เจาะลึกVFX จากแอนิเมชั่น Abominable สร้างเจ้าเอเวอเรสต์ ยังไงให้น่ารัก-น่ากอด

เมื่อถึงเวลาต้องใส่วิชวลเอฟเฟ็กต์ให้กับทุกอย่าง การเดินทางของทีมผู้สร้างมีความท้าทายและการค้นพบมากมาย “เอเวอเรสต์เป็นงานสร้างที่สนุกครับ เพราะเขาเป็นทั้งความท้าทายทางเทคนิคและเป็นงานที่ต้องคิดสร้างสรรค์” เอ๊ดเวิร์ดส์กล่าว “เขาเริ่มต้นในภาพยนตร์เรื่องนี้โดยเขาเหมือนอสูรกาย ซึ่งดูน่ากลัว พอๆ กับเขาที่เขาจะต้องดูตัวใหญ่ น่ารัก น่ากอด ขนฟู เรารู้ว่าเขาจะต้องมีเสน่ห์อย่างมาก และจะต้องทำให้คนดูรู้สึกผูกพัน แต่เขาก็คือความยากในการทำงานแอนิเมต รวมถึงการต้องทำให้ขนเบาฟูของเขาดูลงตัวและมีทรงรูปที่เหมาะสม” เพื่อจะทำให้สิ่งเหล่านี้มีความสมบูรณ์ ทีมศิลปินของเอ๊ดเวิร์ดส์ต้องทำงานอย่างใกล้ชิดกับทีม R&D เพื่อสร้างโมเดลเส้นขน และยังมีเรื่องของการสะท้อนแสงที่ทำให้เอเวอเรสต์ ตามคำบอกของเอ๊ดเวิร์ดส์ “ดูดี เบา และขนฟู”

การแสดงออกและความมหัศจรรย์ของเยติที่เรารัก ก็เป็นปัญหายุ่งยากเช่นกัน “ก็อย่างที่ แซนดี้ เกา ริกกิ้งซูเปอร์ไวเซอร์ของเรายืนยัน มีความท้าทายสูงมากในการสร้างใบหน้าที่ต้องเปิดออกเกือบครึ่งหนึ่ง” เอ๊ดเวิร์ดส์อธิบาย “เอเวอเรสต์มีปากขนาดใหญ่ และเราก็ต้องใส่ฟันบนและฟันล่างของเขา ขณะที่ต้องให้ความรู้สึกในส่วนของปาก ทั้งหมดนี้จะต้องมีขณะที่ต้องทำให้เขาดูน่ารักและมีเสน่ห์ด้วย ทั้งหมดเป็นปัญหาที่มีความซับซ้อนที่เราต้องแก้ให้ได้ครับ”

เพราะงานสร้างตัวละคร เอเวอเรสต์ ต้องพึ่งพิงกับพื้นที่รอบๆ ตัวเขา ทีมวิชวลเอฟเฟ็กต์จึงต้องใช้ลูกเล่นในการวางองค์ประกอบเพื่อให้แน่ใจว่าตัวละครตัวอื่นๆ ก็ต้องมีความชัดเจนให้มากที่สุดเช่นกัน

ทีมงานร่วมมือกับผู้กำกับศิลป์ พอล ดันแคน เพื่อสร้างเส้นขนสีขาวที่จะต้องดูโดดเด่นออกมาจากก้อนเมฆและหิมะ ซึ่งทำให้ทีมผู้สร้างมีโทนสีในภาพเพื่อให้เห็นเอเวอเรสต์ท่ามกลางวัตถุสีขาวในแต่ละฉาก การจะทำงานนี้ให้สำเร็จได้ ทีมศิลปินของคัลตันใช้เรื่องของการจัดแสงและเงา รวมถึงช่องว่างในก้อนเมฆหรือก้อนหินในพื้นที่ที่มีหิมะปกคลุม เพื่อให้แน่ใจว่า เอเวอเรสต์ จะโดดเด่นออกมา หรือกลมกลืนไปอย่างน่าดู

“พอลเคยพูดว่าการสร้างเอเวอเรสต์ก็เหมือนการวาดรูปหมีขั้วโลกในพายุหิมะครับ” ไวลเดอร์แมนอธิบาย “ทีมของเขาพบวิธีที่งดงามในการใช้แสงเงา โดยเฉพาะเมื่อเราไปถึงหิมาลัย ตัวอย่างเช่น กับเงาด้านข้างของเทือกเขาที่ เอเวอเรสต์ ยืนอยู่ เมื่อแสงตกกระทบเขา พวกเขาใช้แสงตัดกับความมืดเพื่อดึงตัว เอเวอเรสต์ ให้โดดเด่นออกมาอย่างที่เราต้องการ จากนั้น ยังมีอีกหลายช่วงเมื่อคุณอยากให้เขากลมกลืนไปกับสภาพแวดล้อม เพื่อที่เขาจะได้หลบสายตาคนได้ เราแสดงให้เห็นว่าองค์ประกอบเหล่านี้มีส่วนอย่างไรที่ทำให้คนหาเยติไม่เจอ และสิ่งมีชีวิตพวกนี้อาจจะอยู่ที่นั่นจริงๆ ก็ได้ มันคือการพรางตัว และเป็นความมหัศจรรย์ของธรรมชาติที่ทำให้พวกเราไม่เคยเห็นพวกมัน”

ถึงแม้ว่างานสร้างเอเวอเรสต์ที่อยู่กับตัวละครตัวอื่นๆ จะเป็นงานยาก เมื่อคิดว่าพวกเขาจะต้องไปอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีแต่หิมะ หรือในสภาพอากาศที่อบอุ่นกว่า แต่เยติก็ยังมีความซับซ้อนที่จะมอบชีวิตให้ เมื่อเขาอยู่เพียงลำพังบนจอ ในฉากสำคัญเมื่อ เอเวอเรสต์ อยู่ท่ามกลางหิมะตกและมีลมพัด โปรดักชั่นดีไซเนอร์ได้ใช้ข้อมูลอ้างอิงเกี่ยวกับแสง อากาศ โทนสีที่มีความเป็นสีพาสเทลในธรรมชาติ “เราใช้สี รวมถึงโครงสร้าง เพื่อทำให้เอเวอเรสต์โดดเด่นออกมาบนจอ” เอ๊ดเวิร์ดส์อธิบาย “ตัวอย่างเช่น เราใช้สีส้มทับสีม่วง หรือใช้สีชมพูทับสีฟ้า มันเป็นลูกเล่นมากกว่าสภาพแวดล้อมที่เขาอยู่กับเด็กๆ ในฉากพวกนั้น เขาคือคนที่เราต้องลดระดับสีลงเพื่อให้แน่ใจว่าเด็กๆ จะโดดเด่นออกมาจนได้รับความสนใจ”