งแม้จะมีพระราชกรณียกิจมากมายแค่ไหน ทรงงานหนักกว่าใครๆ แต่พระองค์จะทรงหาเวลาไปรับประทานพระกระยาหารค่ำกับพระบรมราชชนนีอย่างน้อยสัปดาห์ละ 5 วัน อยู่เสมอ ทรงตรัสว่า “ไปทำให้แม่ชุ่มชื่นหัวใจ”

และทุกครั้งที่ทรงเสด็จพระราชดำเนินไปที่ใดพร้อมสมเด็จย่า แม้จะมีข้าราชบริพารรายล้อมเพื่อคอยดูแลสมเด็จย่า แต่พระองค์ก็จะปฏิเสธและกล่าวว่า “ไม่ต้อง คนนี้เป็นแม่เรา เราประคองเอง”

 

8. “สัตว์เลี้ยง“ ของพ่อ

ความโอบอ้อมอารีของในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่มีต่อสัตว์นั้นเป็นที่ประจักษ์ดี หนึ่งในสุนัขทรงเลี้ยงที่จะไม่พูดถึงเป็นไม่ได้คือ “คุณทองแดง” สุนัขทรงเลี้ยงตัวโปรดของพระองค์ เป็นสุนัขเพศเมีย ซึ่งเคยเป็นสุนัขจรจัดบริเวณถนนพระราม 9 ที่นายแพทย์คนหนึ่งนำทองแดงมาทูลเกล้าฯ ถวายให้พระองค์ทอดพระเนตร เมื่อครั้งเสด็จพระราชดำเนินไปเปิดศูนย์การแพทย์พระราม 9 แล้วก็มีรับสั่งว่าให้นำเข้ามาเลี้ยง จากที่เคยเป็นลูกหมาจรจัดก็ได้เข้ามาอยู่ในวัง คุณทองแดงมีลักษณะพิเศษต่างจากลูกสุนัขตัวอื่น คือ มีลายสีขาวเป็นสายสร้อยรอบคอครึ่งเส้น มีถุงเท้าขาวทั้ง 4 ขา มีหางม้วนขดเป็นวง ปลายหางมีดอกสีขาว และมีจมูกแด่น พระองค์ท่านท่านทรงค้นในหนังสือพบว่า "คุณทองแดง" มีลักษณะคล้ายคลึงกับสุนัขพันธุ์บาเซนจิ แต่คุณทองแดงมีขนาดตัวใหญ่กว่า พระองค์จึงทรงเรียกคุณทองแดงว่าเป็น สุนัขพันธุ์ไทยซูเปอร์บาเซนจิ จากก่อนหน้านี้ทรงเรียกว่า เป็นสุนัขพันธุ์เทศ (ย่อมาจาก เทศบาล)

เมื่อเข้ามาอยู่ในวังคุณทองแดงก็เป็นที่โปรดปรานของพระองค์ เนื่องจากเป็นสุนัขที่ฉลาดมาก เช่น เมื่อทรงเรียกให้คุณทองแดงขึ้นเฝ้าเพื่อที่จะชั่งน้ำหนัก แค่เพียงรับสั่งว่า ทองแดงไปชั่งน้ำหนัก คุณทองแดงก็จะเดินขึ้นตาชั่ง หรือ เมื่อเสด็จพระราชดำเนินลงมาเพื่อทรงออกกำลังตรงถนนบริเวณชายหาด ซึ่งมีต้นมะพร้าวอยู่ เพียงรับสั่งว่า อ้อมต้นมะพร้าว คุณทองแดงก็จะวิ่งอ้อมต้นมะพร้าวทันที โดยไม่ต้องมีการสอน และเมื่อวิ่งอ้อมต้นมะพร้าวไปสักครึ่งต้น คุณทองแดงก็จะหยุดหันมามองพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

 

ขอขอบคุณ: https://www.facebook.com/GarenaThailand/

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง