HIGHLIGHT CONTENT

5สิ่งน่าจับตา ในอาณาจักรDisney Fox ฮีโร่-มิวแทนต์ กลับสู่ Marvel - Avatar อลังการมันส์กว่าเดิม!!

  • 98,512
  • 06 ธ.ค. 2017

 

 

แนวทางการสร้างภาพยนตร์ที่เปลี่ยนไป

                อย่างที่หลายคนทราบกันว่าแนวทางการสร้างภาพยนตร์ของดิสนีย์จะเป็นภาพยนตร์ที่เหมาะสมจะดูได้ทุกเพศทุกวัย แทบจะไม่มีฉากรุนแรงในแบบฉบับเรท R ให้เห็น เพราะฉะนั้นการที่กิจการด้านภาพยนตร์และทีวีซีรีย์จะตกไปอยู่ในมือดิสนีย์ เราอาจจะได้เห็นแนวทางใหม่ของภาพยนตร์ที่เคยอยู่ในมือของฟ็อกซ์ น่าสนใจทีเดียวว่างานนี้ดิสนีย์จะดำเนินแผนการอย่างไร แต่เราเชื่อว่าพวกเขาจะไม่ทำให้เราผิดหวังอย่างแน่นอน

 

จักรวาลมาร์เวลที่ยิ่งใหญ่ขึ้นกว่าเดิม

                สิ่งที่ทำให้เรื่องนี้กลายเป็นกระแสไปทั่วโลกโซเชียลก็คือ จักรวาลภาพยนตร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในตอนนี้อย่างมาร์เวล เพราะหากดิสนีย์ได้ฟ็อกซ์มาอยู่ในมือ นั่นหมายความว่าลิขสิทธิ์ตัวละครทั้ง Fantastic Four และ X-men จะกลับสู่อ้อมอกมาร์เวล คงต้องมาจับตามองกันต่อไปว่ามาร์เวลจะนำทั้งสองทีมที่แสนยิ่งใหญ่นี้ไปปรากฎตัวในช่วงไหนของไทม์ไลน์ภาพยนตร์ คงต้องเป็นหลังจากเหตุการณ์ใน Avengers 4 เพราะประธานใหญ่ของมาร์เวลได้ออกมาประกาศแล้วว่าพวกเขาวางแผนภาพยนตร์หลังจากนั้นไว้อีกกว่า 20 เรื่อง เป็นไปได้สูงว่าจะมีเรื่องราวของทั้งสองทีมอยู่ในแผนการ

 

ไม่ใช่แค่มาร์เวล แต่มันเป็นเรื่องของสตาร์วอร์สด้วย

                แม้ว่า Lucasfilm จะอยู่ภายใต้ดิสนีย์มาสักพักใหญ่แล้ว แต่ลิขสิทธิ์ทั้งหมดของภาพยนตร์เรื่อง Star Wars ก็ไม่ได้อยู่ในความครอบครองของ Disney เสียทีเดียว เพราะหนึ่งในนั้นอย่าง Star Wars: A New Hope นั้นก็ไม่ได้เป็นลิขสิทธิ์โดยสมบูรณ์ของลูคัสฟิล์ม เพราะในช่วงการสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้นั้น 20th Century Fox เป็นคนให้ทุนสร้าง เพราะฉะนั้นหากฟ็อกซ์ตกเป็นของดิสนีย์ นั่นหมายความว่าพวกเขาจะสามารถนำภาพยนตร์ภาคที่ว่ามาทำการตลาดใหม่ได้สะดวกมากยิ่งขึ้น เช่น การออก Boxset DVD ทุกภาคของ Star Wars เป็นต้น

 

ดิสนีย์จะกลายเป็นมหาอำนาจทางโลกภาพยนตร์

                ไม่ใช่แค่มาร์เวล หรือสตาร์วอร์สเท่านั้นที่จะเป็นตัวทำงานให้กับดิสนีย์ เพราะหากฟ็อกซ์เลือกดิสนีย์แล้ว อีกหนึ่งแฟรนไชส์ยักษ์ใหญ่ที่อยู่ในมือของเจ้าจิ้งจอกสองพันปีอย่าง Avatar ก็จะตกเป็นสิทธิ์ของดิสนีย์เช่นกัน ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นแล้ว ดิสนีย์จะกลายเป็นสตูดิโอภาพยนตร์ที่มีมูลค่าทางธุรกิจมหาศาลยิ่งกว่าเดิม จนสามารถตั้งตัวเป็นมหาอำนาจทางโลกภาพยนตร์ได้ไม่ยาก นอกจากนี้แล้วยังสามารถขยายกิจการลงไปในสวนสนุกได้อีกด้วย เรียกได้ว่าหากดีลนี้ประสบความสำเร็จ ดิสนีย์จะยิ่งใหญ่อย่างที่เราคาดคิดกันไม่ถึงอย่างแน่นอน

 

 

                หากพูดให้มันเนิร์ด ๆ หน่อยก็คือ ตอนนี้ดิสนีย์กำลังทำตัวเหมือนกับทานอสใน Avengers: Infinity War แต่ต่างกันตรงที่พี่วายร้ายมันม่วงออกเดินทางตามล่าเก็บอัญมณีทั้งหมดให้ครบ แต่สำหรับดิสนีย์คือ การเดินหน้ากวาดลิขสิทธิ์ภาพยนตร์ทั้งหมดมาไว้ในมือ ในขณะที่หลายคนกังวลว่าเป็นเช่นนี้ เราจะได้ดูภาพยนตร์ที่ไม่เปิดกว้างด้านความรุนแรงที่สมจริง แต่ส่วนตัวเราแล้วเชื่อว่าดิสนีย์มีแผนสำหรับเรื่องดังกล่าว และพวกเขารู้ว่าอะไรคือสิ่งที่แฟนภาพยนตร์ต้องการ

 

                อย่างไรก็ตาม รอชมหนึ่งในภาพยนตร์ที่เป็นเหมือนไข่ทองคำของดิสนีย์ จักรวาลภาพยนตร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด กับการสรุปรวมการเดินทางกว่า 10 ปีของจักรวาลภาพยนตร์มาร์เวล ที่หากวัดจากตัวอย่างแล้วมันดูมืดมน และหม่นหมองเสียจนแทบไม่เชื่อว่าจะออกมาจากสตูดิโอที่สดใสอย่างพวกเขากับ Avengers: Infinity War กำหนดฉาย 26 เมษายน 2018

 

เรียบเรียงจาก: http://comicbook.com/movies/2017/11/06/disney-fox-star-wars-marvel/#1