13,052
09 ก.ค. 2015
Terminator : Genisys
คืนชีพจักรกลที่ยังเก๋าไม่สิ้นลาย
IMAX3D
BY FEEDMYBRAIN
ด้วยทุนสร้างกว่า 155 ล้านเหรียญสหรัฐ (อ้างอิงจาก IMDB) กำเนิดเป็น “จุดเริ่มต้น” ใหม่ของไทม์ไลน์และเรื่องราวทั้งหมดที่เราเคยรู้จัก แต่ยังคงแฝงแนวคิดระหว่างมนุษย์และเทคโนโลยีเอาไว้ได้อย่างแยบยล ด้วยลูกเล่นของการเป็นหนังแอคชั่นที่มันส์ระห่ำกระหน่ำจอ เสมือนว่าเรากำลังสวมเกราะเข้าไปสู้รบกับเหล่าจักรกล! Terminator Genisys คือ “จุดเริ่มต้น” ของความสดใหม่ที่ยังคงหยิบยกกลิ่นอายของหนังฅนเหล็กในตำนานกลับมาเร้าอารมณ์ แต่พลิกเรื่องราวด้วยคำถามที่คอยกังขาอนาคตอันไม่แน่นอนว่า “ถ้าเกิดว่า... จะเกิดอะไรขึ้น?!”
Terminator Genisys เป็นผลงานการกำกับของ อลัน เทย์เลอร์ ผู้เคยฝากฝีมือไว้ใน Thor : The Dark World และทีวีซีรี่ย์ชื่อดัง Game of Thrones โดยในครั้งนี้ เทย์เลอร์เลือกนำเสนอสิ่งใหม่ที่แตกต่างทว่ายังคงอยู่บนพื้นฐานของเรื่องราวใน The Terminator (1984) และ Terminator 2 : Judgement Day (1991) ทำให้เรายังคงติดตาม เอาใจช่วยในตัวละครตัวเดิมและยังอยากสำรวจใน “ความใหม่” ของไทม์ไลน์ใน Terminator ภาคนี้ด้วย ว่ามันจะเล่นไปสุดที่ตรงไหน และมันจะสร้าง “ความท้าทาย” ใหม่อะไรให้เราอีก? ซึ่งต้องชื่นชมในความกล้าที่จะเปลี่ยนและสร้างสรรค์สิ่งใหม่ให้ “วัตถุดิบ” เดิมที่มีค่าอยู่แล้ว สามารถสร้างความสนุก และคาดเดา “คำตอบ” ของคำถามที่เราเคยสงสัยในอดีตว่า ถ้าเกิดตัวละครตัวนั้นไม่ตาย หรือถ้ามันไม่ทำแบบนี้จะเป็นยังไง นั่นเอง
หนึ่งในเสน่ห์และความสนุกของ Terminator ไม่ว่าภาคไหนๆก็คือ การเล่นกับความขัดแย้งของ “ห้วงเวลา” (Time Paradox) ซึ่งใน Terminator Genisys ก็ยังคงแฝงความสนุกเหล่านั้นเอาไว้ให้เราถกเถียงกันอย่างออกรสว่ามันเป็นไงมาไง แม้เส้นเรื่องอาจจะไม่ซับซ้อนเท่าเพราะอิงเค้าโครงจากเรื่องก่อนมา ทว่ามันก็ยังมี “ปริศนา” ใหม่ๆที่โผล่มาให้เราสนใจและติดตามอยู่เช่นเคย ทำให้คนที่ไม่เคยดู Terminator ทั้ง 4 ภาคก่อนหน้าก็ยังสนุกไปกับเรื่องได้ และคนที่เคยดูแล้วก็จะอินกับฉากต่างๆที่ขยันใส่มาให้นึกถึง “ความหลัง” กันอย่างคับคั่งด้วย Terminator Genisys จึงเหมือนกับการกลับไปดู “เพื่อนเก่าที่ยังเก๋า” กลับมาโลดแล่นบนจออีกครั้งหนึ่ง!
