จับเท็จเหตุสยอง Enfield Poltergeist เรื่องจริงหรือลวงโลก
ในปี 1977 เหตุการณ์ที่เป็นกลายเป็นประเด็นสนใจอย่างกว้างขวางในสหราชอาณาจักร คือกรณีที่สถานีโทรทัศน์บีบีซี ได้เปิดเผยเทปกรณี Enfield Poltergeist เหตุสยองในบ้านหลังหนึ่งที่มีคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวและลูกๆอีก 4 คน ซึ่ง เจเน็ต ฮอดจ์สัน เป็นเหยื่อของเหตุสยองในครั้งนี้ และหนึ่งสิ่งที่สร้างความตกตะลึงคือระหว่างการสัมภาษณ์ เจเน็ต อยู่ดีๆเสียงของเจเน็ตก็เปลี่ยนไปกลายเป็นเสียงของชายแก่พร้อมกับตอบคำถามเกี่ยวกับสาเหตุการตาย สร้างความสะพรึงให้กับผู้ที่ได้รับชมเป็นอย่างมาก
โดยหลังจากเทปดังกล่าวออกอากาศได้มีนักวิจัยด้านอาถรรพ์วิทยา รวมถึงผู้เชี่ยวชาญด้านพฤติกรรมเด็กได้ออกมาวิเคราะห์ถึงข้อเท็จจริงต่างๆนาน โดยข้อสันนิษฐานเกิดจากความแคลงใจระหว่างการสัมภาษณ์ เมื่อผู้สื่อข่าวคนหนึ่งพยายามถามเจเน็ตว่า รู้สึกอย่างไรที่ถูกผีตามหลอกหลอน? โดยเจเน็ต ตอบกลับไปว่า มันไม่ได้รู้สึกหลอนแต่อย่างใด ซึ่งขณะนั้นเอง มาร์กาเร็ตพี่สาวที่นั่งอยู่ข้างๆก็ได้ขัดจังหวะและบอกให้เธอหุบปากซะ
รวมไปถึงยังมีการตั้งข้อสังเกตว่าเสียงที่เกิดขึ้นอาจจะเป็นความผิดปกติทางกล่องเสียงของเจเน็ต และถ้อยคำในการให้สัมภาษณ์ยังเป็นคำประโยคแบบเด็กๆ แม้ Maurice Grosse ชายผู้เป็นพยานและพยายามตามติดในเรื่องดังกล่าวจะยืนยันว่าบันทึกเทปของเจเน็ตไม่มีการใช้กลลวงหรือทำขึ้นมาอย่างแน่นอน ซึ่งนักมายากลชื่อดังอย่าง Bob Couttie เขาได้ฟังเทปแล้วบอกว่า สิ่งที่ได้ฟังในเทปไม่มีอะไรเกินความสามารถกว่าจินตนาการของวัยรุ่น
Joe Nickell นักอาถรรพ์วิทยา ได้วิพากษ์วิจารณ์ว่า เรื่องดังกล่าวเป็นเพียงความงมงายและเสียงที่เกิดขึ้นเหมือนว่าริมฝีปากของเจเน็ตแทบจะไม่ขยับด้วยซ้ำ มันคือความผิดปกติของเสียง นอกจากนี้ในเรื่องของภาพถ่ายที่พบว่าเจเน็ตลอยตัวอยู่กลางอากาศนั้น ช่างภาพที่ถ่ายได้ก็ไม่ได้อยู่ในห้องของพวกเธอในระหว่างที่เกิดเหตุ แต่เป็นการควบคุมกล้องถ่ายภาพนิ่งจากระยะไกล ซึ่งอากัปกิริยาของเจเน็ตในตอนนั้นดูเหมือนว่าเธอกระโดดอยู่บนเตียงผ้าใบให้ลอยขึ้นมากกว่า โดยปรากฏการณ์นี้สามารถอธิบายได้ง่ายๆว่ามันเป็นความแผลงของเด็กเท่านั้นเอง