HIGHLIGHT CONTENT

อ่านรีวิวนี้แล้วจะเข้าใจ ว่าทำไมคอหนังลงความเห็นว่า Warcraft จำเป็นต้องมีภาคต่อ!!

  • 99,833
  • 09 มิ.ย. 2016

อ่านรีวิวนี้แล้วจะเข้าใจ ว่าทำไมคอหนังลงความเห็นว่า
Warcraft จำเป็นต้องมีภาคต่อ!! 

 

 ไม่บ่อยนักที่เราจะมีโอกาสได้ดูหนังที่สร้างจากเกมส์สุดยิ่งใหญ่และถ่ายทอดความเป็นเกมส์ ผสมลงไปหนังทำออกมาได้อย่างสนุกไม่ทิ้งตัวตนเดิมของเรื่องราว สำหรับ Warcraft นี่คือความรู้สึกแรกหลังจากที่เราดูจบ และฟันธงได้เลยว่าจุดเริ่มต้นของมหาศึกครั้งนี้ โดนใจคนที่เคยเล่นเกมส์มาก่อนแน่นอน รวมถึงอาจจะได้ใจคอหนังแฟนตาซีที่ชื่นชอบเรื่องราวของสงครามระหว่างอาณาจักร แฟนตาซี เวทมนตร์และเผ่าพันธุ์ที่หลากหลายเหนือมนุษย์  Warcraft  สามารถเสิร์ฟความฟินได้อย่างเต็มที่ให้เราได้อย่างไม่ผิดหวัง 

 

 

เรื่องราวของ  Warcraft เริ่มต้นขึ้นเมื่อความล่มสลายของแผ่นดินออร์ค ทำให้พวกมันรวมเผ่าทั้งหลาย เดินทางอพยพข้ามประตูมิติมายังอาณาจักรที่ชื่อว่า อาเซร็อธ ซึ่งเป็นที่อยู่อันสงบสุขของมนุษย์  เอล์ฟ คนแคระ และโทรล พวกออร์คเริ่มยึดครองพื้นที่และจับสิ่งมีชีวิตไปเป็นเชลย เพื่อใช้เป็นฟืนในการเปิดประตูมิติอีกครั้งเพื่อให้ออร์คในอีกมิติหนึ่งข้ามมาได้ทั้งหมด สร้างความเดือดร้อนให้กับปวงประชา ทำให้กองทัพของคิงเลน ต้องออกมาจัดการสงครามในครั้งนี้เพื่อปลดปล่อยปวงประชา โดยมีโลธาร์ นำทีมเป็นแม่ทัพ รวมถึงได้รับความช่วยเหลือจากเมดิฟห์ผู้ทำหน้าที่เทพพิทักษ์คอยใช้พลังสายเวทย์ช่วยเหลือด้วย

แต่สงครามนี้มันไม่ง่ายอย่างที่คิด เพราะในกลุ่มของออร์คเองก็มี กูลดัน  ออร์คที่มีเฟล (พลังเวทย์ด้านมืด) ที่สามารถดูดกลืนพลังจากสิ่งมีชีวิตได้คอยบงการอยู่เบื้องหลัง โดยที่มี ดูโรทัน ออร์คหัวหน้าเผ่าหนึ่งไม่เห็นด้วยกับแนวคิดการยึดครองอาณาจักรของ กูลดัน  ทำให้เรื่องราวเริ่มมีความซับซ้อนมากยิ่งขึ้น นี่ยังไม่นับรวมตัวละครอีกมากกว่า 10 ตัวที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับสงครามครั้งนี้ ความมันส์จึงบังเกิดขึ้นบนอาณาจักรแห่งอาเซร็อธ 

 

"สำหรับออร์คทั้งชีวิตรู้จักแต่สงคราม หากได้มนุษย์ช่วยเราจะรู้จักคำว่า สันติภาพ "

 

 