CR. Entertainment Weekly
และแน่นอนว่านอกจากเส้นเรื่องที่เป็นสิ่งใหม่ในภาคนี้ Terminator Genisys ยังมีนักแสดงแคสใหม่มาร่วมบู๊ โดยได้ อมิเลีย คลาร์ก (Game of Thrones) มาเป็น “ซาร่าห์ คอนเนอร์” ที่เน้นไปทางการแสดงอินเนอร์ภายในมากกว่าจะจับปืนบู๊เพียงอย่างเดียว ซึ่งจะแตกต่างกับตอน ลินดา ฮามิลตัน ที่เป็น “ซาร่าห์ คอนเนอร์” ฉบับสู้ทะลุบู๊ไม่หยุดนั่นเอง ส่วนบทบาท ไคล์ รีส ในภาคนี้ได้ ไจ คอร์ตนีย์ (The Divergent Series) มาสวมบททหารหาญที่ยอมเสียสละตัวเองเพื่อปกป้องซาร่าห์เช่นเคย ทว่าในภาคนี้เราจะได้เห็น ไคล์ รีส ในอีกฉบับหนึ่งที่ถูก “พลิก” บทบาทแตกต่างจากภาคก่อนแน่นอน
และสำหรับตัวเอกอย่าง จอห์น คอนเนอร์ ผู้นำกลุ่มต่อต้านจักรกล ในภาคนี้ได้ เจสัน คลาร์ก (Zero Dark Thirty) มาถ่ายทอดความแข็งแกร่งและความเป็นผู้นำ ซึ่งเขาทำได้ดีพอๆกับตอนที่เราเห็น คริสเตียน เบล (Terminator Salvation) ขึ้นแท่นเป็นจอห์น ปลุกระดมเหล่าทหาร และยังได้ เจ.เค ซิมมอนส์ (Whiplash) มาร่วมทีมสร้างความความระทึกของการไล่ล่าในเรื่องด้วย
แล้วเราจะลืม “ป๋าฅนเหล็ก” อย่าง อาโนลด์ ชวาร์ซเนกเกอร์ ที่ยังครองบทเดิมและเป็นภาพจำมากว่า 31 ปีไปได้ยังไง? เพราะภาคนี้ป๋ากลับมาเป็นฅนเหล็กที่ยังบู๊ได้มันส์ และระห่ำ แฝงความทะเล้นชวนขำเอาไว้ได้เหมือนเดิม แม้กาลเวลาจะทำให้ป๋าแกแก่ขึ้น แต่ว่านั่นเป็นข้อดีที่ผกก.เทย์เลอร์สามารถนำมาใช้ในหนังได้ด้วย และความแก่ของอาโนลด์ไม่ได้ทำให้ “ความเก๋า” ในตัวแกลดลงไปเลย ป๋าอาโนลด์ยังคงสร้างความบ้าระห่ำในฉากแอคชั่นเท่ห์ๆได้เสมอ แถมการแสดงของแกในฐานะฅนเหล็กก็ยังสร้างลูกเล่นใหม่ๆให้ในภาคนี้ด้วย #ทีมป๋า
สำหรับภาพและวิชวลเอ็กเฟ็กต์ที่ปรากฏในหนังนั้น แสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าของ Skynet ได้ดีพร้อมกับทันสมัยและสวยงามอย่างที่คาดไม่ถึง ซึ่งในระบบ IMAX3D นั้นจะเห็นภาพที่คมชัด เต็มไปด้วยรายละเอียดอันสวยงามของวิชวลเอ็กเฟ็กต์ที่ใส่มาเพื่อสร้าง “ความใหม่” ให้กับเรื่อง อย่างฉากไทม์แมชชีน หรือฉากที่จอห์นถูกเครื่อง MRI ในโรงพยาบาลดูดก็ตาม
นอกจากนั้น ระบบ IMAX3D ยังทำให้เราเหมือนเข้าไปอยู่ในสนามรบที่คลุกฝุ่นและเต็มไปด้วยระเบิดทุกเมื่อ (รู้สึกว่าภาพของเศษซากอบอวลไปทั่วโรงมาก ลอยผ่านหน้าเต็มไปหมด) แถมด้วยเสียงที่ดังกระหึ่มของเหล่าอาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆที่ระดมยิงสู้กัน หรือฉากรสบัสพลิกคว่ำบนสะพานโกลเด้นเกตก็จัดเต็มสตรีมมาก เรียกได้ว่า ระเบิดเป็นระเบิด กระสุนเป็นกระสุนจริงๆ! #ออกจากโรงแล้วนึกว่าไปรบกับจักรกลมานะเนี่ย
Terminator Genisys คืนชีพจักรกลที่ยังคงความเก๋า แถมแฝงด้วยภาพความหลังของฉากแอคชั่นต่างๆที่เราคุ้นเคย ทำให้นอกจากจะสนุก ระทึก และบู๊ระห่ำมันส์ (ชิบหาย) ไปกับเรื่องแล้ว เรายังได้เห็นอะไรใหม่ๆ ที่คาดไม่ถึงปูทางสู่อีกหนึ่งเส้นทางใหม่ที่จะเกิดขึ้นต่อเนื่องไปอีกในอนาคต ... Terminator Genysis เข้าฉายแล้ววันนี้ในระบบ IMAX3D, 4DX, Atmos3D และ Digital3D
♦ เช็ครอบและจองตั๋วได้เลยที่นี่
http://www.majorcineplex.com/movie/terminator-genisys
