HIGHLIGHT CONTENT

เฉลยบทดั้งเดิม Star Wars 9 ที่โดนโละทิ้งใหม่หมด อวสานเจได ความเลวโหดไคโลเรน

  • 0
  • 17 ม.ค. 2020

 

 

บทดั้งเดิมของ Star Wars 9

พัลพาทีนไม่ได้กลับมา และไคโล เรนเลวจนกู่ไม่กลับ!

 

                ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า Star Wars: The Rise of Skywalker เป็นภาพยนตร์ปิดตำนานไตรภาคที่เสียงแตกมากที่สุด มีทั้งแฟนหนังที่ชื่นชอบภาพยนตร์เรื่องนี้ ในขณะที่ก็มีแฟนหนังอีกไม่น้อยที่ค่อนไปทางไม่ชอบเอาเสียเลย แต่สิ่งที่หนึ่งที่เกิดขึ้นระหว่างการสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ก็คือ บทของภาพยนตร์มีการถูกเปลี่ยนแปลงไป ก่อนจะมาเป็นเวอร์ชั่นของ เจ.เจ.เอบรัมส์ ที่เราได้ดูกัน แต่เป็นเวอร์ชั่นของโคลิน เทรโวโรว์ แถมชื่อของภาพยนตร์ยังไม่ใช่ The Rise of Skywalker ด้วย แต่เป็น Star Wars: Duel of the Fates

 

 

                บทภาพยนตร์ของโคลิน เทรโวโรว์ นี้ถูกเปิดเผยมาจากยูทิวบ์เบอร์ ชื่อ Robert Meyer Burnett ซึ่งทางเว็บไซต์ Collider ได้รับการยืนยันจากแหล่งข่าวว่านี่เป็นของจริง โดยพล็อตเรื่องของ Duel of the Fates นั้นแตกต่างกับ The Rise of Skywalker อย่างสิ้นเชิง เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นที่ โรส และ ฟินน์ กำลังทำภารกิจที่ดาว Coruscant สถานที่ที่ตั้งของวิหารเจไดเก่าแก่ เพื่อจุดไฟแจ้งข่าวว่าตอนนี้สงครามในกาแล็กซี่นี้เกิดขึ้นแล้ว พวกเขาถูกจับกุมตัวโดยฝ่ายปฐมภาคี นำโดย General Hux

                ตอนนั้นเอง ฟินน์ ก็ได้ลุกขึ้นปลุกระดมเหล่าสตรอมทรูปเปอร์ให้ขึ้นมาต่อต้าน บทสรุปของทั้งโรส และฟินน์ ในเวอร์ชั่นนี้คือ ทั้งคู่เป็นผู้นำของกลุ่มคนที่มีพลังฟอร์ซภายในตัว อาศัยอยู่บนดาวดวงหนึ่งที่เป็นสถานที่ฝึกฝนเหล่าเจไดรุ่นใหม่ โดยมีเรย์เป็นผู้ฝึกสอน

 

 

                เรื่องราวทางฝั่งของไคโล เรน นั้น อย่างแรกที่แตกต่างจากเวอร์ชั่นที่เราดูกันไปก็คือ ใน Duel of the Fates ไม่มีจักรพรรดิพัลพาทีน ในตอนเริ่มต้นนั้น เขาเดินทางไปยังดาว Mustafar ดาวที่เต็มไปด้วยลาวา สถานที่ต้นกำเนิดการเป็นดาร์ธเวเดอร์ เขาเดินทางไปยังปราสาทเก่าของเวเดอร์ และฟอร์ซโกสต์ของ ลุค สกายวอล์คเกอร์ก็ตามมาหลอกหลอนไคโล เรน

                หลังจากนั้นไคโล เรนก็ได้ตัดสินใจเดินทางไปเพื่อค้นหาอาจารย์ของพัลพาทีน ที่ชื่อ Tor Valum ซิธผู้เก่าแก่เพื่อฝึกฝนให้เขาสามารถนำพาทั้งเจไดและซิธไปถึงจุดจบให้ได้ตลอดกาล ซึ่งไคโล เรนในเวอร์ชั่นนี้ร้ายกาจจนกู่ไม่กลับ ไม่มีการกลับใจใด ๆ ทั้งสิ้น

 

 

                ทางฝั่งของ เรย์ นั้น พ่อและแม่ของเธอก็ยังเป็นคนธรรมดาอยู่เช่นเคย แต่สิ่งที่หดหู่ยิ่งกว่านั้นก็คือ ไคโล เรนเป็นคนสังหารพวกเขาทั้งคู่ตามคำสั่งของสโน๊ค อย่างไรก็ตาม เรย์ยังคงเชื่อว่าในตัวของไคโล เรนยังคงมีสิ่งที่ดีซ่อนอยู่ เธอจึงได้ร่วมทีมกับ โพ ดาเมรอน เพื่อที่จะนำพาจุดจบของเจไดและซิธให้มาถึงในแบบของเธอเอง

                ฉากท้ายเรื่องของภาพยนตร์นั้น เรย์ และไคโล เรน จะเผชิญหน้ากันที่ดาวปริศนาชื่อ Mortis โดยเรย์ได้รับความช่วยเหลือจากบรรดาฟอร์ซโกสต์ ทั้ง ลุค, โอบีวัน และโยดา พวกเขาพยายามที่จะโน้มน้าวไคโล เรนให้กลับมาสู่ด้านสว่าง แต่ไคโล เรนไปไกลเกินกว่าจะกู่กลับมาได้แล้ว ท้ายที่สุดเมื่อจบการต่อสู้ ไคโล เรนก็ได้สลายหายไป

 

 

                จากเรื่องราวข้างต้นนี้ คงจะได้เห็นแล้วว่ามันแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับสิ่งที่เราได้ดูกันไป แม้ว่าในเนื้อเรื่องนี้จะไม่ได้มีการระบุชัดเจนไปที่ตัวละครของเจ้าหญิงเลอา แต่เธอก็ยังคงเป็นผู้นำของฝ่ายต่อต้านอยู่เช่นเคย ชวนให้น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียวว่า หากภาพยนตร์ภาคสุดท้ายของไตรภาคใหม่ Star Wars ออกมาเป็นเช่นนี้ แฟนภาพยนตร์จะเสียงแตกแบบที่เกิดขึ้นกับ Star Wars: The Rise of Skywalker หรือไม่    

 

Source: Collider