สำหรับภาคนี้หนังใช้ชื่อว่า Warcraft: The Beginning ซึ่งทำให้รู้เลยว่าเรื่องราวไม่ได้จบในตัวอยู่แล้วและเป็นเพียงจุดเริ่มต้นเพื่อปูไปสู่ภาคต่อไป ทำให้หนังเน้นพาเราไปรู้จักตัวละครต่างๆทั้งกลุ่มของมนุษย์และออร์ค ทั้งฝ่ายดีและฝ่ายร้าย และด้วยความที่ตัวละครมันเยอะมาก ทำให้เรารู้ได้เพียงว่า ตัวนั้นตัวนี้มีพลังอะไรบ้าง มีนิสัยจิตใจเป็นอย่างไร แต่ยังคงไม่พาเราไปรู้จักกับที่มาที่ไปแบบเจาะลึก ความเป็นไปของแต่ละตัว ซึ่งนั่นก็อาจจะเข้าใจได้ว่า หนังอาจจะเล่าให้เห็นในภาคต่อไป ความสนุกของ Warcraft คือการไม่อาจคาดเดาได้ว่า ฉากต่อไปของหนังเรื่องราวจะเป็นยังไง มันสามารถพลิกได้ตลอดเวลา แต่นั่นก็อาจจะทำให้คนดูที่ไม่เคยเล่นเกมส์อาจงงเล็กน้อย แต่หนังก็คลายความ งง ในอีกหลายๆฉากต่อมาตามหลัง ทำให้  Warcraft  ดูเพลินไปตลอดทั้งเรื่อง แม้จะไม่เคยเล่นเกมส์มาก่อนก็สามารถเข้าใจ เข้าถึงโลกของมันได้ไม่ยากเกินไป 

ส่วนยอดเยี่ยมของ Warcraft: The Beginning คือการสร้างโลกของเกมส์ให้ออกมาเป็นภาพจริง ซึ่งทีมสร้างก็ทำออกมาได้อย่างสมศักดิ์ศรีของเกมส์ระดับตำนานทั้งฉากเมือง หอคอย ปราสาทและฉากสู้รบ การออกแบบตัวละครที่ทำให้คนดูรู้สึกสัมผัสถึงความคุ้นเคยในสิ่งที่พวกเขารัก ทั้งเสื้อผ้า อาวุธและการสร้างตัวละครออร์คที่ใช้เทคนิค CGเข้าช่วย แต่มันไม่หลอกตาเลย หนังมีการใส่ใจรายละเอียดในด้านนี้อย่างมาก ในหลายฉากก็มีการยึดเอาภาพในเกมส์ออกมาให้ดูสเกลใหญ่ขึ้นเต็มตาจนเราแทบไม่ละสายตาจากจอหนังเลย ผสานซาวด์ดนตรีที่ฮึกเหิมเพิ่มความลุ้นระทึกให้กับหนังไปอีก

 

 

งานด้านภาพสามารถเทียบชั้นหนังแฟนตาซีรุ่นพี่อย่าง the lord of the ring ได้เลย ส่วนตัวแล้วชอบเวลาที่ แค็ดการ์ ตัวละครที่เคยฝึกเป็นผู้พิทักษ์และมีพลังวิเศษ ทุกครั้งที่เขาหลายเวทย์ออกมา สะกดสายตาคนดูเหมือนดูหนังไซไฟผสมแฟนตาซีเลย  อีกฉากเด็ดคือฉากต่อสู้ท้ายเรื่องทั้งลุ้นและอลังการเมื่อเราเห็นออร์คนับร้อยเต็มสนามศึก ใครอยากรู้ว่าจะอลังการแค่ไหนต้องลองไปดูเองแล้วจะรู้ว่า หนังทำออกมาได้อย่างไม่เสียของ 

 Warcraft: The Beginning คือจุดเริ่มต้นของสงครามที่เราต้องตามต่อไป สิ่งที่หนังบอกเราคือ ความมันส์รออยู่เบื้องหน้าท่านแน่นอน อย่าพลาดเข้าร่วมศึกระหว่างสองเผ่าพันธุ์นี้ไปด้วยกัน หนังฉายในระบบดิจิตอล และ ดิจิตอล 3 มิติ  

 

" เราจะสู้ด้วยกันหรือ....ตายด้วยกัน "

 

 

กำเนิดศึกสองพิภพ

  • 26 May 2016
  • Adventure / ผจญภัย / แฟนตาซี /
  • 123 นาที
15+

ข่าวที่เกี่ยวข้อง